8 หนังสือน่าอ่าน ผ่านการแนะนำ โดย สตีเฟ่น คิง
หากพูดถึง Stephen King คงไม่มีใครไม่รู้รู้จัก เขาเป็นนักเขียนที่มีผลงานมากมาย และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง นอกจากเขาจะชอบเขียนหนังสือแล้ว เขายังชอบอ่านหนังสือของนักเขียนท่านอื่น และยังรกในการแชร์ชื่อหนังสือที่เขาชื่นชอบ เพราะอยากแนะนำให้ผู้อื่นได้อ่าน ประพันธ์สาส์นเลยจะขอมาแบ่งปันต่อทั้งหมด 8 เล่ม มีเล่มไหนที่เคยอ่านกันแล้วบ้าง มาร่วมแชร์ประสบการณ์กันด้วยนะคะ
The Widow โดย Fiona Barton
เรื่องราว การตายของสามี Jean Taylor แต่ทุกคนรอฟังเรื่องราวจากปากเธอ หากคุณเป็นคนที่ชอบเรื่อง Gone Girl และเรื่อง he Girl on the Train คุณควรอ่านหนังสือเล่มนี้
-------------------------------------------------
Dear Mr. M โดย Herman Koch
หนังสือที่ติดอันดับขายดี ใน New York Times เป็นนวนิยายที่อ้างอิงชีวิตจริง ของ Mr.M เรื่องราวการหายตัวไปขอครูสอนประวัติศาสตร์ ในช่วงฤดูหนาว Herman Koch เขาเล่าถึงช่วงตกต่ำของนักเขียน เรื่องราวความรักของคู่รักวัยรุ่น และความผิดพลาดของความเป็นครู เรื่องราวจะเชื่อมโยงกันไปเรื่อยๆ จนกว่าความจริงจะถูกเปิดออก
-------------------------------------------------
Disappearance at Devil’s Rock โดย Paul Tremblay
Elizabeth Sanderson ได้รับข่าวร้ายที่ผู้เป็นแม่ทุกคนไม่อยากได้ยิน ทอมมี่ ลูกชายวัย 13 ปี ของเธอหายตัวไปอย่างลึบลับที่มีชื่อว่า Devil’s Rock ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องกับคดี ต่างไม่มีอะไรคืบหน้า บวกกับเพื่อนของลูกชายที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนทอมมี่หายตัวไป ก็บอกเรื่องราวได้ไม่หมด เธอเจ็บปวดมากและเธอเชื่อว่าวิญญาณของทอมมี่จะปรากฎตัวในห้องนอน บวกกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในระแหวกนั้น ต่างลือกันว่าเห็นเงามืด อยู่ภายในบ้านผ่านช่องหน้าต่าง ในยามกลางคืน และเมื่อหลายปีก่อนสามีของเธอ ผู้เป็นพ่อของทอมมีก็ได้เสียชีวิต โดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ บวกกับเรื่องราวตำนานของปีศาจร็อค แลป่าลึกลับ ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกัน
-------------------------------------------------
The Underground Railroad โดย Colson Whitehead
ชีวิตคนผิวสีมันขมขื่นขนาดไหน เล่มนี้เล่าให้ฟังได้ดี เพราะจะเล่าเกี่ยวกับสาวชื่อ Cora ทาสในไร่ฝ้ายแห่งหนึ่งของรัฐจอร์เจีย ว่าต้องพบเจอเรื่องอะไรบ้าง และทำไมเธอถึงต้องหนีออกมา และหนีโดยทางรถไฟใต้ดินตามชื่อเรื่องอีกด้วย แต่ตอนจบจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกัน
-------------------------------------------------
Behind Her Eyes โดย Sarah Pinborough
Louise เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ในคืนวันหนึ่งเธอไปเที่ยวที่บาร์ เธอได้พบกับชายที่มีชื่อว่า David ในที่สุดเธอและเขาก็ได้ทำความรู้จักและเขาจูบเธอ หัวใจเธอสั่นไหว แต่ David กลับบอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดพลาด หลังจากวันนั้น ในเช้าวันจันทร์เธอได้พบกับเจ้านายคนใหม่ คือ David นั่นเอง และเธอก็ได้รู้ว่า David มีครอบครัวแล้ว ภรรยาของเขาชื่อ Adele แต่สิ่งที่ Louise สังเกตได้คือการแต่งงานของคู่นี้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถคาดเดาได้ จนทำให้ผู้อ่านรู้สึกหวาดกลัว
-------------------------------------------------
Darktown โดย Thomas Mullen
เป็นหนังสือ ที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลง ที่ยิ่งใหญ่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อชาติ การเมือง และการทุจริตของตำรวจ เรื่องราวเกิดขึ้นในเมือง Atlanta ได้ถูกกำหนด ให้จ้างเจ้าหน้าที่ผิวสีคนแรก ในปี 1948 ตำรวจชาวผิวสีได้รับมอบหมายให้จับกุม ผู้ต้องสงสัยชาวผิวขาว แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้ โดยหญิงผิวสีผู้ที่เห็น ชายผิวขาว
-------------------------------------------------
.
The Nix โดย Nathan Hill
Samuel Andresen อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่งไม่เคยพบแม่เลยมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่อยู่ๆ Faye แม่ที่เคยทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเด็กก็กลับเข้ามาในชีวิต พร้อมทั้งขอให้เขาช่วยเหลือตนจากคดีร้ายแรงที่เธอตกเป็นผู้ต้องหา ระหว่างที่อะไรๆ ก็ยังไม่ชัดเจน สื่อต่างขุดคุ้ยอดีตของ Faye ว่าเคยเป็นหนึ่งในฮิปปี้หัวรุนแรง ผู้ชุมนุมทางการเมืองในช่วงยุค 60 แต่เขาควรเชื่อสื่อหรือไม่? เพราะในความทรงจำของเขา แม่ก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่พบรักและได้แต่งงานกับแฟนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยไฮสคูล
Samuel ต้องออกเดินทางค้นหาอดีตของแม่ และอดีตนั้นก็พาเขาไปไกลถึงนอร์เวย์ ที่ซึ่งความลับในอดีตรอคอยให้เขาไปค้นหา และเมื่อค้นหาอดีตของแม่ไปเรื่อยๆ เขาก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ซึ่งไม่ใช่แต่เฉพาะความคิดที่มีต่อแม่...แต่ต่อตัวเขาเองด้วย
-------------------------------------------------
Slade House โดย David Mitchell
นิยายเรื่องนี้ต่อยอดมาจากเรื่องสั้นของเขา “The Right Sort” ซึ่งมิทเชลเผยแพร่ไปเมื่อฤดูร้อนที่แล้วบนทวิตเตอร์ (ใช่แล้ว! รวมทั้งหมด 280 ทวีต)
ในครั้งนี้ มิทเชลบอกว่าต้นฉบับ 2,000 คำนั้นเรียกร้องให้ต้องขยายเรื่องออกมา “ฉากต่างๆ งอกเงย ผสมผสาน กลายเป็นฉากใหม่ๆ ขึ้นมา จนกระทั่ง “The Right Sort” เริ่มมีความยาวมากกว่า 6,000 คำ และกลายมาเป็นส่วนที่ 1 ในทั้งหมด 5 ส่วน ทั้งห้าส่วนนี้เล่าเรื่องครอบคลุมเวลา 36 ปีของบ้านผีสิงหลังหนึ่ง และการหายตัวไปของคนทั้ง 5 คน นับตั้งแต่ตุลาคมปี 1979 ถึงตุลาคม 2015″
ฉากของ Slade House อยู่ในโลกจินตนาการเช่นเดียวกับ The Bone Clocks ซึ่งมิทเชลพูดถึงมันว่าเป็นเหมือน “Uberbook” ที่นำเอาตัวละครจากบรรดาหนังสือทั้งหมดของเขาเข้ามา กินพื้นที่ไปทั่วโลกและประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ซึ่งเรื่อง The Bone Clocks นี้ได้รับคัดเลือกเข้าลองลิสต์ของรางวัลแมนบุ๊คเกอร์ไพรซ์
อ้างอิงจาก : http://bit.ly/2lXrYwR