เรียกได้ว่าเล็กพริกขี้หนูจริงๆ สำหรับสำนักพิมพ์น้องใหม่ที่เปิดตัวได้เพียงไม่นาน แต่ได้การตอบรับจากนักอ่านอย่างดีเยี่ยม โดยมีนักเขียนจากโซเชียลหลายคนมาพิมพ์หนังสือด้วย เช่น หมอหมีผู้เหี้ยมโหด จ่าพิชิต ขจัดพาลชน Hong14cafe
Publisher Corner จึงขอพาไปพูดคุยกับคุณศักดิ์ชัย วิจัยธรรมฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ “สำนักพิมพ์ต้นมะนาว” คุณศักดิ์ชัย กล่าวว่า จริง ๆ เราก็ถือว่ายังเป็นสำนักพิมพ์ขนาดเล็กนะครับ เพียงแต่ว่าในกลุ่มของคนที่เรานำมาทำจะเป็นกลุ่มของคนที่ทำงานทางด้านอื่น ๆ แล้วก็ชอบและรักในงานหนังสือแล้วก็มาทำกัน เรามีประสบการณ์ในหนังสือจริง ๆแล้ว แค่ 10 ปีเท่านั้นเองสำหรับคนที่มากที่สุดเท่านั้นเอง ส่วนผมนั้นมีประสบการทางด้านนี้แค่ 7 ปีเท่านั้นครับ แต่ว่าเราอาศัยว่า เราเป็น Marketing Man เราขายทุกอย่างมาหนังสือก็เลยเป็นสิ่งที่เรามาจับ เราอาจจะจับได้โดยที่ไม่ยากมากเหมือนคนอื่นแล้วก็ใช้วิชาการที่เราใช้กับสิ่งอื่นมาทำนะครับ
ในเรื่องวิธีกระตุ้นยอดขายได้อย่างไร คุณศักดิ์ชัย บอกกับเราว่า อันนี้ก็เหมือนกันครับ เนื่องจากสำนักพิมพ์เรายังเป็นสำนักพิมพ์ขนาดเล็ก แล้วก็หนังสือส่วนใหญ่ที่เราขายก็ดังมาจาก social network ก็เพราะฉะนั้นตลาดของเราก็จะผ่าน social network เป็นที่รู้จัก และหนังสือของเราจะไม่มีหน้าร้าน ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นผลกระทบเลยเรากลับมีกระแสที่ดีค่อนข้างสูงเนื่องจากยังอยู่ในกระแสนิยม อย่างเช่น จ่าพิชิต คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก หมอหมีผู้เหี้ยมโหด HONG14 เขาดังอยู่ในโซเชียลอยู่แล้ว เราเพียงแต่เอาสิ่งที่ดังอยู่ใน social network ทำออกมาเป็นหนังสือ เพราะฉะนั้นการทำตลาดกับหน้าร้านมันเลยไม่เป็นเรื่องยาก เพราะมันยังเป็นหนังสือที่เกาะกระแสอยู่ แต่ถ้ามองถึงในอนาคตหนังสืออื่น ๆ ที่กำลังขายกันอยู่ในขณะนี้เป็นปัญหาอยู่แน่นอน เพราะอัตราการเข้าของหน้าร้านต่ำลง การซื้อต่อยอดขายที่เราเห็นก็คงจะต่ำลง แต่เราก็ต้องหันมามองอีกทีว่าถ้าคำถามนี้มาถามผมคงจะตอบไม่ค่อยถนัดเพราะตัวเรายังไม่ได้รับผลกระทบเลยใช้ social network เป็นตัวนำ ในการพีอาร์ในการทำตลาดอยู่
ในฐานะที่สำนักพิมพ์ของต้นมะนาว เป็นองค์กรหนึ่งของวงการหนังสือ คุณศักดิ์ชัยแสดงความคิดเห็น ที่มีต่อวงการฯ ว่า คือช่วงนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่า ส่วนที่เป็นตัวกลางก็คือสมาคม การขับเคลื่อนของสมาคมที่ผ่านมาจะพัฒนามาต่อเนื่องแต่จะเห็นว่าช้าลงและก็อาจจะเห็นว่ายังไม่ตรงเป้าทีเดียว ตอนนี้ที่เราเห็นปัญหาต่าง ๆ ได้ชัดก็คือยอดขายตกลงในภาพรวม การขยายตัวของสำนักพิมพ์ขนาดเล็กที่จะเข้ามาน้อยลง ร้านค้าขนาดเล็กหรือร้านค้าอิสระทยอยปิดไป ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจก็มองว่าโอกาสของธุรกิจถ้าเรามองว่ามันเป็นเค้กมันจะทำยากเพราะเค้กก้อนเดียวแบ่งกันหมดและเค้กก้อนนี้ก็จะค่อย ๆ เล็กลง ตัวเองเวลาทำธุรกิจนี้เราจะมองไปข้างหน้า การสร้างเค้กก้อนที่สอง ที่สาม คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการทำตลาด เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถสร้างมันได้และมีส่วนหนึ่งในการที่จะสร้างตัวเค้กนี้ให้มันขยายใหญ่โตขึ้น การแบ่งของคนหรือการที่จะมีคนเข้ามาใหม่ ๆ มันก็ต้องมีการคิดหลาหลายรูปแบบและวิธีการใหม่ ๆ ผมคิดว่าวิธีการที่ตอนนี้ทำอยู่อาจจะต้องปรับบางอย่าง ซึ่งคนที่จะเข้ามาเป็นกรรมการหรือเข้ามาบริหารองค์กรมีส่วนสำคัญที่จะทำให้องค์การนี้ขยายได้ด้วย