BASIC TEEORY เครื่องประดับจากกระดาษ : แบรนด์เครื่องประดับที่ใช้กระดาษเป็นวัสดุ สร้างมูลค่าให้ของเหลือใช้เป็นสินค้าแฮนด์เมดดีไซน์เก๋

BASIC TEEORY เครื่องประดับจากกระดาษ

 

เพราะความหลงใหลในการทำเครื่องประดับบวกกับอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองทำให้คุณตี๋-วรชัย ศิริวิภานันท์ ตัดสินใจสร้างแบรนด์ BASIC TEEORY ขึ้นมา โดยหยิบเอากระดาษเหลือใช้ที่หลายคนมองว่ามันเป็นขยะมาทำเป็นเครื่องประดับดีไซน์เก๋ ทั้งความครีเอทที่นำเอาวัสดุที่หลายคนมองข้ามมาทำให้เกิดมูลค่า ทั้งความประณีตในการผลิตชิ้นงานด้วยมือทุกขั้นตอน แถมยังดีไซน์ออกมาได้สวยหรูดูมีเอกลักษณ์ จึงทำให้หลายประเทศสนใจมาติดต่อขอซื้อไปขาย ปัจจุบัน BASIC TEEORY มีวางจำหน่ายที่หลายโรงแรมชั้นนำของไทยและในแกลเลอรีอีกหลายประเทศ แต่กว่าจะได้เฉิดฉายอวดโฉมให้ชาวโลกได้เห็นความสวยจากเครื่องประดับฝีมือคนไทยอย่างทุกวันนี้ คุณตี๋บอกว่าเขาต้องอดทนและพยายามมานับครั้งไม่ถ้วนทีเดียว

 

“จริงๆ ก็คือเริ่มต้นอาชีพเป็นนักออกแบบ ตี๋เคยเป็น Design Assistant ให้กับนักออกแบบชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง โปรดักส์ที่ทำจะเป็นพวกของตกแต่งบ้าน แล้ววัสดุที่ใช้มันไม่ใช่วัสดุธรรมดา อย่างเช่นหนังแกะของนิวซีแลนด์ หรือขนแมวน้ำซึ่งปัจจุบันน่าจะหาไม่ได้แล้ว เอามาทำปลอกหมอน ทำถาดใส่เครื่องประดับอะไรอย่างนี้ พอเอามาทำยังไงมันต้องเหลือ Waste อยู่แล้ว ซึ่งวัสดุพวกนี้มันมีคุณค่ามีราคา ทิ้งมันไม่ได้ เขาก็เลยให้เราเอาของที่เหลือพวกนี้มาดีไซน์เป็นเครื่องประดับขาย แต่ไม่ใช่ว่าดีไซน์หนึ่งชิ้นแล้วเราจะผลิตห้าสิบหรือหนึ่งร้อยชิ้นนะครับ เพราะวัสดุมันมีแค่สำหรับหนึ่งหรือสองชิ้นเท่านั้น ซึ่งเราเริ่มสนุกกับวิธีการทำงานแบบนี้ คือว่ามันมีวัสดุอะไรให้ทำเราก็ต้องทำออกมา ตอนนั้นก็เลยมีความคิดว่าอยากที่จะมีแบรนด์ทำเครื่องประดับของตัวเอง อยากจะทำเครื่องประดับของเราในวิธีการของเรา มันเริ่มจากตรงนั้นครับ”

 

BASIC TEEORY เครื่องประดับจากกระดาษ

 

เลือกใช้วัสดุใกล้ตัว หาง่าย ช่วยให้การผลิตไม่ซับซ้อน

“ตอนเรายังทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ สิ่งที่เราเจอก็คือกระดาษ เราก็เริ่มจากเอากระดาษพวกนั้นมาทดลองทำ ทำแล้วเราก็แจกให้เพื่อนเอาไปใส่แล้วมาบอกว่าเป็นยังไง ทนไหม ใส่แล้วคันไหม เอาจริงๆ มันไม่เวิร์คหรอก ครั้งแรกที่เราทำกระดาษมันก็ยังเป็นกระดาษ ซึ่งตี๋คิดว่าถ้าเป็นคนอื่นก็คงคิดว่ามันไม่เวิร์ค จบ เปลี่ยน แต่เรากลับมองอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าทำให้มัน functional จุดอ่อนที่มันไม่เหมาะมันอาจจะเป็นจุดขายของสินค้าได้ เราเลยคิดว่าต้องพัฒนาตัวกระดาษก่อน เลยไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์ คือที่โรงพิมพ์เขามีกระดาษที่เป็น Waste ที่ต้องทิ้งอยู่แล้ว เราเลยได้ตรงนั้นมา เราก็เริ่มใช้กระดาษตรงนั้นเอามาทำชิ้นงาน แล้วก็หาวิธีการทำให้มันทนทานจากการใช้งาน ให้มันทนเหงื่อ ทนชื้น ทนน้ำ”

 

 

เป็นงานทำมือทุกชิ้น ผลิตอย่างประณีตทุกขั้นตอน

“เราเริ่มจากการเลือกกระดาษว่าความหนาหรือแกรมยังไงที่มันทำงานได้ดีที่สุด ตอนแรกเราก็เคยลองใช้กระดาษดับเบิ้ลเอที่เป็นกระดาษรีไซเคิล แต่ว่ามันไม่ได้ เพราะมันมีความหนา และกระดาษที่มันผ่านมือมาแล้วเรามองด้วยตาไม่เห็นหรอกว่ามันไม่สมูธ เวลาที่เราม้วนหลายๆ เลเยอร์ทับเข้าไปรอยงอรอยพับเหล่านั้นมันสร้างโพรงอากาศระหว่างเลเยอร์ ทำให้เวลาม้วนมันไม่แนบเป็นก้อนสนิท แต่กระดาษที่เราได้จากโรงพิมพ์มันไม่เคยผ่านมือมา มันแค่โดนเจียนทิ้งแล้วเราเก็บมา เราพยายามเก็บสภาพมันให้ดีที่สุดไม่ให้มีรอยยับ แล้วเวลาม้วนมันก็จะคลีน วิธีการที่เราเลือกตัว Bonding ก็มีผล เราทดลองมาแล้วเกือบทุกอย่าง จนตอนนี้เรารู้แล้วว่ากาวอะไรที่มันทนทาน แน่น และก็สะอาดที่สุด แต่ถามว่าเราใช้เครื่องมืออะไรไหม ไม่ได้ใช้ ก็ใช้งานมือนี่แหละ เป็นแฮนด์เมดหมดครับ เพียงแต่ว่าเราก็จะมีเทคนิควิธีการของเรา”

 

BASIC TEEORY เครื่องประดับจากกระดาษ

 

ดีไซน์ทุกส่วนของวัสดุให้เกิดประโยชน์เพื่อลดการเกิดขยะ

“กระบวนการผลิตของเราแทบจะ Zero Waste คือเราพยายามจะให้เหลือ Waste ให้น้อยที่สุด อย่างเช่นเชือกในการถักตัวสร้อยกระดาษเหล่านี้ไม่ว่ามันจะเหลือสั้นแค่ไหนเราก็เก็บนะ ไม่ได้โกยลงถังขยะ เชือกเหล่านี้มันก็สามารถเอามาดีไซน์ทำแท็กห้อยสินค้าได้ อะไรต่อได้เราก็ต่อ อย่างพวกแถบผ้าเวลาเราร้อยหรือผูกแล้วมันมีที่เราจะต้องตัดทิ้ง เราก็จะเอาที่เหลือนั่นมาเย็บแล้วเก็บใส่กล่องไว้ มันยังสามารถเอามาดีไซน์เป็นโปรดักส์อื่นได้ต่อ เอาจริงๆ สินค้าเราก็ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์รีไซเคิลขนาดนั้น หลักๆ เราใช้วัสดุรีไซเคิล แต่มันก็จะมีวัสดุใหม่มาประกอบตกแต่งด้วย แต่ว่าเราก็เห็นคุณค่าของทั้งของใหม่และของเก่าหรือขยะพวกนี้ครับ”

 

BASIC TEEORY เครื่องประดับจากกระดาษ

 

เน้นออกขายไปเจอลูกค้าจะทำให้หาตลาดที่เหมาะกับสินค้าได้ง่ายขึ้น

“ของของเรามันไม่ได้เป็นของที่เข้าใจง่ายขนาดที่เราขายออนไลน์แล้วลูกค้าจะตัดสินใจซื้อ เราไม่ได้ขายสร้อยซิลเวอร์หรือสร้อยเงินที่คนเข้าใจว่าน้ำหนักมันเป็นยังไง ใช้งานยังไง เอาจริงๆ ถึงเราบอกว่าสร้อยหนัก 110 แกรม คุณจินตนาการไม่ออกหรอกว่า 110 แกรมมันหนักแค่ไหน ลูกค้าบางคนยังถามกลับมาเลยว่าเป็นกระดาษแล้วมันยับไหม เราก็เลยรู้แล้วว่าออนไลน์มันไม่เวิร์คในช่วงเริ่มต้น เพราะลูกค้ายังไม่ได้มีความรู้และเข้าใจในสินค้าของเรา เพราะฉะนั้นเราก็เลยพยายามที่จะเน้นออฟไลน์ เราใช้วิธีการขายเอง หามาร์เก็ต หาอีเวนท์ที่เราจะไปขายเอง ปรากฏว่าวิธีการนี้ทำให้เราเห็นลูกค้าเราชัดขึ้น เราชัดขึ้นว่าลูกค้าไม่ใช่คนไทย เป็นต่างชาติเกือบทั้งนั้นเลย ซึ่ง 70% คือเยอรมัน แล้วพอดีมีโอกาสได้วางขายในโรงแรม ปรากฏว่ายอดขายดีมาก เราก็เริ่มที่จะเน้น distribution ที่เป็นแกลเลอรีในโรงแรมเป็นหลัก หลังจากนั้นก็มีโรงแรมที่ต่างประเทศเริ่มติดต่อเข้ามาเอาของเราไปขายครับ”

 

 

สร้างคุณค่าให้วัสดุที่คนมองข้ามคือความตั้งใจหลักของแบรนด์

“ที่ขายอยู่ตอนนี้จะมี 3 คอลเลคชั่น หนึ่งคือ Paper you can wear จะเป็นกระดาษรีไซเคิล สองคือ The Beauty of Remains คอลเลคชั่นนี้เราพยายามแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของเศษซากจากหลายวัสดุ ที่เราใช้ก็จะมีพวกท่อยางถักกับเศษผ้า เศษด้าย ถักเป็นสร้อยกับกำไลข้อมือ แล้วก็พวกกระดาษและพวกกระสอบเอามาพับแล้วใช้เทคนิคการเย็บสมุดแบบโบราณทำเป็นเครื่องประดับ ซึ่งอันนี้ขายดี แต่วัสดุหายากมากและทำยากมาก อีกอันก็คือใช้เศษแก้ว เศษกระจก ก้อนกรวด ใส่เข้าไปใน Glass Tube ทำเป็นสร้อย อีกหนึ่งคอลเลคชั่นคือ Shine Wood Memory ซึ่งเราเอาพวกของเล่นเด็ก ตัวต่อ พวกนี้เอามาทำ ทุกคอลเลคชั่นเราเน้นการใช้วัสดุที่คนมองข้ามหรือคิดว่ามันไม่มีราคา เราพยายามที่จะโชว์คุณค่าของเครื่องประดับในแง่วัสดุ โชว์ว่าวัสดุทุกอย่างมันมีคุณค่า ไม่จำเป็นต้องเป็นอัญมณีมีค่ามันก็มีค่าได้ครับ”

 

BASIC TEEORY เครื่องประดับจากกระดาษ

 

อยากสำเร็จต้องมุ่งมั่นตั้งใจเพราะกรุงโรมก็ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว

“ปัญหาอย่างหนึ่งในงานของเราคือสื่อสารยากมาก แรกๆ ลูกค้าไม่ได้มีความรู้และเข้าใจในสินค้าของเรา ที่ผ่านมาเราอาจจะเจอวันที่ขายไม่ได้เลยสักชิ้น หรือเราเอางานของเราไปเสนอแกลเลอรีแล้วโดนปฏิเสธ มันคือมันร้ายๆ ของเรา แต่เราก็ Keep Going ไป สุดท้ายพอเรากลับมาที่สตูดิโอ เรานั่งทำงานของเรา ทุกอย่างมันจบแล้ว หมายความว่าเราก็ยังมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ มันไม่ใช่ว่าเมื่อวานฉันขายไม่ได้เลยสักชิ้น แล้วต่อไปอีก 365 วันจะขายไม่ได้เลยสักชิ้นเดียว มันไม่ใช่ ทุกคนมีทั้งวันที่ดีและวันที่ไม่ดี กรุงโรมไม่ได้สร้างขึ้นมาแค่วันเดียว มันไม่ได้มีวันดีทุกวันหรอก แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยความรักที่จะทำมัน เราไม่ได้เริ่มทำจิวเวลรีเพราะต้องการอยากมีชื่อเสียงหรือได้เงินทองเยอะมากมาย แต่เราเริ่มจากความชอบ เราอยากหาอะไรทำที่เรามีความสุข ทุกวันนี้เราทำในสิ่งที่เรามีความสุขและลูกค้าเรามีความสุข ตี๋ก็ถือว่าตี๋ประสบความสำเร็จแล้วครับ”

 

 

 

Writer

Au Thitima

Content Creator ผู้รักในการอ่าน ชอบในการเขียน และคลั่งไคล้สัตว์สี่ขาที่เรียกว่าแมว