สำนักพิมพ์ชมรมเด็ก : ชมรมเด็ก มุ่งมั่น สร้างสรรค์ สานฝัน การอ่านของเด็ก

สำนักพิมพ์ชมรมเด็ก

จากประสบการณ์การทำหนังสือยาวนานเกือบ 40 ปี ทำให้ชื่อชมรมเด็กเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักอ่านทั่วไป ที่มุ่งมั่น สร้างสรรค์ สานฝัน การอ่านของเด็ก ผลิตหนังสือดีมีคุณภาพ ครอบคลุมตั้งแต่ หนังสือเตรียมความพร้อมต่างๆ สำหรับเด็ก 3 ขวบ เป็นต้นไป หนังสืออ่านต่างๆ ของเด็กทั้งบันเทิงและวิชาการ มีตำราระดับ มหาวิทยาลัย เน้นด้านวิจัย การศึกษา ห้องสมุด บรรณารักษ์และวิทยาศาสตร์ ฯลฯ นิทาน รวมไปถึง เรื่องสั้นและนวนิยาย

ชมรมเด็กก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยนายวิริยะ สิริสิงห กับภรรยา คือ นางสุภา สกุลเดิม ลือศิริ หรือที่เรารู้จักกันดีในนามปากกา โบตั๋น นักเขียนนวนิยายชื่อดัง ซึ่งเป็นคุณพ่อและของคุณแม่ของคุณสุวีริยา สิริสิงห ทายาทรุ่นที่สอง ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจวงการน้ำหมึกของครอบครัว คุณสุวีริยาเล่าให้ฟังว่า ถ้าพูดถึงตัวสำนักพิมพ์ของชมรมเด็กเอง จริงๆ แล้วจะใช้ชื่อว่า “สุวีริยาสาส์น” แต่คนจะรู้จักกันในนามชมรมเด็ก เพราะว่ามันเป็นชื่อร้านที่แต่ก่อนคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งขึ้นมา ชื่อว่าร้านชมรมเด็กจริง ๆ ถามว่านานไหมก็น่าจะประมาณเกือบ ๆ 30- 40 ปีละ ที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งขึ้นมา จริงๆแล้วสมัยก่อนเขาก็เคยอยู่ในวงการมานาน เราคือรุ่นที่สองที่รับช่วงต่อมา ช่วงแรกของคุณพ่อคุณแม่ก็เคยทำงานอยู่ในวงการหนังสือมาก่อน เช่น ชัยพฤกษ์วิทยาสาสตร์ ไทยรัฐหน้าโซนหนังสือเด็ก ส่วนคุณแม่ก็คือชอบเขียนนิยาย ชอบเขียนหนังสืออยู่แล้ว ทั้งสองท่านก็ได้มาเจอกันในสำนักพิมพ์ ตอนนั้นทำงานที่ไทยวัฒนาพาณิชย์ และท่านทั้งสองก็ตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันและได้ตัดสินใจทำหนังสือเพื่อเด็กที่เคยทำอยู่ และออกมาตั้งสำนักพิมพ์ชมรมเด็กขึ้น วันแรกคือแค่มีแฟกซ์ลูกค้าเข้ามา ท่านสองคนดีใจมาก หนังสือที่ทำช่วงแรกก็จะทำมาแจกกับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คือทำงานที่นั่นไปด้วยและก็ทำหนังสือไปด้วย หลัง ๆ ก็เริ่มมีนิยายของคุณแม่ด้วย ทีนี้หนังสือเด็กกับนิยายมันก็ค่อนข้างต่างกันเยอะ คุณแม่ก็เลยทำโลโก้หนังสือขึ้นมานั่นก็คือโลโก้ “สิงโต” โดยจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม สีเหลืองคือกลุ่มของเด็ก สีแดงคือนิยาย สีน้ำเงินก็จะเป็นแนวหนังสือแบบเด็กโตขึ้นมาหน่อยและหลังจากนั้นก็ทำมาเรื่อย ๆ จากตึกแถวห้องเดียวก็ขยายมาเป็นสองห้องสามห้องและก็มีไปออกงานหนังสือต่าง ๆ แต่โดยส่วนตัวเอง เรียนมาทางด้านศิลปะชอบวาดรูป อาชีพหลักของตัวเองจริง ๆคือวาดภาพประกอบก็เลยไปลงเรียนเพิ่มเติมทางด้านนี้ส่วนใหญ่จะดูหนังสือเด็กเป็นหลัก ส่วนทางด้านของนิยายก็ยังคงเป็นคุณแม่เป็นคนดูแลเพราะท่านถนัดทางด้านนี้อยู่แล้วค่ะ

 

 

ถ้าถามเรื่องยอดขายในช่วง 3-4 ปีนี้ลดลงมาก โดยส่วนตัวที่คิดมันอาจจะมาจาก คนไทยอ่านหนังสือน้อยลงไหม? หรืออ่านมากขึ้น จริง ๆคนไทยชอบอ่านหนังสือนะแต่ไม่ค่อยจะอ่านกันแบบเป็นตัวเล่ม แต่จะไปหาอ่านกันแบบออนไลน์ เปิดแอพฯ อ่าน เปิดพันทิปอ่าน ถ้าคนส่วนใหญ่เท่าที่สังเกตดูเขาจะจับหนังสือประเภทบันเทิงคดี อ่านเพื่อความบันเทิง แต่ถ้าเป็นแบบวิชาการบางคนก็จะบอกว่ายังไม่ต้องไปอ่านไปหาเสิร์ชดูก็ได้ ตรงนี้ก็อาจจะทำให้ยอดขายตกลงในส่วนหนึ่ง แต่ว่าส่วนใหญ่หนังสือตรงนี้ยังเป็นหนังสือวัยรุ่นหน่อย แต่ถ้าเป็นหนังสือเด็กมีความรู้สึกว่ามันยังจับต้องได้อยู่ ก็เลยพยายามไปเจาะตลาดโดยตรงอย่างเช่น เข้าตามทางโรงเรียน ให้เซลล์ไปคุยกับทางโรงเรียนอนุบาล หรือตามร้านค้าต่างจังหวัดถ้าเขาเสนองบประมาณมา เราก็เข้าไปคุยกับเขาว่าเรามีหนังสือจะเสนอ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องยอมเสียส่วนลดเพิ่มมากขึ้นหรือจัดกิจกรรมเสนอ ไม่ก็สร้างเป็นอีบุ๊คเพื่อความสะดวกมากขึ้น

ก่อนจะจบบทสนทนา เลยถามถึงเรื่องในฐานะที่สำนักพิมพ์ของคุณสุวีริยาเป็นองค์กรหนึ่งของวงการหนังสือ อยากแสดงความคิดเห็นอะไรบ้าง ให้วงการฯ คุณสุวีริยา ให้ความเห็นว่า “ ถ้าถามความคิดเห็นตอนนี้ คิดว่าในวงการยังกระจัดกระจ่ายกันอยู่บ้าง ตอนนี้จะมีร้านเล็ก ๆ เข้ามาเยอะซึ่งบางคนก็ยังไม่ค่อยรู้จักกัน แต่ก็ยังมีจุดศูนย์กลางนั่นก็คือ สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ที่รวบร่วมคนในสมาชิกมาเจอกัน อาจจะมีการพูดคุยหรือปรึกษาปัญหามากกว่านี้ วงการหนังสือเราจะได้เข้มแข็ง และอยากให้ทางภาครัฐมาช่วยสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น อยากให้วงการหนังสือก้าวไปไกล อยากให้หนังสือของไทยเป็นที่รู้จัก ถ้าเป็นไปได้อยากให้ไปถึงระดับโลก แต่ว่ากว่าจะให้จุดนั้นเราต้องพัฒนาหนังสือของเราไปเรื่อยๆ และมีการออกบูทในต่างประเทศ หรือต้องมีการติดต่อซื้อขายลิขสิทธิ์ไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น ”

 

 

 

 

สำนักพิมพ์ชมรมเด็ก Website : http://www.chomromdek.com
FB : https://www.facebook.com/chomromdek.book


Publisher Corner : สุกัญญา สุวิธานโธ
ภาพ : ศิริรัตน์ สุ่นสกุล

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ