ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บนเวที Author's Salon (Hall 5) ได้มีการจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ"นาค ความเชื่อลุ่มน้ำโขง" ซึ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานพญานาค ความเชื่อ และมิติความลี้ลับที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของภาคเหนือและอีสาน
การเสวนาครั้งนี้ ดำเนินรายการโดย คุณจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักเขียนและนักวิจารณ์วรรณกรรมผู้ พร้อมเชิญนักเขียนชื่อดังถึงสองท่านมาร่วมพูดคุย ได้แก่ คุณปองพล อดิเรกสาร ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง "แม่โขง" ที่ได้รับการตีพิมพ์และสร้างเป็นละครโทรทัศน์มาแล้วหลายครั้ง และ คุณกนกวลี พจนปกรณ์ ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง "กาษา นาคา" ผลงานที่สะท้อนความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคและการค้นหาตัวตน ซึ่งเคยสร้างเป็นละครมาแล้วเช่นกัน
บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ เน้นไปที่แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นวนิยาย การตีความตำนานพญานาคในมุมมองของนักเขียน รวมถึงการค้นคว้าและการนำเสนอผ่านงานเขียนที่สร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านอย่างลึกซึ้ง การสนทนาระหว่างสองนักเขียนกับผู้ดำเนินรายการเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าติดตามและเชื่อมโยงระหว่างวรรณกรรมกับความเชื่อท้องถิ่นอย่างกลมกลืน
แรงบันดาลใจจากตำนานพญานาค
คุณปองพล อดิเรกสาร เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเขียนนวนิยาย "แม่โขง" ว่า แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อกราบหลวงตามหาบัว ซึ่งท่านได้มอบหนังสือ "ประวัติหลวงปู่มั่น" ให้ ในเนื้อหาของหนังสือกล่าวถึงการพบเห็นพญานาคในระหว่างธุดงค์ ซึ่งเล่าถึงการที่หลวงปู่มั่นเห็นพญานาคมาในร่างมนุษย์ เพื่อสนทนาธรรมในช่วงกลางคืน สิ่งนี้ทำให้ปองพลเกิดความประทับใจและจุดประกายให้เขาสนใจศึกษาเรื่องราวพญานาคอย่างจริงจัง
การค้นคว้าและการเขียน
จากความประทับใจดังกล่าว คุณปองพลจึงเดินทางไปยังหอสมุดแห่งชาติ เพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับพญานาคและตำนานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่นำหนังสือทั้งภาษาไทยและอังกฤษกว่า 167 เล่ม มาให้อ่าน คุณปองพลใช้เวลาในการศึกษาตำนานพญานาคหลายเดือน เพื่อทำความเข้าใจถึงกำเนิด ลักษณะ ชนิด และคุณสมบัติต่าง ๆ ของพญานาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสัมพันธ์กับพุทธศาสนา ซึ่งเกี่ยวข้องกับภูริทัตต์ นาคผู้บำเพ็ญเพียรเพื่อแสวงหาความจริง
การสร้างพล็อตและตัวละคร
การเขียน "แม่โขง" ของคุณปองพล มีการวางโครงเรื่องอย่างชัดเจน โดยตัวละครพระเอกเป็นวิศวกรชาวต่างชาติที่มีภารกิจสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง ส่วนนางเอกเป็นนักวิชาการลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่ค้นคว้าเรื่องชนเผ่าและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งสองถูกออกแบบให้สะท้อนความขัดแย้งระหว่างความเชื่อโบราณกับวิทยาศาสตร์
ความท้าทายในการเขียน
คุณปองพลกล่าวถึงความท้าทายในการเขียนว่า การวางพล็อตต้องมีความสมเหตุสมผล แม้เรื่องราวจะอิงตำนาน แต่ก็ต้องคงความเป็นจริงตามหลักวรรณกรรม จุดเด่นของเรื่องคือการผสมผสานระหว่างความเชื่อและประวัติศาสตร์ การเดินทางข้ามแม่น้ำโขงจากเชียงของไปห้วยทราย และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงในยุคนั้น ทำให้ผู้อ่านรู้สึกถึงความสมจริงในสถานการณ์
แรงบันดาลใจจาก "กาษานาคา"
คุณกนกวลี พจนปกรณ์ เปิดเผยว่า เดิมทีเธอไม่ได้มีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค แต่ได้รับโจทย์จาก อาจารย์อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ซึ่งเชื่อว่าลูกชายของตนเป็นนาคมาเกิด ด้วยความสงสัย เธอจึงเริ่มค้นคว้าและอ่านหนังสือเกี่ยวกับพญานาคมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวของ หลวงปู่มั่น และ หลวงตามหาบัว ที่กล่าวถึงพญานาคในมิติของการปฏิบัติธรรม
การค้นคว้าและตีความ
คุณกนกวลีเน้นการตีความตำนานผ่านมุมมองจิตวิทยาและปรัชญา ตัวละครใน "กาษานาคา" ถูกออกแบบให้สะท้อนความเชื่อและความขัดแย้งในตนเอง เช่น วาดจันทร์ ตัวเอกหญิง ที่มีจิตผูกพันกับอดีตชาติ ทำให้เธอไม่อาจปล่อยวางจากความรู้สึกสูญเสียและความรักที่ฝังลึก
การผสมผสานแนวคิดพุทธศาสนา
คุณกนกวลีใช้แนวคิดเรื่อง "อยู่กับปัจจุบัน" มาเป็นแก่นของเรื่อง โดยให้ตัวละครต้องเผชิญกับกรรมและความเชื่อในอดีต การไม่ปล่อยวางทำให้ตัวละครต้องกลับไปแก้ไขสิ่งที่ยังติดค้างในชีวิต
ความนิยมและการตอบรับ
"แม่โขง" ของคุณปองพล ได้รับการพิมพ์ซ้ำกว่า 15 ครั้ง และถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ถึง 2 ครั้ง โดยเฉพาะเวอร์ชันล่าสุดที่โดดเด่นด้วยเทคนิค CG ทำให้เรื่องราวของพญานาคมีชีวิตชีวามากขึ้น
"กาษานาคา" ของกนกวลี ก็ได้รับการตอบรับจากผู้อ่านอย่างดี เนื่องจากเนื้อหาที่สอดแทรกความเชื่อในพุทธศาสนาและความเป็นมนุษย์ ทำให้ผู้อ่านทั้งรุ่นใหม่และเก่าหันมาสนใจตำนานพญานาคมากขึ้น
ข้อคิดจากทั้งสองเรื่อง
ทั้ง "แม่โขง" และ "กาษานาคา" นำเสนอประเด็นเรื่อง ความเชื่อ ความจริง และการอยู่กับปัจจุบัน ผ่านเรื่องราวของพญานาค ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ รวมถึงการตระหนักรู้ถึงอิทธิพลของกรรมและการยอมรับความแตกต่าง
การเสวนาในครั้งนี้ได้เผยให้เห็นกระบวนการสร้างสรรค์นวนิยายที่ผสมผสานตำนานและประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองของนักเขียนผู้มากประสบการณ์ ทั้งคุณปองพลและคุณกนกวลี ต่างนำเสนอเรื่องราวในแบบฉบับของตน โดยเน้นความลึกซึ้งทางความเชื่อและปรัชญาชีวิต สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทั้งสองท่านที่มาแบ่งปันแรงบันดาลใจและประสบการณ์ในการสร้างผลงานที่น่าประทับใจแก่ผู้อ่านทุกคน
ขอบคุณภาพจากเพจ วรรณกรรมรีวิว รีวิววัฒนธรรม