ริชาร์ด แบรนสัน นักธุรกิจชาวอังกฤษ เป็นเจ้าของธุรกิจกว่า 400 บริษัท ที่ใช้ชื่อการค้า "เวอร์จิ้น"
ริชาร์ด แบรนสัน เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยเริ่มทำนิตยสารรายเดือนสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย ชื่อว่า Student และเริ่มขยายธุรกิจจัดจำหน่ายแผ่นเสียงทางไปรษณีย์ ในปี พ.ศ. 2513 และเปิดเครือข่ายร้านจำหน่ายแผ่นเสียง ใช้ชื่อว่า Virgin Records ทั่วประเทศอังกฤษ พร้อมกับทำธุรกิจห้องบันทึกเสียง และเริ่มผลิตแผ่นเสียงในสังกัดของตัวเอง ศิลปินที่มีชื่อเสียงในสังกัด ในยุคแรกเช่น ไมค์ โอลด์ฟิลด์, แทนเจอรีน ดรีม, เซ็กซ์ พิสทอลส์ และยุคถัดมาเช่น เจเนซิส, ฟิล คอลลินส์, ปีเตอร์ แกเบรียล, บอย จอร์จ บริษัทน้อยใหญ่มากมายของเขา กระจายไปทั่วโลก รวมกว่า 400 บริษัท มูลค่าโดยประมาณน่าจะทะลุ 4.9 พันล้านเหรียญ
ริชาร์ด แบรนสัน เป็นตัวอย่างของคนที่เรียนไม่เก่ง อีกทั้งในวัยเด็กเขามีความบกพร่องในการเรียนรู้หรือโรค Dyslexia แต่เมื่อเติบโตขึ้นมากลับประสบความสำเร็จ ถึงแม้เขามีความบกพร่องในการเรียนรู้ในวัยเด็ก แต่เขาก็มีใจรักในการอ่านหนังสือ เขาเชื่อว่าการอ่านจะช่วยสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ สอนให้เรียนรู้สิ่งๆ ต่างๆ สร้างความเป็นผู้นำ หล่อหลอมความคิดให้เขานำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ ซึ่งหนังสือที่เขาแนะนำที่มาพูดถึงในบทความนี้มี 5 เล่มด้วยกันคือ
An Inconvenient Truth โดย Al Gore
หนังสือที่จะมาเปิดโปงวิกฤตสิ่งเเวดล้อมและทางรอดของมวลมนุษย์ เนื้อหาในเล่มจะชี้ให้คุณเห็นถึงสภาพสิ่งแวดล้อมซึ่งแปรเปลี่ยนด้วยน้ำมือมนุษย์ ป้ญหาวิกฤตการณ์โลกร้อนที่ให้ความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งตั้งแต่จุดเริ่มต้นของปัญหาโลกร้อน ไปจนถึงจุดจบของโลกใบนี้ในอนาคต ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในเวลาอีกไม่กี่สิบปี เต็มไปด้วยกรณีศึกษาและภาพประกอบเปรียบเทียบหลายหลายสถานที่ สร้างความตระหนกและสะเทือนต่อมความรู้สึกของผู้อ่านในวงกว้าง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงใช้ชีวิตที่เหลือเร่งเรียนรู้และรักษาโลกใบนี้เอาไว้ เพื่อลูกหลานในอนาคตต่อไป
Long Walk to Freedom โดย Nelson Mandela
บันทึกความทรงจำของผู้นำทางจิตวิญญาณและทางการเมืองที่โดดเด่นในยุคสมัยของเรา ซึ่งอ่านแล้ววางไม่ลง Long Walk to Freedom ได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงประสบการณ์ซึ่งนำไปสู่โชคชะตาของเนลสัน แมนเดลา หนังสือเล่มนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์ คล้อยตาม และเบิกบานใจ เป็นเรื่องราวของมหากาพย์แห่งชีวิตที่น่าชื่นใจชีวิตหนึ่ง บอกเล่าถึงความยากลำบาก ความพลิกผัน และชัยชนะในที่สุด ซึ่งบอกเล่าได้อย่างชัดเจนและลื่นไหล โดยผู้ที่เกิดมาเป็นผู้นำโดยแท้
Mao the Unknown Story โดย Jung Chang และ Jon Halliday
Jung Chang สตรีชาวจีนผู้เกิดในมณฑลเสฉวน ช่วงชีวิตในวัยเด็กเคยผ่าน 10 ปีแห่งความวินาศของการปฏิวัติวัฒนธรรมด้วยการเป็นเรดการ์ด และผู้เขียนหนังสืออันอื้อฉาว Wild Swans (หงส์ป่า) ได้จับมือกับ Jon Halliday สามีชาวอังกฤษใช้เวลาค้นคว้าหาข้อมูล-สัมภาษณ์นับ 10 ปีเพื่อกลั่นออกมาเป็น หนังสือ Mao The Unknown Story ประวัติชีวิตอีกด้านของประธานเหมา
หากพลิกอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างละเอียดจะพบได้ว่า ในสายตาของ Jung Chang หนึ่งในผู้ชอกช้ำและชีวิตได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากการปฏิวัติวัฒนธรรม เหมาเจ๋อตง นั้นมีภาพลักษณ์เช่นเดียวกับทรราชผู้ที่ทั้งสองมือชะโลมไปด้วยโลหิต โดยในหนังสือเล่มนี้เธอกล่าวย้ำอยู่หลายครั้งหลายคราว่าระหว่างช่วงเวลาที่เหมาครองอำนาจอยู่ และเป็นช่วงเวลาที่โลกไม่มีสงครามใหญ่ๆ นั้น เขาคือบุคคลผู้ที่จะต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของชาวจีนผู้บริสุทธิ์มากกว่า 70 ล้านคน และด้วยตัวเลขจำนวนประชาชนผู้เสียชีวิตดังกล่าวนี้ ได้ส่งให้เหมากลายเป็นผู้นำที่ฆ่าประชาชนของตัวเองไปมากที่สุดในบรรดาผู้นำของโลกในช่วงศตวรรษที่ 20!
หากมองในภาพรวมแล้วหนังสือเล่มนี้ก็ถือว่า ได้จุดประกายและได้ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งของอดีตฮ่องเต้เสมือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนไว้อย่างน่าสนใจ อย่างเช่น
- เหมาเจ๋อตงนั้นไม่ได้มีความฝักใฝ่ต่อลัทธิมาร์กซ์และลัทธิคอมมิวนิสต์มาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพิ่งจะมาเริ่มเอาเมื่อตอนเขาอายุ 27 ปี เมื่อได้รับงานและค่าตอบแทนจากพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย
- จริงๆ แล้วตามหลักฐานจากทางฝั่งรัสเซีย (โซเวียต) 'สมัชชาสมัยที่หนึ่ง' ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2464 (ค.ศ.1921) ที่จัดขึ้น ณ บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตสัมปทานฝรั่งเศส เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเหมาเข้าร่วมด้วยนั้น มิได้เป็นการประชุมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนดังเช่นที่ชาวจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนเชื่อและป่าวประกาศอยู่ในปัจจุบัน แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2463 (ค.ศ.1920) แล้ว
- ด้วยนโยบายที่ริเริ่มขึ้นจากเหมา ส่งให้ระหว่างช่วง พ.ศ.2501-2504 (ค.ศ.1958-1961) ในประเทศจีนเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โดยความผิดพลาดสำคัญก็คือ การที่เหมามีนโยบายส่งออกผลผลิตทางเกษตรของจีนให้กับโซเวียตเพื่อแลกกับอาวุธและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ จนกระทั่งชาวจีนทั่วประเทศต้องขาดอาหารจนเสียชีวิตมากถึง 38 ล้านคน
- ความขัดแย้งของเหมากับบุคคลรอบๆ ตัวไม่ว่าจะเป็น หลิวเส้าฉี เผิงเต๋อหวย จูเต๋อ เติ้งเสี่ยวผิง รวมไปถึง สุภาพบุรุษตลอดกาล นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล ผู้ปกป้องประธานเหมา จนกระทั่งตนเองเสียชีวิต
- ชีวิตรักของเหมาเจ๋อตง และ ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาทั้งสี่คน ฯลฯ
กล่าวโดยรวมแล้ว Jung Chang และ Jon Halliday กำลังจะชี้ให้เห็นผู้คนเห็นว่า จริงๆ แล้ว เหมาเจ๋อตง ก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่เต็มเปี่ยมไปด้วย รัก โลภ โกรธ หลง มีทั้ง 'ด้านสว่าง' และ 'ด้านมืด' โดยทั้งชีวิตของอดีตผู้นำสูงสุดของจีนผู้นี้ เขามิได้เพียงสร้าง 'คุณูปการ' อันใหญ่หลวงให้กับจีน แต่ยังก่อ 'หายนะ' อันน่าสะพรึงกลัวให้กับจีนด้วยเช่นกัน .....
Swallows and Amazons โดย Arthur Ransome
ตอนเด็กๆ ใครๆ ก็คงเคยจินตนาการถึงการเดินเรือผจญภัย Swallows and Amazons เป็นเล่มแรกของชุดนวนิยาย 12 เล่มในชื่อเดียวกัน เรื่องราวหลักๆ พูดถึงพี่น้องตระกูล Walker ที่ออกไปพักผ่อนช่วงหน้าร้อนกับครอบครัวพร้อมกับเรือลำเล็กๆ ที่ตั้งชื่อว่า Swallow และในที่พื้นที่พักผ่อนนั้นเองพวกเขาก็ได้ไปเจอกับอีกครอบครัวที่มีเรือเหมือนกันชื่อ Amazon เรื่องราวความสนุกสนานของเรื่องนี้หลักๆ พูดถึงการใช้เวลาว่างในการไปพักผ่อนของคนอังกฤษ พูดถึงการตั้งแคมป์ การล่องเรือ และการผจญภัยของเด็กๆ ที่บริเวณทะเลสาบ
Wild Swans Three Daughters of China โดย Jung Chang
หงส์ป่าเล่าเรื่องจริงของผู้หญิงสามรุ่นที่เดินทางผ่านประวัติศาสตร์ช่วงต่างๆ ของจีน เป็นชีวิตของคุณยาย คุณแม่ และตัวของ Jung Chang เอง แสดงให้เห็นถึงความอยุติธรรมในสังคมจีนช่วงศตวรรษที่ 20 ทั้งในแง่ของระบบโครงสร้างทางสังคม และความเป็นปัจเจกชายหญิง เรื่องนี้มยอดขายกว่า 13 ล้านเล่มทั่วโลก และแปลไปกว่า 40 ภาษาในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา
เรียบเรียงโดย : ศิริรัตน์ สุ่นสกุล
ภาพ : chicagosplash.com
อ้างอิง : inspiring books that richard branson loves , https://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000078749