Kathalaya จุดประกายการปฏิวัติหนังสือเด็กในเนปาล
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 สำนักพิมพ์ Kathalaya ภายใต้การนำของ ราชีฟ ดาร์ โจชิ (Rajeev Dhar Joshi) ได้เติบโตจากสำนักพิมพ์หนังสือเด็กขนาดเล็ก สู่ผู้นำสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านในเนปาล สิ่งที่เริ่มต้นจากความพยายามเติมเต็มช่องว่างในตลาดหนังสือภาพสำหรับเด็กของเนปาล ได้กลายเป็นกระแสระดับชาติที่เปลี่ยนโฉมหน้าการเรียนรู้และความผูกพันของเด็กๆ กับหนังสือ
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
ในช่วงแรก ราชีฟต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ไม่สนใจผลิตหนังสือภาพสำหรับเด็ก โดยมองว่าไม่ทำกำไร ในขณะนั้น หนังสือเด็กส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นโดยองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ (i-NGOs) เช่น UNICEF และ Room to Read ตลาดหนังสือเด็กเชิงพาณิชย์แทบไม่มีตัวตน
ตระหนักถึงความสำคัญของหนังสือภาพในการพัฒนาทักษะการอ่านของเด็กปฐมวัย ราชีฟจึงตัดสินใจก่อตั้ง Kathalaya ซึ่งกลายเป็นสำนักพิมพ์แห่งแรกในเนปาลที่มุ่งเน้นการผลิตหนังสือภาพสำหรับเด็กในเชิงพาณิชย์
“หนังสือภาพมีความสำคัญอย่างยิ่ง” ราชีฟเน้นย้ำ “พวกมันเป็นรากฐานในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตลอดชีวิต” ความมุ่งมั่นของเขาส่งผลให้ภาคเอกชนเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ปัจจุบันมีการตีพิมพ์หนังสือภาพมากกว่า 350 เรื่องต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผลิตโดย i-NGOs เพียง 100 เรื่องต่อปี
เส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยง่าย ในช่วงแรก Kathalaya ต้องโน้มน้าวให้ร้านหนังสือยอมวางจำหน่ายหนังสือเด็ก โดยถึงขั้นต้องจัดทำชั้นหนังสือและมุมจัดแสดงขึ้นเองเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับหนังสือภาพ ปัจจุบัน Kathalaya กระจายหนังสือไปยังร้านหนังสือกว่า 60 แห่ง ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ เมื่อเทียบกับอดีตที่แทบไม่มีร้านใดยอมจำหน่ายหนังสือเด็กเลย
นอกจากนี้ หลายโรงเรียนในเนปาลเริ่มบรรจุหนังสือเหล่านี้เข้าไปในหลักสูตร สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของหนังสือภาพในการศึกษาของเด็กๆ
ความท้าทายที่ยังคงอยู่
แม้ว่ารัฐบาลเนปาลจะจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้งห้องสมุดในโรงเรียนรัฐบาล แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ครูจำนวนมากไม่ทราบว่าจะเลือกหนังสือประเภทใด และ ขาดแนวทางในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านในหมู่นักเรียน
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ราชีฟและทีมงาน Kathalaya จึงได้พัฒนา แนวทางการคัดเลือกและพัฒนาหนังสือ (Book Development and Selection Guideline) ขึ้น ซึ่งพวกเขาหวังว่ากระทรวงศึกษาธิการจะให้การรับรองอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ หากได้รับการอนุมัติ แนวทางนี้อาจเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่กระตุ้นให้โรงเรียนสั่งซื้อหนังสือคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนในช่วงวัยต่างๆ
ก้าวไกลสู่ระดับภูมิภาคและโลก
นอกเหนือจากเนปาล ราชีฟยังมองเห็นแนวโน้มเชิงบวกในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะ บังกลาเทศและอินเดีย ที่ตลาดหนังสือภาพและวรรณกรรมเยาวชนกำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก หนังสือภาษาอังกฤษเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขายังเตือนถึง การลดความสำคัญของภาษาท้องถิ่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ
อนาคตของอุตสาหกรรมหนังสือในเนปาล
ความสำเร็จของ Kathalaya แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรมหนังสือของเนปาล ราชีฟมองว่า เวทีหนังสือนานาชาติแห่งเอเชียใต้ (South Asia International Book Fair) เป็นโอกาสสำคัญในการ ส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค และ เปิดประตูสู่วรรณกรรมเนปาลสู่สายตาชาวโลก
ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐและการร่วมมือกับสำนักพิมพ์นานาชาติ ราชีฟเชื่อมั่นว่า วัฒนธรรมการอ่านของเนปาลจะเติบโตอย่างมั่นคง
เขาทิ้งท้ายด้วยข้อความถึงผู้อ่านทั่วโลกว่า
"จงอ่านต่อไป หนังสือนำพาทั้งความสุขและความรู้ และพวกมันคือประตูสู่การค้นพบโลกกว้าง"