เสือดำ : เสือดำช่วยเสือมเหศวร (ตอน 2) : เสือดำ ขุนโจรลูกผู้ชายแห่งเมืองสุพรรณ

เสือดำ : เสือดำช่วยเสือมเหศวร (ตอน 2)

ผลงานโดย ป. อินทรปาลิต

สำนักพิมพ์ : ผดุงศึกษา

ภาพ : อาภรณ์ อินทรปาลิต

 

เสือดำช่วยเสือมเหศวร

 

         ในราวครึ่งชั่วโมง เจ้าทวนก็ควบขับม้ากลับมายังค่ายอย่างรีบร้อน เสียงฝีเท้าม้าที่ใกล้เข้ามาทำให้เสือดำและสมุนโจรพากันลุกขึ้นยืนและจ้องเขม็งมองดูเจ้าทวนด้วยความกระหายที่จะทราบเรื่องราว เสียงปืนที่ยิงตอบโต้กันยังคงดังอยู่ แต่ไม่รุนแรงหนาแน่นเหมือนตอนแรก

         เจ้าทวนเผ่นแผล็วลงมาจากหลังม้า ตรงเข้ามาหาเสือดำผู้เป็นนายของเขา แล้วรายงานให้ทราบ

         “กองปราบพิเศษครับ พี่ดำ”

         ขุนโจรลืมตาโพลง

         “ฟาดกับพวกไหนวะ เสือแก้วหรือว่าเสือไสว?”

         “มเหศวรครับ”

         “มเหศวร!” เสือดำอุทานขึ้นดังๆ “อ้ายมเหศวรแอบมาตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆ กับพวกเราเมื่อไหร่หว่า เอ็งเข้าไปดูเหตุการณ์ในระยะใกล้ชิดหรือ?”

         “ครับ ผมผูกม้าไว้ในป่าแล้วปีนขึ้นไปดูเชิงเขา แลเห็นเสือมเหศวรกับบริวารราวยี่สิบคนกำลังตั้งมั่นรับมือกับกองปราบพิเศษโดยอาศัยก้อนหินเป็นที่กำบังตน”

         “แล้วยังไง?” เสือดำถามด้วยความสนใจยิ่ง

         “กองปราบพิเศษมีจำรวนไม่ต่ำกว่าห้าสิบคนครับ แต่งเครื่องแบบทุกคน กำลังแบ่งกำลังกันเข้าตีโอบ ซึ่งผมมองเห็นถนัด น่ากลัวว่าเสือมเหศวรคงจะย่อยยับภายในชั่วโมงนี้ เพราะมีกำลังน้อยกว่าเจ้าหน้าที่มาก”

         ขุนโจรยกมือขวาลูบคลำคางของเขา ขมวดคิ้วย่นมองไปทางเสียงปืนซึ่งยังคำรามอยู่ ในที่สุด เขาก็พูดกับบริวารของเขา

 

เสือดำช่วยเสือมเหศวร

 

         “อ้ายน้องชาย ข้าอยากจะแสดงน้ำใจลูกผู้ชายของข้า และข้าต้องการให้เพื่อนเสือด้วยกันได้เห็นว่านายโจรอย่างข้าไม่ได้มีความอาฆาตพยาบาทใครเลย ฉะนั้นข้าคิดว่าพวกเราควรจะยกไปช่วยเสือมเหศวรรับมือกับตำรวจเดี๋ยวนี้ พวกเจ้าจะเห็นอย่างไรบ้าง?”

         เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นทันที

         “ดีเหมือนกันครับพี่ดำ” สมุนโจรคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ถึงอย่างไรเสือมเหศวรก็เป็นโจรเช่นเดียวกับพวกเรา ถ้าหากว่าพี่ดำไม่รีบไปช่วยเหลือก็น่ากลัวว่าเสือมเหศวรกับบริวารของเขาคงจะถูกตำรวจยิงตายราบภายในชั่วโมงนี้”

         เจ้าทวนเอ่ยขึ้น

         “ผมกล้ารับรองว่าเสือมเหศวรกับพรรคพวกไม่มีทางจะรอดพ้นมือกองปราบไปได้เลย เพราะผมได้สังเกตเห็นตำรวจกำลังบุกเข้าล้อมเสือมเหศวรทั้งสี่ด้าน เสียงปืนทางฝ่ายเสือมเหศวรก็เบาลงมาก อาจจะเป็นเพราะกระสุนปืนมีน้อย

         เสือดำกวาดสายตามองไปรอบๆ

         “ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปช่วยเพื่อนเสือของข้าเดี๋ยวนี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เสือมเหศวรเจตนาร้ายต่อข้าและพวกเรา แต่ครั้งหนึ่งมเหศวรก็เคยช่วยชีวิตข้ามาแล้ว บุญคุณอันใหญ่หลวงของเขาข้าไม่เคยลืม ม่ายงั้นข้าคงยิงเสือมเหศวรทิ้งเสียแล้ว เพราะข้ามีโอกาสตั้งหลายครั้งแต่ข้าก็ไม่ทำ ง่า-ใครว่าไม่สมควรที่พวกเราจะไปช่วยเหลือเสือมเหศวรขอให้ยกมือขึ้น ข้าจะถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นสำคัญ เพราะการไปช่วยเหลือเสือมเหศวรก็หมายความว่าพวกเราทุกคนจะต้องเผชิญกับกระสุนปืนของตำรวจ หากพลาดพลั้งก็ต้องตาย”

         ไม่ปรากฏว่ามีใครยกมือขึ้นเลย หมายความว่าทุกคนลงมติเห็นชอบด้วย ขุนโจรยิ้มออกมาได้

         “เตรียมตัวเดินทาง” เขาออกคำสั่งอย่างเฉียบขาด “กระสุนของเราจะต้องเอาติดตัวไปให้มากที่สุด ข้าให้เวลาเตรียมตัวห้านาที”

         ทันใดนั้น บรรดาสมุนโจรทั้งหลายต่างก็วิ่งกลับเข้าไปในกระท่อมที่พักของตน และหลังจากนั้นทยอยกันออกมาพร้อมด้วยปืนยิงเร็วคู่มือ ทุกคนมีย่ามสะพายบ่า ในย่ามบรรจุตับกระสุนปืน ยากรักษาบาดแผลสด และเครื่องใช้ไม้สอยบางอย่างเท่าที่จำเป็น เมื่อทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว ขุนโจรก็สั่งเคลื่อนขบวนรบทันที กองโจรของเสือดำซึ่งมีไพร่พลเกือบ ๕๐ คน ต่างมุ่งตรงไปยังที่ซึ่งเสือมเหศวรและตำรวจกำลังประจัญบานกันอยู่

         เสียงปืนยังคงดังกึกก้องอยู่ตลอดเวลา และใกล้เสียงปืนเข้าไปทุกที เสือดำพาบริวารของเขาวิ่งบ้างเดินบ้าง บุกป่าฝ่าดงไปอย่างเร่งร้อน และให้เจ้าทวนล่วงหน้าไปก่อน ทำหน้าที่เป็นกองระวังหน้า

         ราว ๒๐ นาที คณะโจรเสือดำก็มาถึงยังที่ขุนโจรมเหศวรกับกองปราบพิเศษทำการณรงค์กันอย่างดุเดือด ซึ่งขณะนี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ล้อมไว้ทั้งสี่ด้านแล้ว ฝ่ายโจรกำลังระส่ำระสาย ต่อสู้แบบสุนัขจนตรอก และกระสุนก็ร่อยหรอไป ซึ่งบางคนหมดกระสุนแล้วต้องทำการยิงอย่างประหยัดที่สุด ทางตำรวจไม่มีความประสงค์ที่จะจับเป็น เพราะทราบดีกว่าอย่างไรเสียพวกโจรก็จะต้องต่อสู้จนวินาทีสุดท้าย ฉะนั้นต่างก็ระดมยิงพวกโรเพื่อสังหารให้สิ้นไป

         เสือดำสั่งให้บริวารของเขาปีขึ้นทางหลังเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง เมื่อมาถึงยอดเขาซึ่งมีต้นไม้ปกคลุมอย่างหนาแน่น เสือดำกับสมุนโจรก็มองลงมาข้างล่างแลเห็นการต่อสู้อย่างถนัด ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในเครื่องแบบเรียงรายไปหมด กำลังเคลื่อนที่รุกล้ำเข้าไปยังแนวต้านทานของเสือมเหศวรทุกขณะ ไพร่พลของเสือมเหศวรถูกกระสุนปืนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่นอนตายเกลื่อนกลาด เสือมเหศวรสวมเสื้อกั๊กสีแดงลงยันต์ นั่งคุกเข่ากำลังตัวอยู่เบื้อหลังหมู่ก้อนหินอันเป็นที่มั่นครั้งสุดท้ายของเขา มือถือสะเต็นกระชับมั่นยกขึ้นประทับกราดกระสุนไปทางเจ้าหน้าที่เป็นชุดๆ บริวารของเสือมเหศวรยังเหลือทำการรบเพียง ๖ คนเท่านั้นเอง รวมกันอยู่เป็นที่มั่นเป็นกลุ่ม

 

เสือดำช่วยเสือมเหศวร

 

         เสือดำสั่งให้บริวารของเขาแยกออกเป็นสองพวก พวกละ ๒๒ คน ให้สมุนโจรคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้มีอายุควบคุมพวกหนึ่งเข้าโจมตีด้านหลังกองปราบพิเศษทางลำห้วยมี่มองแลเห็นข้างหน้า ส่วนขุนโจรคุมบริวารอีกพวกหนึ่งอ้อมไปทางซ้ายเพื่อเข้าตีโอบหลัง

         ครั้นแล้วกองโจรของเสือดำก็เริ่มปฏิบัติการรบทันที ทุกคนใจเต้นระทึกไปตามกัน การปะทะกับกองปราบพิเศษย่อมหมายถึงการเสียเลือดเนื้อและชีวิตซึ่งเปรียบเหมือนกับสาดน้ำรดกัน

         อีกสักครู่หนึ่ง เสียงปืนยิงเร็วทางฝ่ายเสือดำก็ดังระรัวขึ้นทางด้านหลังของกองปราบพิเศษทั้งสองด้าน ทำให้ตำรวจระส่ำระสายทันที ท่านผู้บังคับกองปราบรู้ทันทีว่าเสือมเหศวรได้รับกำลังรบเพิ่มเติม แต่จะมีจำนวนมากน้อยเพียงใดนั้นเขาไม่อาจจะทราบได้ เมื่อ พ.ต.ท. ประชาเห็นว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่อยู่ในฐานะเสียเปรียบ ก็สั่งให้ตำรวจทั้งสี่ด้านล่าถอยมารวมกำลังกันเพื่อตำรวจจะได้ใช้ระเบิดมือและเครื่องพ่นไฟทำการต่อสู้

 

เสือดำช่วยเสือมเหศวร

 

         สัญญาณของผู้บังคับกองปราบคือเสียงนกหวีด กองปราบพิเศษต่างถอนตัวจากการรบ ล่าถอยออกมาอย่างมีระเบียบเรียบร้อย เสือดำนำพรรคพวกรุกไล่ทันที คราวนี้ตำรวจเป็นฝ่ายล่าถอยและพวกโจรเป็นฝ่ายรุก แต่แล้วเมื่อตำรวจกองปราบทั้งหมดกลับมารวมกำลังกันได้ ผู้บังคับกองปราบพิเศษก็สั่งให้ตำรวจใช้ลูกระเบิดมือขว้างสกัดกั้นการบุกของฝ่ายเสือดำ

         เสียงลูกระเบิดมือดังสนั่นลั่นป่า สมุนโจรของเสือดำถูกชิ้นระเบิดสิ้นชีวิต ๒ คน กองโจรของเสือดำต้องหมอบเข้าหาที่กำลังเท่าที่จะหาได้ ขุนโจรได้บัญชาการรบอย่างเข้มแข็ง ส่งสัญญาณมือเรียกกองโจรของเขาอีกกองหนึ่งให้รุกเข้ามารวมกันเพื่อต้านทานตำรวจ

         แล้วแนวรบของฝ่ายโจรกับกองปราบพิเศษก็ยันอยู่ในระหว่างที่ราบสูง เสียงปืนยังอยู่ตลอดเวลา เสือดำสั่งให้บริวารของเขายิงตรึงตำรวจไว้แล้ว เขาก็ลุกขึ้นวิ่งก้มตัวไปตามสุมทุมพุ่มไม้ บ่ายหน้าตรงไปยังที่มั่นของเสือมเหศวร

         ขณะนี้มเหศวรกับบริวารของเขากำลังได้รับความตื่นเต้นแปลกใจอย่างที่สุด เสือมเหศวรกำลังคิดว่าชีวิตของเขากับสมุนโจรคงจะถึงวาระสุดท้าย แต่แล้วก็บังเอิญได้รับความช่วยเหลือจากพวกโจรด้วยกัน ซึ่งเขาไม่อาจจะทราบได้ว่าเป็นโจรคณะใด ตำรวจหลายคนถูกกระสุนทางฝ่ายเสือดำล้มกลิ้ง ทำให้เสือมเหศวรและพรรคพวกมีขวัญและกำลังใจดีขึ้นมาก คล้ายกับว่าตายแล้วเกิดใหม่

         เมื่อเสือดำถือท็อมสันวิ่งเข้ามายังที่มั่นและชูมือซ้ายโบกให้เสือมเหศวรแสดงความเป็นมิตร เสือมเหศวรก็ตะลึงพรึงเพริดและลืมตาโพลง เขานึกถึงว่ากองโจรที่มาช่วยเขานี้คือกองโจรในบังคับบัญชาของเสือดำคู่อริของเขาและผู้ที่เสือมเหศวรกำลังพยาบาทมาดร้ายอยู่

         “เสือดำ” เสือมเหศวรร้องลั่น ใบหน้าที่เคร่งเครียดตลอดเวลาเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส

         ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ยื่นมือขวาให้เสือมเหศวรจับ

         “กันมาเยี่ยมแก มเหศวร เสียงปืนที่พวกแกยิงต่อสู้กับตำรวจได้ยินไปจนถึงค่ายของกัน กันให้คนของกันมาลาดตระเวนดู เขากลับไปบอกกันว่าพวกแกกำลังถูกกองปราบพิเศษล้อม กันก็รีบระดมพลรบของกันยกมาช่วยแก มเหศวรแกปลอดภัยแล้ว เห็นไหม บริวารของกันกำลังยิงตรึงตำรวจอย่างกล้าหาญ”

         ด้วยน้ำใจดีของเสือดำทำให้ความอาฆาตพยาบาทความแค้นเคืองและความความชิงชังของเสือมเหศวรที่มีต่อเสือดำได้สูญสิ้นไปจากความรู้สึกทันที มเหศวรสวมกอดเสือดำแน่น

         “อ้ายเพื่อนรัก กันและพวกเราที่เหลือตายอยู่นี้รอดตายเพราะความอารีของแกแท้ๆ กันไม่รู้จะพูดขอบใจแกอย่างไรจึงจะสมกับที่แกเสี่ยงภัยเสี่ยงชีวิตนำบริวารขอแกมาช่วยกันจนทำให้กองปราบซึ่งตั้งล้อมพวกกันอยู่ต้องล่าถอยกันไป ถ้าแกไม่มาช่วย กันและพวกของกันก็ต้องตายแน่ๆ”

         ขุนโจรหัวเราะ มองไปยังแนวรบข้างหน้า เสียงลูกระเบิดมือทางฝ่ายตำรวจได้ดังขึ้นอีก ๒-๓ ครั้ง แต่ภูมิประเทศอันหนาแน่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยเป็นเครื่องกำบังบริวารของเสือดำแคล้วคลาดอันตรายจากลูกระเบิดมือของตำรวจ

         “อย่าเพิ่งพูดอะไรกันเลยมเหศวร พาพวกแกไปกับกันเถอะ กันไม่มีความประสงค์ที่จะให้บริวารของกันสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย กันจะสั่งให้ล่าถอยเข้าป่าลึกเดี๋ยวนี้”

         มเหศวรเสือร้ายปลาบปลื้มใจเป็นล้นพ้น เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเสือดำจะมีน้ำใจอันน่าบูชาเช่นนี้ เสือมเหศวรสั่งให้สมุนของตนลุกขึ้นจากที่กำบัง ครั้นแล้วก็ติดตามเสือดำไปยังแนวรบซึ่งตำรวจกับพวกโจรกำลังปะทะกันอยู่อย่างดุเดือด

         กองปราบพิเศษพยายามจะเข้าโจมตีโอบปีก แต่ภูมิประเทศทางขวาเป็นทุ่งหญ้า ฉะนั้นเสือดำจึงเห็นตัวเจ้าพนักงานเสียก่อน เขาสั่งให้ปีกซ้ายล่าถอยลงมาทันที

         อีกสักครู่หนึ่ง ขุนโจรก็ร้องตะโกนออกคำสั่ง

         “เสือดำ-เสือมเหศวร ถอย อ้ายเสือ-ถอย!”

         คำสั่งคือคำสั่ง พลรบฝ่ายเสือดำล่าถอยทันที ทั้งๆ ที่กำลังยิงปืนอย่างมันมือ ๒ ขุนโจรได้ร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว สายตาของเสือมเหศวรที่มองดูเสือดำเต็มไปด้วยความรักและเคารพในน้ำใจอันดีงามของเสือดำ ศัตรูคู่อาฆาตของเขา กองโจร ๒ พวกรวมกำลังเป็นกองเดียวกันแล้ว และเสือดำเป็นผู้บังคับบัญชา ขุนโจรพาบริวารล่าถอยในลักษณะสู้พลางหนีพลาง สักครู่หนึ่งพวกโจรก็ข้ามลำธารบ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตก

         พ.ต.ท. ประชาสั่งตำรวจในบังคับบัญชาของเขาติดตามทันที เสียงปืนของฝ่ายโจรไม่ใคร่จะปรากฏ เพราะต้องการหลบหนีมากกว่าที่จะคิดต่อสู้ พวกโจรถอยเข้าป่าลึกซึ่งเต็มไปด้วยเถาวัลย์และเรียวหนามยากที่จะมองเห็นตัวกัน ความได้เปรียบในภูมิประเทศช่วยให้พวกโจร ๒ คณะหลบหนีไปได้โดยสวัสดิภาพ เสือดำสั่งให้บริวารทั้งหมดหลบหนีล่วงหน้าไปก่อน และให้รีบกลับไปยังค่าย เขากับเสือมเหศวร ๒ คนคอยยิงปะทะตำรวจไว้ และเนื่องจากฝ่ายเจ้าพนักงานมองไม่อาจจะทราบว่าตามสุมทุมพุ่มไม้อันหนาแน่นจะมีพวกโจรดักซุ่มคอยยิงตำรวจหรือไม่ จึงทำให้การรุกไล่ของกองปราบพิเศษเป็นไปด้วยความล่าช้า ผิดกว่าทางฝ่ายโจรซึ่งวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

         ๒ ขุนโจรแอบแฝงตัวอยู่หลังจอมปลวกแห่งหนึ่ง เสือดำถือท็อมสัน ส่วนเสือมเหศวรถือสะเต็น ทั้งสองยกปืนขึ้นประทับเตรียมพร้อม เมื่อกองระวังหน้าของตำรวจคนหนึ่งปรากฏตัวให้เห็น ขุนโจรทั้งสองก็เหนี่ยวไกปล่อยกระสุนออกจากลำกล้องพร้อมๆ กัน

         เหยื่อของนายโจรทั้งสองคือนายสิบตำรวจตรีในเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คนหนึ่ง เขาล้มฮวบลงสิ้นใจตายมองเห็นถนัด แต่ในทันใดนั้นเอง เสียงปืนยิงเร็วกระบอกหนึ่งก็ดังคำรามขึ้นทางซ้ายมือที่สองเสือแฝงตัวอยู่

         ร.ต.ต. ร่างเล็กประทับท็อมสันระดมยิงมายังขุนโจรทั้งสอง มเหศวรรีบนอนราบกับพื้น กระสุนนัดหนึ่งถูกต้นแขนขวาของเสือดำ ทำให้เขาเสียวปลาบและสะดุ้งเฮือก แต่ก็รีบหมอบลงข้างๆ เสือมเหศวร กระสุนอีกหลายนัดข้ามศีรษะไปอย่างน่าหวาดเสียว

         “เสือดำ” เสือเมหศวรอุทานขึ้น “แกถูกปืนหรือนี่?”

         ขุนโจรพยักหน้า เขาไม่ได้สนใจกับบาดแผลของกระสุนปืนเลย

         “ไม่เป็นไร นิดหน่อยเท่านั้น” พูดจบก็ปล่อยกระสุนท็อมสันยิงโต้ตอบกับนายตำรวจหนุ่ม ยังผลให้เจ้าพนักงานต้องหยุดยิงและรีบนั่งลงกำลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง

 

เสือดำช่วยเสือมเหศวร

 

         “ไปได้ไหมเสือดำ?” มเหศวรถามด้วยความเป็นห่วง

         เสือดำหัวเราะ

         “กันยังเข้มแข็งเสมอ ไปเถอะโว้ยมเหศวร วิ่งไปนี้ หลอกให้ตำรวจติดตามไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับค่ายของกัน”

         ทั้งสองต่างลุกขึ้น เสือดำยิงปืนขึ้นฟ้า ๑ ชุดเพื่อให้กองปราบรีบรุดมาที่เสียงปืน แล้วเขาก็วิ่งนำหน้าพาเสือมเหศวรบุกป่าฝ่าดงไป

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ