BookGoodCome สำนักพิมพ์เล็กๆ สัญชาติเกาหลี ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง : ผู้เชื่อว่าหนังสือที่ดีจะหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเรา

BookGoodCome สำนักพิมพ์เล็กๆ สัญชาติเกาหลี ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง

       ทุกท่านสงสัยกันหรือไม่ว่าสำนักพิมพ์เล็กๆ สัญชาติเกาหลีอย่าง BookGoodCome ซึ่งผลิตหนังสือวรรณกรรมเด็กจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ทางเราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคุณซูนยอง ลี เจ้าของสำนักพิมพ์เพื่อตีแผ่เรื่องราวและวิสัยทัศน์ของสำนักพิมพ์

 

จุดเริ่มต้นเล็กๆของสำนักพิมพ์

     BookGoodCome ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย ซูนยอง ลี (Soonyoung Lee) และ รอรี ลี (Rury Lee) ซูนยอง ในวัยย่าง 40 ปี มีความปรารถนาที่จะทำตามความฝันที่มีความหมายและเป็นความชอบของเธอด้วยการเดินทางเข้าสู่โลกของสำนักพิมพ์ อีกทั้งคุณสมบัติที่เรียนจบด้านภาษาอังกฤษและความหลงใหลในวรรณกรรม ได้จุดประกายไอเดียในการเริ่มต้นทำสำนักพิมพ์ ในขณะนั้นรอรีก็กำลังเป็นที่รู้จักในวงการแปลหนังสือเด็กและเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับหนังสือภาพในหนังสือพิมพ์ ความสนใจและความเชี่ยวชาญของพวกเขาทั้งสองคนจึงเกิดการรวมตัวกันเพื่อก่อตั้ง BookGoodCome

      จุดเริ่มต้นของ BookGoodCome นั้นเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยพันธกิจที่ทรงพลัง นั่นคือการผลิตหนังสือที่ปลอบประโลมและหล่อเลี้ยงจิตใจ "ไม่ว่าหนังสือจะสร้างเสียงหัวเราะ กระตุ้นอารมณ์ร่วม หรือเปิดมุมมองใหม่ๆ พวกเราเชื่อว่าหนังสือที่ดีจะหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเรา" ซูนยอง ลี กล่าวเสริมว่าในฐานะผู้พิมพ์ พวกเขารักหนังสือตลกชวนขบขันและให้ความสุข
 

การคัดสรรเรื่องราวอย่างตั้งใจ

     การคัดสรรเรื่องราวสำหรับการตีพิมพ์เป็นเรื่องยากที่ต้องไตร่ตรองอย่างดี ซูนยอง ลี ถือว่าเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบที่สำคัญ "เวลาที่พวกเราเลือกเรื่องราวเพื่อตีพิมพ์ เรามองหาความเป็นเอกลักษณ์ มุมมองใหม่ๆ และหาเรื่องราวที่สามารถสร้างความสุขได้" พวกเขาตั้งใจค้นหาเรื่องราวจากนักเขียนทั้งในและต่างประเทศและความมุ่งมั่นในการค้นหาหนังสือที่ถ่ายทอดข้อคิดและคติสอนใจ รวมถึงหนังสือที่ให้ความสุขแก่เด็กๆ ซึ่งทำให้สำนักพิมพ์ของพวกเขาโดดเด่นจากสำนักพิมพ์ที่มีอยู่มากมายบนโลกนี้

 


บทบาทของหนังสือในยุคดิจิทัล

     เมื่อถูกถามถึงความจำเป็นของหนังสือในโลกดิจิทัลที่มีสื่อหลายรูปแบบ ซูนยองยังเชื่อว่าหนังสือที่มีภาพวาดประกอบที่สวยงามพร้อมข้อความ ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งซึ่งจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านการมองโลกอย่างสมดุล ทักษะการตัดสินใจและระบบความคิดอย่างมีเหตุผล

     สำหรับ BookGoodCome มีคำตอบชัดเจนเสมอว่า "ศิลปะแขนงนี้ไม่เพียงให้ความรู้แก่เด็กๆแต่ยังเป็นพลังเสริมสร้างให้เด็กเข้าใจโลก พัฒนาความสามารถในการสื่อสารและคิดวิเคราะห์ อีกทั้งยังช่วยให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถหลายด้าน" ซูนยอง ลี กล่าว เธอเชื่อว่าหนังสือเด็กไม่เพียงแต่ช่วยเป็นพลังเปลี่ยนแปลงเด็กแต่ยังรวมไปถึงผู้อ่านที่เป็นผู้ใหญ่อีกด้วย

     "อิทธิพลของศิลปะด้านนี้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในด้านของสิ่งแวดล้อมหรือจุดชนวนเริ่มต้นความเห็นอกเห็นใจเรื่องความด้อยโอกาสในสังคม ทุกๆ อย่างเป็นไปได้เพราะอิทธิพลของศิลปะสามารถสร้างอารมณ์ร่วมขึ้นในหัวใจของผู้คน"

 


วิสัยทัศน์สำหรับอนาคต

      เมื่อพูดถึงอนาคต ซูนยองกล่าวว่าเป้าหมายของสำนักพิมพ์ BookGoodCome นั้นจะยังคงเป็นเป้าหมายที่เรียบง่าย กล่าวคือจะยังคงตีพิมพ์หนังสือที่เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก และเนื่องจาก BookGoodCome ทำการขายลิขสิทธิ์ให้สำนักพิมพ์ต่างชาติมากขึ้นกว่าเดิม เธออยากจะลงทุนกับหนังสือภาพของนักเขียนเกาหลีให้มากกว่าการนำหนังสือต่างประเทศเข้ามาแปลและตีพิมพ์ "พวกเรามุ่งมั่นในการค้นหานักเขียนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและมีเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อแชร์ให้กับคนทั่วโลก ฉันอยากจะตีแผ่ความสุขผ่านหนังสือส่งไปให้ทั่วโลก"

 

 

การได้รับเสนอชื่อเข้าชิงสำนักพิมพ์เด็กยอดเยี่ยมแห่งปี

      BookGoodCome เพิ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Bologna Prize 2024 สำหรับหนังสือเด็กยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งถือเป็นการเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติประจำปีจากสำนักพิมพ์ยอดเยี่ยมหลายแห่งทั่วโลก โดยผ่านการแนะนำจากสำนักพิมพ์ สมาคมสำนักพิมพ์ และสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการอ่าน แม้ท้ายที่สุด BookGoodCome จะไม่ได้รับรางวัล ซูนยองก็เชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเป็นที่ยอมรับในความมุ่งมั่นและความเป็นเลิศของพวกเขา

     "เพื่อนสำนักพิมพ์ต่างก็ร่วมแสดงความยินดีกับเราในงาน ฉันจะจดจำคืนนั้นไปอีกนาน สำนักพิมพ์จากทั่วโลกมาร่วมกันฉลองหนังสือที่ยอดเยี่ยมและให้กำลังใจกันและกัน ฉันรู้สึกตื้นตันจริงๆ กับบรรยากาศในงาน นี่คือสิ่งที่ฉันปรารถนาจะบรรลุกับหนังสือของฉัน คือผ่านการยอมรับ ความเคารพ และการสนับสนุน ฉันหวังว่าทุกสิ่งในจักรวาลนี้จะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข"

 

Writer

Pairat Temphairojana

นักเขียนผู้รักการสะสมงานศิลปะและการจิบกาแฟ