Daymond John เศรษฐีพันล้านที่สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเอง จากธุรกิจแฟชั่น เจ้าของแบรนด์ FUBU “For Us, By Us” โดยเขาริเริ่มเกี่ยวกับธุรกิจแฟชั่นที่เกิดขึ้นมาจากตอนที่แม่ของเขาสอนเขาเกี่ยวกับวิธีการตัดเย็บเสื้อผ้าต่าง ๆ และสนับสนุนเขาให้เป็นนักธุรกิจโดยใช้บ้านไปจำนองเพื่อมาเป็นทุนในการก่อตั้งบริษัท
Daymond John เกิดและเติบโตที่เมือง Queens ใน New York ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาเป็นเด็กเพียงคนเดียวในครอบครัวที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยแม่และปู่ของเขา ซึ่งงานแรกที่เขาได้ทำก็คือ การเป็นเด็กแจกใบปลิวและเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารที่ร้าน Red Logster โดยเขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Bayside High School ซึ่งเขาได้เข้าร่วมโปรแกรมที่อนุญาตให้นักเรียนสามารถทำงานแบบ Full-time ควบคู่กับสลับกับการเรียนแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ได้ ซึ่งเขาให้ความสำคัญกับการฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต และหลังจากที่เขาจบการศึกษาในโรงเรียนระดับมัธยมแล้ว เขาก็ได้เริ่มธุรกิจแรก โดยให้บริการเช่ารถตู้
ต่อมา Daymond John ได้สังเกตเห็นในท้องตลาดขายหมวกไหมพรมถักสำหรับเล่นสกี ขายกันอยู่ที่ราคา 20 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เขาคิดว่ามันแพงโอเวอร์มากเกินไป เขาจึงกลับมาที่บ้าน แล้วลงมือถักหมวกไหมพรมแฮนเมดขึ้นมา จากนั้นก็ไล่ตระเวนขายแก่เพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันในราคาเพียง 10 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ภายในวันเดียวเขาก็ทำเงินได้กว่า 800 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว ๆ 2 หมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว และหลังจากนั้นเขาก็ได้เพิ่มไลน์การผลิตเป็นสินค้าประเภทอื่นต่อโดยการขายเสื้อยืดที่มีลวดลายสกรีนตามงานอีเว้นท์ต่าง ๆ และเมื่อ Daymond John ค่อนค้างที่จะมั่นใจในการต่อยอดในธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นนี้แล้ว เขาและแม่ของเขา ก็นำบ้านไปจำนองกับธนาคาร เพื่อนำเงินจำนวน 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว ๆ 3 แสนกว่าบาท) มาเป็นทุนในการสร้างบริษัท
ลองไปเปิดหนังสือเล่มโปรด ที่หล่อหลอมความคิด สร้างธุรกิจของเขาให้ประสบความสำเร็จกันค่ะ
“Think and Grow Rich” เขียนโดย Napoleon Hill
"คิดแล้วรวย" เป็นผลงานเรื่องเยี่ยมของ "นโปเลียน ฮิลล์" ที่สร้างแรงจูงใจสู่ความสำเร็จและสร้างเศรษฐีมาแล้วหลายต่อหลายคน! ฮิลล์ใช้เวลากว่า 30 ปี ในการร่วมมือกับผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของสหรัฐอเมริกา เพื่อเรียนรู้ว่า "ทำไมพวกเขาจึงประสบความสำเร็จ ในขณะที่คนอื่นล้มเหลว" และมหาเศรษฐีผู้มีชื่อเสียงกว่า 500 คน ก็ได้เปิดเผยถึงเคล็ดลับที่พวกเขาใช้ เพื่อฉุดตัวเองจากความยากจน และสร้างสรรค์ความสำเร็จให้ตัวเองไว้ในหนังสือเล่มนี้
"คิดแล้วรวย" เป็นยิ่งกว่าหนังสือเพื่อพัฒนาตนเอง เพราะได้มอบปรัชญาแห่งความสำเร็จให้แก่คุณ พร้อมทั้งสอนคุณให้รู้ถึงวิธีการที่จะสร้างสรรค์สำนึกแห่งความสำเร็จด้วยตัวคุณเอง และเป็นแผนที่นำทางคุณไปสู่ความสำเร็จ นอกจากนี้ ในเล่มยังได้สอดแทรกกรณีศึกษาของโลกธุรกิจในยุคปัจจุบัน เพื่อการนำไปประยุกต์ใช้ รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ศาสนา วิทยาศาสตร์ หลักจิตวิทยา และหลักการครองชีวิตที่ยังคงร่วมสมัย ซึ่งนำพาผู้คนไปสู่ความสำเร็จได้ตราบจนทุกวันนี้
“How to Win Friends & Influence People” เขียนโดย Dale Carnegie
หนังสือ "วิธีชนะมิตรและจูงใจคน" เล่มนี้ เขียนโดย "เดล คาร์เนกี" นักสังเกตการณ์มนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีความเข้าใจในธรรมชาติมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง เป็นหนังสือประเภท "ฮาวทู" ที่จะช่วยสร้างสรรค์ให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมได้ดีกว่า ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การชนะใจผู้อื่นได้ด้วยการกระทำที่จริงใจ หรือด้วยคำพูดถ่อมตน ย่อมทำให้เกิดมิตรขึ้นได้ ดังนั้น การชนะมิตรที่มีเหตุผลและการใช้กุศโลบายที่แยบยล โดยไม่ทำให้เจ้าตัวทราบ จึงเป็นหนทางที่ถูกต้อง วิธีการมีอยู่แล้วในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งนักเขียนได้บรรจงเขียนออกมาอย่างสนุกสนานและน่าติดตามจนวางไม่ลง มีวิธีการเขียนแบบกึ่งเล่าเรื่องเมื่อถึงจุดที่จะเริ่มเบื่อ ก็จะเปลี่ยนแนวโดยยกตัวอย่างคนนั้นคนนี้มาเล่าให้ผู้อ่านผ่อนคลาย ดังนั้น การทำตนให้ผู้อื่นรัก ย่อมดีกว่าทำตัวให้ผู้อื่นเกลียด เพราะนั่นคือเริ่มมีศัตรู หนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกสาขาอาชีพ เพื่อการพัฒนาตนเองไปสู่การมีมิตรที่ดี และถาวรไว้กับตนเอง
Who Moved My Cheese? เขียนโดย Spencer Johnson
ที่จริง เราทุกคนย่อมรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นได้ทุกขณะแต่ความเคยชินกับสิ่งที่ทำอยู่ซ้ำเดิม และคิดว่าสิ่งนั้นดีที่สุดแล้ว ทำให้อดเป็นกังวลและต่อต้านสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ไม่ได้ เนยแข็งชิ้นเดิมที่เราว่าอร่อยล้ำนั้น แท้จริงเป็นเพราะเรายังไม่เคยได้ลิ้มรสเนยแข็งแบบอื่น ฉะนั้นเมื่อต้องสูญเสียเนยแข็งชิ้นเดิมไป คนเป็นจำนวนมากจึงรู้สึกเหมือนกับสูญเสียสิ่งที่ดีที่สุด บ่อยครั้งที่การเปลี่ยนแปลงได้นำโอกาสใหม่ๆ มาให้แต่ละคน ฉะนั้น ถ้าเราเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ก็เท่ากับเตรียมตัวเปิดทางกว้างไกลให้แก่ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ชีวิตส่วนตัว และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
กลวิธีนำเสนอของ "นายแพทย์สเปนเซอร์ จอห์นสัน" นั้นน่าสนใจมาก ด้วยการเกริ่นนำถึงความพิเศษของแนวคิดเพียงจุดเล็กๆ เรื่องเล่าของตัวละครในเขาวงกต และการอภิปรายในกลุ่มเพื่อน เพื่อสรุปแนวคิดเรื่อง "ใครเอาเนยแข็งของฉันไป" หากคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วจับประเด็นมาอภิปรายในหมู่ผู้ร่วมงานและเพื่อนฝูง น่าจะได้ตัวอย่างประสบการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในองค์กรต่างๆ หรือในชีวิตของแต่ละคน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปได้มากเลยทีเดียว
“Rich Dad Poor Dad” เขียนโดย Robert T. Kiyosaki
"พ่อรวยสอนลูก" หนังสือขายดีตลอดกาล จาก "โรเบิร์ต ที. คิโยซากิ" ที่ให้แนวคิดในการสร้างตัว สร้างชีวิต นำทางให้คุณให้หลุดพ้นไปจากสิ่งที่ผู้เขียนเรียกว่า "สนามแข่งหนู" เพื่อไปยังเส้นทางด่วนที่นำไปสู่ความมั่งคั่งและนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน
ในเล่มนี้อัดแน่นไปด้วยคำสอนและคำแนะนำเกี่ยวกับความรู้เรื่องการเงิน ที่ไม่เคยมีใครสอนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนแม้กระทั่งในโรงเรียน คนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นเพราะโรงเรียนไม่เคยสอนวิชาการเงิน ผลที่เกิดขึ้นก็คือ คนส่วนใหญ่จะทำงานเพื่อเงิน และไม่เคยรู้วิธีใช้เงินทำงานแทนเรา หนังสือเล่มนี้จะแสดงให้เห็นว่า การทำงานเพื่อเงินเดือนสูง ไม่ช่วยให้ร่ำรวยได้, "บ้าน" ไม่ใช่ทรัพย์สินอย่างที่คนส่วนใหญ่คิดกัน แต่มันคือหนี้สินต่างหาก, โรงเรียนไม่เคยสอนเรื่องการเงินให้เด็กเลย, ความแตกต่างของคำว่า "ทรัพย์สิน" และ "หนี้สิน" , วิธีสอนลูกเรื่องการเงินและวิธีประสบความสำเร็จทางการเงินแม้ว่าการเรียนแบบเก่าๆ จะยังมีความสำคัญ แต่ก็ไม่เพียงพอสำหรับโลกปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้จึงให้ความรู้เรื่องการเงินและวิธีใช้เงินที่ดีที่สุด!
“Blue Ocean Strategy” เขียนโดย W. Chan Kim and Renée Mauborgne
กลยุทธ์น่านน้ำสีครามคือแนวทางอย่างเป็นระบบที่ทำให้การแข่งขันล้าสมัยไปอย่างสิ้นเชิง ในหนังสือที่นำเสนอการเปลี่ยนกรอบความคิดเล่มนี้ คิมกับโมบอร์คนำเสนอการเปลี่ยนกรอบความคิดเล่มนี้ คิมกับโอบร์นำเสนอกรอบการวิเคราะห์ที่ได้มีการพิสูจน์แล้วรวมทั้งได้เครื่องมือที่จะสร้างและจับแนวน่านน้ำสีครามให้ประสบความสำเร็จ หลังจากได้ตรวจสอบการดำเนินการทางกลยุทธ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายแล้ว กลยุทธ์น่านน้ำสีครามได้ชูหลักการหกประการที่บริษัททุกบริษัทสามารถใช้สร้างและนำกลยุทธ์ดังกล่างไปปฎิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม หลัการทั้งหกประการที่ว่านี้ชี้ให้เห็นวิธีสร้างกรอบการตลาดใหม่ โดยเน้นที่ภาพรวม
“The One Minute Manager” เขียนโดย Kenneth Blanchard and Spencer Johnson
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะถ่ายทอดเทคนิคการจัดการ 3 ข้อ ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สร้างความพึงพอใจในอาชีพ และความเจริญก้าวหน้าในชีวิตส่วนตัว พร้อมกับเปิดเผยถึงการศึกษาหลายด้านในทางเวชศาสตร์และวิทยาศาสตร์เชิงพฤติกรรม ซึ่งให้คำอธิบายอย่างชัดเจนว่า ทำไม วิธีการที่ดูง่ายดายเช่นนี้ จึงนำไปใช้กับผู้คนจำนวนมากได้เป็นอย่างดี
"SuperFreakonomics: Global Cooling, Patriotic Prostitutes, and Why Suicide Bombers Should Buy Life Insurance" เขียนโดย Steven D. Levitt
ค้นพบคำตอบของทุกเรื่องในชีวิตประจำวัน ด้วยวิธีคิดแบบเศรษฐศาสตร์ที่ประหลาดจนคุณคาดไม่ถึง
Steven D. Levitt นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง จะพาคุณไปสำรวจและตอบคำถามอันพิลึกพิลั่นเหล่านี้ผ่านการวิเคราะห์ที่เฉียบคมและงานวิจัยอันน่าทึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทุกเรื่องในชีวิตประจำวันสามารถอธิบายและแก้ปัญหาได้ด้วยเศรษฐศาสตร์ทันทีที่อ่านจบ ถึงแม้คุณจะมองไปที่โลกใบเดิม แต่คุณก็จะได้เห็นในสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมองเห็นมาก่อนเลย
