Michael Arrington ผู้ก่อตั้ง TechCrunch และยังเป็นผู้ก่อตั้งกองทุนอีกหลายกองทุน เขาเคยกล่าวว่าการสร้างให้องค์ดีขึ้น ไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือเกี่ยวกับการบริการ การตลาด แต่เป็นการอ่านหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์
 

“Stranger in a Strange Land” เขียนโดย Robert Heinlein

     แปลเป็นไทยในชื่อ เขามาจากดาวอังคาร  นิยายไซไฟเรื่องที่เรียกได้ว่าโด่งดังที่สุดของ Heinlein เล่มนี้ชนะรางวัล Hugo สาขา Best Novel ในปี 1962

     Valentine Micheal Smith เป็นมนุษย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ เขามีรูปร่างเป็นชายหนุ่มแต่มีจิตวิญญาณเป็น ‘ชาวดาวอังคาร’ เช่นเดียวกับผู้ที่อบรมบ่มเพาะเขามาตั้งแต่เขาเกิดบนดาวดวงที่ 4 ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ พ่อแม่ที่แท้จริงของ ‘ไมค์’ รวมถึงนักบินอวกาศคนอื่นๆที่เดินทางมาพร้อมกับยานสำรวจดาวอังคาร ‘Envoy’ ต่างเสียชีวิตไปนานแล้ว จึงเป็นที่คาดเดาได้ว่าเมื่อยานสำรวจลำที่ 2 ‘Champion’ ที่เดินทางไปถึงดาวอังคารหลังจากยาน Envoy สูญหายไป 25 ปีและพบไมค์ มนุษย์คนเดียวที่หลงเหลืออยู่บนดางดวงนั้น จะเป็นเรื่องที่ทำให้ชาวโลกแตกตื่นแค่ไหน 

     ไมค์ถูกนำตัวกลับไปยังโลกและถูกกักตัวไว้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยข้ออ้างของรัฐบาลว่าเขายังไม่แข็งแรงพอที่จะพบปะผู้คน ห้องผู้ป่วยของเขาเป็นเขตหวงห้ามและสื่อไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์เขาเนื่องจากไมค์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับโลก

     พยาบาลหญิงถูกสั่งห้ามโดยเด็ดขาดไม่ให้เข้าไปในห้องผู้ป่วยของ ‘The Man from Mars’ แต่จิล หญิงสาวผู้อยากรู้อยากเห็นใช้เสน่ห์สาวแพรวพราวบวกกับความโชคดีของเธอแอบลักลอบเข้าไปในห้องนั้นและได้พบกับไมค์ ไมค์สนอกสนใจในตัวเธอและกระตือรือร้นที่จะพูดคุยกับเธอด้วยภาษาอังกฤษที่เขากำลังเรียนอยู่เนื่องจากเขาไม่เคยพบผู้หญิงมาก่อนเลย เธอกับเขาจึงกลายเป็นเพื่อนกัน หลังจากนั้น จิลทราบข่าวลือจากเพื่อนนักข่าวของเธอว่ารัฐบาลมีแผนจะทำอะไรกับไมค์ เธอจึงวางแผนร่วมกับเขาลักลอบพาไมค์หนีออกไปจากที่นี่

      การผจญภัยของ Valentine Micheal Smith ชายหนุ่มที่แม้จะมีรูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์แต่จิตวิญญาณไม่ใช่จึงเริ่มขึ้นบนดินแดนแสนประหลาดที่เราเรียกว่า ‘โลก’

"Dune" เขียนโดย Frank Herbert

     ดูน (Dune) เป็นนิยายวิทยาศาสตร์โดยแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1965 จำหน่ายได้มากกว่า 12 ล้านเล่มทั่วโลก ได้รับรางวัลเนบิวลาประจำปี ค.ศ. 1965 มีเนื้อหาเกี่ยวกับโลกอนาคต กล่าวถึงการดำรงอยู่ของมนุษย์ วิวัฒนาการ สังคมวิทยา นิเวศวิทยา โดยอ้างอิงถึงเรื่องศาสนา การเมือง และอำนาจ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสองวรรณกรรมวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลก เทียบเท่ากับ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของเจ. อาร์. อาร์. โทลคีน  (จากการสำรวจเมื่อปี 1975)

“The Hitchhiker's Guide to the Galaxy” เขียนโดย Douglas Adams 

     เป็นหนังสือไซไฟแฟนตาซีที่ตลก บ้าบอที่สุด และเป็นนิยายที่นักอ่านรู้จักและชื่นชอบมากที่สุดเล่มหนึ่ง

     เรื่องเริ่มต้นจาก Arthur Dent กำลังจะถูกรื้อบ้านเพื่อเวรคืนไปทำทางด่วน และพบว่าในอีกไม่กี่นาทีต่อมา โลกได้ถูกทำลายทิ้งเพราะสหพันธ์แห่งจักรวาลกำลังจะทำทางด่วนตัดผ่านโลกเช่นกัน โชคดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อน (Ford Perfect) ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาอาศัยอยู่บนโลกเพราะหายานกลับดาวตัวเองไม่ได้ ทั้งคู่ได้แอบขึ้นยานอวกาศและรอดชีวิตจากการที่โลกถูกทำลายไปได้

Catch – 22 เขียนโดย Joseph Heller

     ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงกับสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเริ่มเขียนหนังสือเล่มนี้หลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงไม่เท่าไหร่ ถือว่าเป็นหนังสือสำคัญที่สุดเล่มหนึ่งของศตวรรษที่ 20 เล่าถึงมุมมองของตัวละครที่หลากหลาย แต่อยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และแสดงให้เห็นความ absurd อย่างยิ่งของสงครามและเรื่องราวในกองทัพ

“The Foundation Series” เขียนโดย Isaac Asimov 

      ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือชุดที่ดีที่สุดของ Isaac Asimov นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์หนึ่งใน "Big Three" ของโลก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาลในอนาคต 20,000-30,000 ปีข้างหน้า ในยุคที่มนุษย์ได้กระจายไปทั่วกาแล็กซี่และสร้างอารยธรรมขึ้นทั่วไปในหมู่ดาวทั่วทั้งทางช้างเผือก จนกระทั่งเกิดเปนจักรวรรดิสากลจักรวาล ปกครองกันแบบรวมศูนย์ไว้ ณ ดวงดาวใจกลางของกาแล็กซี่ ... แต่อารยธรรมมีรุ่งโรจน์ก็ต้องมีเสื่อมสลาย ... หากแต่ความเสื่อมสลายนั้นมันเป็นไปอย่างช้าๆจนยากจะมองเห็นได้โดยคนทั่วไป... มีเพียง ฮาริ เซลด็อน นักคณิตศาสตร์คนเดียวเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงความเสื่อมแห่งยุค

      ฮาริ เซลด็อนคนนี้เองได้ประดิษฐ์วิชาอนาคตประวัติศาสตร์ขึ้น เป็นศาสตร์ที่สามารถทำนายอนาคตของหมู่ชนได้ด้วยความรู้ทางคณิตศาสตร์ขั้นสูง ด้วยวิชานี้ ฮาริ เซลด็อน พยากรณ์ได้ว่ายุคแห่งความเสื่อมกำลังจะมาถึง จักรวาลจะไร้ขื่อแป อายรธรรมจะสูญสลายหายไปนานหลายหมื่นปี! ความล่มสลายนี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทันการณ์แล้ว แต่ก็ด้วยวิชาอนาคตประวัติศาสตร์นี้เอง เขาจะสามารถย่นย่ออนารยะยุคหลายหมื่นปีนี้ให้ลดลงจนเหลือเพียง 1,000 ปี