เป็นที่รู้กันว่า Emma Watson ไม่ได้มีความสามารถเพียงแค่การแสดง แต่ในด้านความรอบรู้ของเธอนั้นก็เป็นที่รู้เช่นกันว่า Emma Watson นับเป็นหนอนหนังสือเหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ตัวละครที่เธอแสดงนั่นเอง

ด้วยความที่เธอเป็นคนมีระดับ จบการศึกษาจาก Ivy league (Emma Watson จบจากมหาวิทยาลัยบราวน์ 1 ใน 8 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของอเมริกา, มหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งนั้นเรียกรวมกันว่า Ivy league) บางคนอาจจะคิดว่าเธออ่านแต่หนังสือที่ซับซ้อนเข้าใจยาก แต่อันที่จริงแล้วความชอบของเธอนั้นกว้างมากและครอบคลุมหนังสือหลากหลายประเภทด้วยกัน ตั้งแต่หนังสือสำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาวไปจนถึงวรรณกรรมคลาสสิกล้ำคุณค่าและวรรณกรรมร่วมสมัยต่างๆ ลองมาดูหนังสือเล่มโปรดของเธอและเพิ่มมันเข้าไปในรายชื่อหนังสือที่อยากอ่านของคุณดูสิ

The Fault in Our Stars เขียนโดย John Green
เมื่อคนไข้โรคมะเร็ง Hazel Grace ได้พบกับ Augustus เด็กชายที่อยู่ในอุปถัมภ์ของเธอเอง และทั้งคู่ก็ได้พบรักกัน ทั้งสองได้ร่วมกันเอาชนะอุปสรรคที่รายล้อม ความเจ็บป่วย หนังสือวรรณกรรม และพันธะที่ทั้งสองต่างแชร์ร่วมกัน ถ้ารู้สึกคุ้นๆกับชื่อหนังสือ The Fault in Our Stars เล่มนี้ นั่นก็เพราะว่าหนังสือเล่มนี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2014 นั่นเอง

รีวิวโดย Emma: เนื้อเรื่องหนังสือเล่มนี้จับใจ Emma มาก ถึงขนาดเธอต้อง Tweet ถึงผู้เขียนว่าเธอตั้งตาอ่านจนถึงตีสี่เลยทีเดียว ถ้าเรื่องราวนี้ยังไม่สามารถทำให้คุณสนใจหนังสือเล่มนี้แล้วล่ะก็ ก็คงไม่มีวิธีอื่นทำให้คุณสนใจอีกแล้วแน่นอน

The BFG เขียนโดย Roald Dhal Sophie
เด็กหญิงกำพร้าได้พบกับยักษ์ใหญ่ใจดีหรือเรียกว่า BFG (Big Friendly Giant) เขาได้พาเธอกลับไปยังเมืองแห่งยักษ์ แล้วไม่นานเธอก็ได้พบว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายจากพวกยักษ์ตัวอื่น พวกที่ชอบกินคนและลักพาตัวมาจากเมืองมนุษย์ จึงกลายเป็นภารกิจของ Sophie และ BFG ที่จะช่วยเหลือโลกมนุษย์ของเธอจากพวกยักษ์ร้าย

รีวิวโดย Emma: “เมื่อตอนเด็ก พ่อเคยอ่าน The BFG ของ Roald Dhal ให้ฉันฟัง ฉันรักหนังสือเล่มนั้นมากๆ”

The Little Prince เขียนโดย Antoine de Saint-Exupéry
วรรณกรรมคลาสสิกในดวงใจของนักอ่านหลายคน เจ้าชายน้อยออกติดตามทิชะลาเป็นคนนำทางหลังจากที่เขาตกจากดาวเคราะห์น้อยของตนเองมายังบนโลก

รีวิวโดย Emma: Emma รักเจ้าชายน้อยพอๆกับ The BFG ที่เธอเคยอ่านเมื่อยังเด็ก หนังสือทั้งสองเล่มนี้เธอบอกว่า “ที่ฉันชอบหนังสือสองเล่มนี้ไม่ใช่เพียงเพราะความรัก แต่หนังสือเหล่านี้ก็มีความทรงจำในตัวมันเอง ก็เหมือนกับการร้องเพลงนั่นแหละ พอหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ความทรงจำก็จะพาเราย้อนไปยังสถานที่อื่นในช่วงเวลาอื่น”

Mom & Me & Mom เขียนโดย Maya Angelou
มันเป็นหนังสืออัตชีวประวัติสองเล่มสุดท้ายของเธอ และเป็นหนังสือเล่มแรกที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของเธอกับแม่ Maya Angelou ผู้เขียน เธอยังคงสไตล์การเขียนเฉพาะตัวเหมือนตอนที่เธอยังเขียนนิยายเช่นเดิม หนังสืออัตชีวประวัติเล่มนี้ยังคงย้อนเรื่องราวไปยังตอนที่เธอเป็นนักเขียนติดอันดับขายดีตอนเขียนเรื่อง I Know Why the Caged Bird Sings.

รีวิวโดย Emma: เมื่อครั้งที่ Angelou เสียชีวิต Emma ได้ส่งข้อความระลึกถึงใน Twitter ของเธอว่า “เราจะซึมซับเรื่องราวชีวิตและคำกล่าวของคุณไว้ตลอดกาล เรารักคุณอย่างสุดซึ้ง” พร้อมกับแชร์ภาพปกหนังสือ Mom & Me & Mom

The Opposite of Loneliness เขียนโดย Marina Keegan
ก่อนที่ Keegan จะเริ่มงานที่ The New Yorker และนั่งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ในงานของเธอเองที่ the New York International Fringe Festival ชีวิตของ Marina Keean สั้นยิ่งนัก และคำกล่าวของเธอที่ว่า “อีกฟากของความเงียบเหงา (The Opposite of Loneliness)” ได้กลายเป็นไวรัลตีพิมพ์ลงใน Yale Daily News ผลงานเล่มนี้ตีพิมพ์ขึ้นหลังการจากไปของเธอนั้นได้รวบรวมเรื่องราวสั้นๆและความเรียงสำคัญเกี่ยวกับความหวังและความฝันของ Keegan เช่นเดียวกับที่เธอบอกเล่าถึงอุปสรรคที่พอเจอในชีวิตอีกด้วย

รีวิวโดย Emma: หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว Emma ได้เริ่มสนทนาเกี่ยวกับผลงานของ Keegan บน Twitter และติดต่อแลกเปลี่ยนกับนักอ่านที่ประทับใจกับหนังสือเล่มนี้เช่นเดียวกัน

The Fountainhead เขียนโดย Ayn Rand
กับเรื่องราวของชายผู้มักอยู่ลำพังมากกว่าอยู่เป็นหมู่คณะ นิยายของ Rand พูดถึงเรื่องราวของสถาปนิก Howard Roark ผู้ยึดติดกับเป้าหมายความสำเร็จมากกว่าจะผ่อนผันให้ตนเอง หนังสือเล่มนี้แฝงด้วยปรัชญาเข้มข้น Rand ได้สื่อถึงความซื่อตรงและความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างดี

รีวิวโดย Emma: “ฉันรู้ มันแนวเฉพาะกลุ่มไปหน่อย ซึ่งฉันคงไม่คลั่งไคล้ขนาดนั้น แต่มันก็สนุกดี”

The Remains of the Day เขียนโดย Kazuo Ishiguro
ได้รับรางวัล Man Booker Prize สาขานวนิยายในปี 1989 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ชู้สาวระหว่าง Stevens พ่อบ้าน กับแม่บ้าน อดีตเพื่อนร่วมงาน Miss Kenton นิยายเรื่องนี้ได้สร้างเป็นภาพยนตร์ขึ้นในปี 1993

รีวิวโดย Emma: Emma เธอพอใจกับหนังสือเล่มนี้ทีเดียว เธอกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องของการแสดงออกทางอารมณ์ที่ผ่านการคิดตรึกตรองอย่างรอบคอบ” เธอยังกล่าวต่อไปว่า “ส่วนตัวฉันเองไม่พึงพอใจนักกับความคิดแบบคนอังกฤษที่มองว่าการแสดงความรู้สึกตรงไปตรงมาเป็นสิ่งไม่ดี ซึ่งมันไม่เป็นธรรมชาติและไม่กล้าหาญเอาเสียเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังรู้สึกชื่นชมหนังสือเล่มนี้อยู่ดี”

Naughts and Crosses เขียนโดย Malorie Blackman
หนังสือเล่มแรกของนิยายซีรี่ย์สำหรับวัยรุ่น Naughts and Crosses เป็นเรื่องราวของสังคมชาวมนุษย์ในช่วงกลียุค บนพื้นทวีปที่รวมเป็นหนึ่ง และประวัติศาสตร์ของคนที่นั่นก็ไม่มีส่วนใดเหมือนกับประวัติศาสตร์ของโลกเราแม้แต่น้อย ธีมของนิยายเรื่องนี้พูดถึงการเหยียดเผ่าพันธุ์ ความเป็นเผ่าพันธุ์ไม่ยอมรับการอยู่ร่วมกัน และกลุ่มการเมืองที่ไม่คาดหมายได้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าตัวละคร

รีวิวโดย Emma: ในปี 2004 Emma เรียกหนังสือเล่มนี้ว่า “สุดยอดหนังสือในสามโลก”

Love Letters to the Dead เขียนโดย Ava Dellaira
การบ้านของ Laurel คือการเขียนจดหมายถึงคนตาย และได้กลายเป็นเรื่องราวการพัฒนาการของเธอเอง เช่นได้ลิ้มรสชัยชนะ ความเจ็บปวดในใจ และการค้นพบตัวตน การเขียนจดหมายนี้ไม่เพียงทำให้ Laurel ได้ติดต่อกับพี่สาวที่จากไป แต่ยังพาเธอไปพบเจอกับความจริงในอดีตอันวุ่นวายของเธอเอง

รีวิวโดย Emma: เมื่อ Emma อ่านหนังสือเล่มนี้จบ เธอได้ Tweet ถึงผู้เขียนว่าเธอรักหนังสือเรื่องนี้มาก เราคงไม่มีข้อพิสูจน์ไหนที่ดีกว่านี้อีกแล้ว!

Tiny Beautiful Things เขียนโดย Cheryl Strayed
หนังสือเล่มนี้รวบรวมข้อคิดจาก Dear Sugar คอลัมนิสต์ รวมถึงคำตอบอีกมากมายที่ยังไม่เคยพิมพ์เผยแพร่

รีวิวโดย Emma: Emma ใช้เวลาสามสัปดาห์อ่านหนังสือของ Srayed คือ Tinya Beautiful Thing, Torch, Wild หลังอ่านจบ เธอได้ Tweet ขอบคุณถึงผู้เขียนและ Reese Witherspoon ซึ่งเป็นนักอ่านและนักแสดงเรื่อง Wild ที่ทำขึ้นเป็นภาพยนตร์ในปี 2014

Quiet เขียนโดย Susan Cain Susan Cain
ผู้เขียน ได้ตั้งข้อถกเถียงว่าสังคมส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับคนที่มักเก็บตัวและให้ความสนใจกับคนที่ชอบเข้าสังคมมากกว่า แม้ว่า 1 ใน 3 ของประชากรจะมีคนเก็บตัวที่มีคุณภาพก็ตาม หนังสือขายดีเล่มนี้ได้พูดถึงกรณีของคนเก็บตัวและเหมาะสำหรับคนที่มีบุคลิกเป็นคนเก็บตัวและคนที่อยากทำความรู้จักมากขึ้นสำหรับใครที่มีเพื่อนเป็นคนเก็บตัว

รีวิวโดย Emma: “Quiet ได้อภิปรายว่าคนที่ชอบเข้าสังคมนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหนในสังคมของเรา และถ้าเราไม่ได้เป็นอะไรที่มากกว่าคนที่ชอบเข้าสังคมแล้วล่ะก็ เราก็จะถูกมองว่าผิดปกติ นั่นก็เหมือนกับเรื่องราวชีวิตของฉันเอง ที่ได้มาตระหนักว่าตัวฉันเองมีพลังมากเพียงใด เพราะฉันเคยรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า ต้องมีอะไรผิดปกติในตัวฉันแน่ เพราะฉันไม่อยากออกไปไหนเลยและต้องคอยทำตามที่เพื่อนอยากให้ทำ”

Just Kids เขียนโดย Patti Smith
เป็นบันทึกของศิลปินชาวอเมริกัน Patti Smith ที่มอบสายตาให้กับช่างถ่ายรูป Robert Mapplethorpe แฟนหนุ่มของเธอ ในช่วงท้ายยุค 60-70s หนังสือเล่มนี้ไม่เหมือนกับหนังสือบันทึกทั่วไป ผู้อ่านจะได้เพลิดเพลินกับบทร้อยแก้วและการเล่าเรื่องจริงในชีวิตของเธอก่อนที่จะมีชื่อเสียงในวงการ

รีวิวโดย Emma: “หนังสือเล่มนี้ช่างตรงไปตรงมาและกล้าหาญ ฉันรักวิธีการมองโลกของเธอ ทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตมันงดงามขึ้นหลังจากที่ได้อ่าน และรู้สึกถึงความหวังที่มากขึ้นด้วย”

The Shadow of the Wind เขียนโดย Carlos Ruiz Zafón
เรื่องเกิดขึ้นที่เมืองบาเซโลน่ากับสงครามกลางเมืองในประเทศสเปน เมื่อคนขายหนังสือผู้บังเอิญเจอหนังสือ The Shadow of the Wind ทำให้ค้นพบว่ามีใครบางคนคอยทำลายหนังสือทั้งหมดที่นักเขียนได้ทำขึ้น ภารกิจของ Daniel คือการเปิดโปงคนร้าย ความวิกลจริต และความพังพินาศในชีวิตรักที่เขาไม่ทันสังเกตร่องรอยของมัน

รีวิวโดย Emma: Zafón เป็นหนึ่งในนักเขียนคนโปรดของ Emma เธอเคยเขียนการบ้านส่งครูในช่วงปี 2007 ว่า The Shadow of the Wind คือหนึ่งในบรรดาหนังสือเล่มโปรดของเธอ

บทความโดย : โชติรวี โสภณสิริ
cr. https://media.bookbub.com/blog/2015/09/24/emma-watson-book-recommendations/?source=pintadblog_bookclub_13emmawatsonrecs