คุยนอกรอบ จิรพรรณ อังศวานนท์ : นักดนตรี โปรดิวเซอร์รุ่นเก๋า กับเส้นทางดนตรี กว่าครึ่งศตวรรษ

คุยนอกรอบ จิรพรรณ อังศวานนท์

จิรพรรณ อังศวานนท์ ผู้มีหลากหลายบทบาทในวงการเพลงไทย เป็นผู้ร่วมก่อตั้งวง Butterfly, นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ระดับตำนาน บทเพลง และคอนเสิร์ตสำคัญ เป็นอาจารย์, เพื่อน, และแรงบันดาลใจของศิลปินรุ่นหลังและคนในวงการมากมาย รวมถึงผู้ถ่ายทอดชีวิตผ่านหนังสือ "ความหลงที่ไม่ลืม" บันทึกชีวิตและเส้นทางดนตรีของตัวเอง

ประพันธ์สาส์นได้รับเกียรติได้นั่งพูดคุยอย่างสบายๆ ในบรรยากาศที่เป็นกันเองกับ คุณจิรพรรณ อังศวานนท์ นักดนตรีและโปรดิวเซอร์รุ่นเก๋า ผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงมายาวนานกว่า 50 ปี ชายผู้มากด้วยประสบการณ์หลากหลายบทบาทที่ไม่เพียงสะท้อนตัวตนและเส้นทางชีวิตของเขาเอง หากยังพาเราได้ย้อนรอยไปสู่ช่วงเวลาสำคัญของวงการดนตรีไทยตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา

 

จุดเริ่มต้นจากเพื่อนนักเรียนสู่เวทีแรก

คุณจิรพรรณเล่าว่า เขาเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรี หลังบิดาเสียชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์ ป้าผู้รักการร้องเพลงได้เป็นผู้ดูแลและซื้อกีตาร์ตัวแรกให้ เขาเริ่มต้นจากการเล่นดับเบิลเบส ก่อนที่เพื่อนสนิทอย่างคุณขวัญชัยจะสอนกีตาร์หกสายให้ ขณะยังเรียนมัธยม คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ และคุณปานสรวง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้ชวนคุณจิรพรรณและเพื่อน ๆ มารวมตัวก่อตั้งวง The Youngsters และขึ้นแสดงครั้งแรกในงานประชุมโรงเรียนที่หอประชุมอัสสัมชัญ

เพลงที่เล่นในยุคแรกส่วนใหญ่เป็นเพลงคัฟเวอร์ เช่น “Wipeout” และ “Apache” ของวง The Shadows วงร็อกอินสทรูเมนทัลชื่อดังจากอังกฤษในช่วงปลายทศวรรษ 1950–1960 และเมื่อคุณจีรพันธ์สามารถร้องเพลงได้ วงจึงขยายแนวเพลงไปสู่บทเพลงของ Elvis Presley และศิลปินร็อกแอนด์โรลยุค 60 อื่น ๆ

แม้จะขาดแคลนอุปกรณ์ พวกเขายังสามารถสร้างเสียงดนตรีได้อย่างน่าประทับใจ กีตาร์ถูกต่อเข้ากับวิทยุแทนแอมป์ ส่วนกลองชุดก็ทำจากถังและภาชนะต่างขนาด แต่ความสนุกและพลังของดนตรีทำให้ผู้ฟังประทับใจอยู่เสมอ

 

 

จากเวทีเล็กสู่ประสบการณ์ใหญ่

ไม่นานหลังจากนั้น วงก็เริ่มมีโอกาสเล่นตามสถานบันเทิง เช่น Playboy Bar ในช่วงปิดภาคเรียน โดยครั้งหนึ่งเคยทำรายได้สูงถึง 360 บาท ในยุคที่ค่าแท็กซี่เพียง 5–6 บาท แต่ด้วยความที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงต้องระวังเป็นพิเศษเมื่อขึ้นเล่นในสถานที่ที่มีการจำหน่ายสุรา

เมื่อเรียนจบมัธยม สมาชิกต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตนเอง คุณจิรพรรณเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จนสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมาย แต่ไม่ได้ประกอบอาชีพทนาย หากหันมาทุ่มเทให้กับการแต่งเพลง เรียบเรียง ผลิต และแสดงดนตรีอย่างเต็มตัวจนถึงปัจจุบัน 

 

เส้นทางดนตรีที่ไม่ธรรมดา

คุณจิรพรรณเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการเพลงไทย เขาเป็นผู้ประพันธ์เพลงประจำการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 กรุงเทพฯ ปี 2541 แต่งดนตรีประกอบโฆษณากว่า 100 ชิ้น รวมถึงภาพยนตร์ และยังเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินชื่อดัง อาทิ ทาทา ยัง ปัจจุบันแม้จะลดบทบาทลง แต่ยังคงทำงานแต่งเพลง เรียบเรียง และแสดงดนตรีอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อถูกถามว่าอยากแนะนำให้เด็กรุ่นใหม่เลือกเดินเส้นทางดนตรีแบบเขาหรือไม่ คุณจิรพรรณตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า

“เป็นคำถามที่ยากครับ เพราะวงการดนตรีเปลี่ยนไปมากใน 60 ปีที่ผ่านมา ผมแทบไม่คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มใหม่ ๆ อย่าง Spotify, YouTube, Facebook, Instagram หรือ TikTok ซึ่งเป็นช่องทางหลักของคนรุ่นใหม่ ทุกวันนี้การแข่งขันสูงมาก ชีวิตนักดนตรีไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น”

 

 

สายใยดนตรีในครอบครัว

คุณจิรพรรณเล่าว่าลูกสาวเล่นไวโอลินตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ แม้เขาและภรรยาซึ่งเป็นทันตแพทย์จะกังวลกับเส้นทางอาชีพนักดนตรี แต่ก็สนับสนุนความฝันของลูกอย่างเต็มที่ ปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ที่ University of Music and Performing Arts, Vienna ประเทศออสเตรีย และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านไวโอลิน

 

หนังสือ 'ความหลง ที่ไม่ลืม'

บทบันทึกชีวิตของจิรพรรณ บนเส้นทางดนตรีที่ยาวนานกว่า 50 ปี ที่ตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวเส้นทางชีวิต เพื่อเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังในการตัดสินใจเดินบนเส้นทางของตนเอง ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการดนตรี จิรพรรณต้องเผชิญกับความสับสนและการต่อสู้ไม่น้อย ในช่วงแรกเขายังไม่อาจยอมรับอาชีพนักดนตรีได้เต็มที่ เส้นทางชีวิตจึงเต็มไปด้วยการลองผิดลองถูกและล้มลุกคลุกคลาน อีกทั้งเขายังไม่ได้เรียนมาทางด้านดนตรีโดยตรง หากแต่จบการศึกษาด้านกฎหมาย แล้วค่อยๆ ศึกษาและพัฒนาตนเองด้วยความมุ่งมั่น แม้ในใจลึกๆ จะรักดนตรี แต่ด้วยโอกาสที่ไม่เอื้อและความคิดที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้เขาเสียเวลาไปไม่น้อยกว่าจะค้นพบเส้นทางที่แท้จริงของตนเอง

 

หนังสือเล่มนี้จึงไม่เพียงเป็นบันทึกความทรงจำ หากยังเป็นกระจกสะท้อนให้ผู้อ่านได้มองเห็นตัวเอง ช่วยให้ค้นหาความชัดเจนในชีวิตได้ง่ายขึ้น ทั้งสำหรับผู้ที่ยังสับสน และผู้ที่มั่นใจในเส้นทางของตนแล้ว ขณะเดียวกัน ยังสอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์ดนตรีไทยที่อาจกลายเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจและคนรุ่นต่อไปอีกด้วย

 

 

เมื่อการสนทนาใกล้สิ้นสุด ผู้เขียนไม่อาจปฏิเสธความน่าชื่นชมในพลังชีวิตของคุณจิรพรรณ ที่ยังคงหยิบเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่นด้วยความรักและความสุข ดนตรียังคงอยู่ในหัวใจและวิถีชีวิตของเขาตลอดกาล

Writer

The Reader by Praphansarn