คุณชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ ผู้ผลิตยาสมุนไพรประจำบ้าน ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันดี คุณชนรรค์เป็นทายาท รุ่นที่ 3 ที่เข้ามาบริหาร เมื่อมีสัมภาษณ์ทางประพันธ์สาส์นไม่พลาดที่จะถามถึง หนังสือเล่มโปรดของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงท่านนี้ มาฝากหนอนหนังสือทุกท่านกันค่ะ
หนังสือที่คุณชนรรค์ ชอบอ่านส่วนใหญ่เป็นผลงาน ของมุราคามิ เพราะเขามีความคิดสร้างสรรค์ มีความเข้าใจมุมมองมนุษย์ การสร้างคาแร็กเตอร์ตัวละครแต่ละตัว มีความซับซ้อน เหมือนมนุษย์ทั่วไป ทำให้คนอ่านนึกถึงตัวเองได้ และทำให้เรารู้สึกเป็นคนมากขึ้น
หากพูดถึงเชื่อได้ว่า นักเขียนชาวญี่ปุ่นนามฮารุกิ มุราคา ทำไมใครๆ ต่างก็ดูจะชื่นชอบงานของนักเขียนท่านนี้กัน เหตุผลหนึ่งคงเป็นเพราะงานเขียนของมุราคามินั้นอ่านไม่ยาก แต่แน่ละว่า ขึ้นชื่อว่าวรรณกรรมก็ย่อมต้องรุ่มรวยการเล่าเรื่อง และซุกซ่อนสัญญะลึกซึ้งไว้เป็นธรรมดา แต่ความเก่งกาจของมุราคามิอยู่ที่การสื่อสารสิ่งที่จะทำให้ยากก็ทำได้ แต่จะทำให้ง่ายนี่สิยาก
ขยายความเพิ่มคืองานเขียนของมุราคามิมักจะสอดแทรกคอนเซ็ปต์ประหลาดๆ จำพวกนายทหารที่นั่งเฝ้าประตูสู่โลกแห่งวิญญาณ พระจันทร์สองดวงในโลกคู่ขนาน หรือชายแก่ผู้หลงใหลในการฆ่าแมว ซึ่งประเด็นของผมก็คือ มุราคามิเก่งกาจในการสอดผสานไอเดียเพี้ยนๆ เหล่านี้ในเรื่องเล่าของเขาได้อย่างไหลลื่น แนบเนียน และชวนคล้อยตามว่าเรื่องที่เรากำลังอ่านอยู่นี้ น่าจะเกิดขึ้นจริง ณ ที่ใดสักแห่ง
มุราคามิคือเจ้าแห่งการเล่าเรื่องนั่นเอง แต่ไม่เพียงเท่านี้หรอกที่ทำให้นักเขียนท่านนี้โด่งดัง เพราะเห็นว่า ความโดดเด่นอีกอย่างคือการที่งานของมุราคามินั้นสามารถคว้าจับบรรยากาศและความนึกคิดของสังคมร่วมสมัยได้อย่างน่าสนใจทีเดียว เมื่อเราลองพิจารณารายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏในงานของมุราคามิให้ลึกขึ้น สิ่งที่พบคือบทบันทึกต่อโลกปัจจุบันดีๆ นี่เอง
ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างบีบบังคับให้พฤติกรรมมนุษย์เปลี่ยนไปในชั่วระยะสั้น เทคโนโลยีได้ส่งอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตที่รวดเร็ว กระชับ และในทางเดียวกัน – ว่างเปล่า อาการเหม่อลอย การไร้ความหวัง และตั้งคำถามต่อการมีชีวิตอยู่ คล้ายจะกลายเป็นเรื่องสามัญธรรมดาในชีวิตของผู้คนจำนวนมาก เช่นกันกับความรู้สึกเคลือบแคลงต่อผู้คนรอบข้างก็ค่อยๆ กระชับพื้นที่ให้มนุษย์กลายเป็นสัตว์สังคมที่นิยมความโดดเดี่ยว นี่เองคือสิ่งที่มุราคามิตีแผ่ให้เห็น หรือถึงแม้ในบางครั้งจะซ้ำซาก ซ้ำซ้อน แต่ไม่ใช่เพราะ ‘ซ้ำซาก’ และ ‘ซ้ำซ้อน’ ได้กลายเป็นคำพ่วงท้ายของสภาพสังคมปัจจุบันไปแล้วหรอกน่ะหรือ
หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่คุณชนรรค์ ชื่นชอบล่าสุด คือ Shoe Dog โดย Phil Knight
หนังสือของ ฟิล ไนต์ ผู้ก่อตั้ง NIKE เป็นครั้งแรกที่ "ฟิล ไนต์" ได้เขียนบอกเล่าเองถึงเรื่องราวชีวิต และการปลุกปั้นแบรนด์ระดับตำนานอย่าง "NIKE" ที่แรงไม่หยุดเพราะจิตวิญญาณนั้นโชติช่วงอยู่ในแบรนด์ และพลังของมันที่ทำให้คนทั้งโลกอยากเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณนั้น นั่นคือ "จิตวิญญาณแห่งชัยชนะ" และการก้าวต่อไปเรื่อย ๆ ตามสโลแกน "Just Do It"
ทั้งหมดเกิดมาจากเด็กหนุ่มจากรัฐโอเรกอนอันเงียบเหงาผู้คลั่งไคล้การวิ่ง ที่แม้จะเป็นนักวิ่งหางแถว แต่ความรักอย่างลึกซึ้งที่มีต่อ "การวิ่ง" และ "รองเท้าวิ่ง" ทำให้เขาออกเดินทางต่อยอดความฝัน จนก่อกำเนิด "NIKE" ขึ้นจากสองมือ ฟันฝ่าผ่านหยาดเหงื่อน้ำตาผลักดันจนกลายเป็นแบรนด์ระดับตำนานจนถึงทุกวันนี้!
อ้างอิง : www.gqthailand.com/people/article/haruki-murakami-books , www.se-ed.com