สุกัญญา ปัญญาวิศิษฏ์กุล : อย่างน้อยมีคนอ่านงานของเรา...เท่านี้ก็ดีใจแล้ว

สุกัญญา ปัญญาวิศิษฏ์กุล

วันนี้คอลัมน์คุยนอกรอบจะพามารู้จักกับนักเขียนสาวหน้าใหม่นามว่า “สุกัญญา ปัญญาวิศิษฏ์”กุล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนักเขียนที่เข้าร่วมโครงการชมนาด บุ๊ก ไพร้ซ์ แม้ว่าจะยังไม่มีผลงานมากมายอะไรในวงการวรรณกรรมแห่งนี้ แต่ในสนามแรกถือว่าเธอคนนี้มีผลงานเข้าตากรรมการเลยทีเดียว เพราะงานของเธอได้ผ่านเข้ารอบ 8 เล่มสุดท้าย แล้วก็จะได้พิมพ์เผยแพร่กันในเร็วๆ นี้แล้ว

แนะนำตัวสักนิด
ชื่อสุกัญญา ปัญญาวิศิษฏ์กุล ชื่อเล่นหงส์ เกิดและโตที่ อ.เบตง จ.ยะลา จึงทำให้รักอำเภอเบตงมาก จบคณะวิทยาศาสตร์ จาก ม.สงขลานครินทร์

แรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ
ช่วงนั้นสุนัขที่เลี้ยงโดนรถชนตายรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ทำให้มีเวลาว่างเยอะขึ้น เพราะไม่ต้องเล่นกับสุนัขหลังเลิกงานเหมือนที่เคยทำ และพอดีช่วงนั้นได้คุยกับน้องสาว น้องก็เลยยุให้เขียนหนังสือส่งประกวด คงเพราะเห็นว่าเราชอบเล่าเรื่องที่จินตนาการให้ฟังบ่อยๆ ก็เลยมาลองเขียนดู โดยบนบานไว้ว่าถ้าเขียนหนังสือจนจบและได้ส่งเข้าประกวด น้องสาวซึ่งกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่จะสอบเข้าคณะที่ต้องการได้ ก็เลยเริ่มเขียน สักสิบวันแรกสมองไหลลื่นเพราะแค่เอาจินตนาการที่เคยเล่าให้น้องฟังมาแต่งเพิ่มให้เป็นเรื่อง หลังเลิกงานก็ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ถึงตีหนึ่งตีสอง แต่อยู่ ๆ ไฟก็หมด เลิกแตะคอมพิวเตอร์ไปเป็นเดือน แต่ก็กลับมากลุ้มใจเรื่องที่บนไว้ กลัวน้องจะสอบไม่ได้คณะที่ต้องการก็เลยต้องฮึดขึ้นมาเขียนเรื่องต่อจนจบได้

ปัจจุบันทำงานอะไรอยู่
ช่วงที่เขียนเรื่อง ช่วยพี่ทำงานที่ร้านขายจักรยานยนต์ แต่เพิ่งลาออกมาไม่กี่วันนี้ เพราะอยากกลับเบตงและอยากเป็นครู ปัจจุบันเป็นครูโรงเรียนเอกชนแถวบ้าน

มีนักเขียนในดวงใจไหม แล้วทำไมถึงชอบงานของเขา
ชอบนักเขียนทุกคนที่ทำให้เรารู้เรื่องที่เราอยากรู้ หรือได้รับรู้เรื่องที่ไม่เคยคาดคิด

มีความคิดเห็นอย่างไรกับโครงการชมนาดบุ๊ค ไพร์ซ
เป็นโครงการที่ดี ที่เปิดโอกาสให้นักเขียนหญิงทั้งมือใหม่และมืออาชีพได้แสดงความสามารถ และสนับสนุนผลงานสู่ระดับสากลที่มีความคิเหมือนนักเขียนท่านอื่นคือ เรื่องที่อยากให้คณะกรรมการแสดงความคิดเห็นในงานเขียนของเราเพื่อที่จะได้ปรับปรุงแก้ไขในโอกาสต่อไป แต่ก็เกรงอยู่ว่าหากมีการติมากเกินไปอาจเป็นการบีบกรอบความคิดของนักเขียนเหมือนกัน อือ...ที่เป็นอยู่อาจจะดีอยู่แล้วก็ได้ค่ะ

เพราะเงื่อนไขที่ทำให้สนใจที่จะส่งผลงานมาประกวด
ความจริงทุกเงื่อนไขก็น่าสนใจ แต่ที่ส่งผลงานมีเหตุผลแค่ว่าหากเราแต่งเรื่องอะไรก็ตามคงไม่มีใครอยากเสียเวลาอ่านเรื่องของเราแน่ แต่ถ้าส่งเข้าประกวดยังไงซะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายก็ต้องอ่านเรื่องที่เราแต่ง ลองคิดดูบุคคลระดับที่เราไม่อาจเข้าถึงได้ต้องอ่านผลงานของเรา แค่คิดแอบยิ้มในใจแล้ว

มีความเชื่อมั่นแค่ไหนกับระบบบรรณาธิการในปัจจุบัน
ความจริงไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับการเป็นนักเขียนสักเท่าไหร่ แต่ก็คิดว่าคงดีกว่าถ้ามีผู้ที่คอยตรวจสอบคุณภาพงานของเราก่อนที่จะถึงมือผู้อ่าน

อยากให้แสดงความคิดเห็นเรื่องเกี่ยวกับสื่ออินเทอร์เน็ตกับนักเขียนหน้าใหม่
ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแสดงความสามารถ ได้ฝึกฝีมือ อาจได้รับรู้ความคิดเห็นของผู้อ่านทำให้สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองได้

คิดอย่างไรกับการเป็นนักเขียนอาชีพคะ
สำหรับตัวเองแล้วคิดว่า ยาก เหนื่อย ต้องมีความมั่นใจในตัวเองสูงถึงจะกล้าให้คนอื่นได้รับรู้ความคิดและจินตนาการของตนเองได้

ช่วยเสนอแนวทาง ที่คิดว่าจะช่วยส่งเสริมการอ่านและการเขียนของคนในประเทศได้มากขึ้น
คิดว่าโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษามีส่วนสำคัญในการกระตุ้นและปลูกฝังให้เด็กๆ รักการอ่านได้ ต้องพยายามให้เด็กๆ มีความคิดในแง่บวกกับการอ่านหนังสือให้ได้ ไม่ควรบังคับจนอาจทำให้ เด็กๆ เกลียดหนังสือ

ฝากอะไรถึงผู้อ่านหน่อยค่ะ
อยากให้ทุกคนช่วยกระตุ้นคนรอบข้างให้รักการอ่าน อ่านเยอะรู้เยอะช่วยให้มีเหตุผลประเทศเราจะได้เจริญ

 

โดย...ฟีนิกซ์

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ