มื่อเอ่ยถึง วันทนีย์ วิบูลกีรติ เรามักจะนึกถึงวรรณกรรมเยาวชน นึกถึงดวงตาใสๆ ไร้เดียงสา เสียงหัวเราะที่ไร้ ซึ่งเล่ห์มายา เป็นความน่ารักใสๆแบบเด็กๆ วรรณกรรมเยาวชนของเธอเป็นมากกว่าเรื่องราวเล็กๆของเด็กๆ เหตุเพราะมันถูกกลั่นกรองออกมาจากจิตใจที่บริสุทธิ์ของเธอ... เธอบอกว่าเธอมีหัวใจเด็กซุกซ่อนอยู่ภายใน
วันทนีย์ วิบูลกีรติ เป็นนามปากกาที่เธอใช้เขียนวรรณกรรมเยาวชน หรือที่เธอเรียกมันว่าเรื่องราวของเด็กส่วน วรรณะ กวีเป็นอีกนามปากกาที่นักเขียนหญิงสาวผู้นี้ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน เรื่องสั้นและนิยายแบบผู้ใหญ่ ปัจจุบันนี้เธอมีผลงานรวมเล่มแล้วทั้งสิ้น 28 ปก ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่วรรณกรรมเยาวชน จะมีแทรกแซมอยู่บ้าง 4-5 เล่มสำหรับงานเขียนแนวอื่น
วันทนีย์ วิบูลกีรติ เริ่มเขียนหนังสือมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ นิทานสั้นๆของเธอลงพิมพ์ในนิตยสารสตรีสารโดยผลตอบแทนที่ได้รับคือของที่ระลึกจากนิตยสาร แม้จะเป็นของเล็กๆน้อยๆ แต่ความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นมาต่างหากเล่าที่เธอตะหนักถึงก้าวย่างแห่งการเดินบนถนนสายหนังสือ พอโตขึ้นมาในช่วงวัยรุ่น เธอมีคอลัมน์ประจำในแพรว
“ก็เริ่มเขียนมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนอายุ 8 ขวบ เขียนเรื่องส่งไปที่นิตยสารสตรีสาร ได้ลงก็ได้ของที่ระลึกเช่นกล่องดินสอบ้าง ของเล่นบ้าง พออายุได้ 14-15 ก็เขียน ก็เขียนลงในนิตยสารแพรวเป็นคอลัมน์ประจำ ตอนนั้นได้ค่าตอบแทนสองร้อยบาทจำได้เลย”
วันทนีย์ วิบูลกีรติ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากรั้วพ่อขุน ในรั้วมหาวิทยาลัยเธอเริ่มทำกิจกรรมต่างๆมากมาย ทั้ง โต้วาที ร่วมกลุ่มมะขามป้อมทำละครเวที และอีกหลายๆกิจกรรม ปัจจุบันแม้สุขภาพไม่ดีนักแต่เธอยังหาเวลาว่างสำหรับทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะกิจกรรมทางด้านส่งเสริมการอ่านที่เธอเห็นว่าจำเป็นยิ่งสำหรับเยาวชน
“ทุกวันนี้ก็ยังรวมกลุ่มกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งชื่อกลุ่มว่ากลุ่มผีเสื้อหนอน ไปทำห้องสมุดในต่างจังหวัดทุกปี เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็ไปทำที่ฉะเชิงเทรา ขึ้นเขาไป เป็นกึ่งวัดกึ่งโรงเรียน เด็กๆนักเขียนก็จะเป็นเณรเรียนรวมกับเด็กๆที่เป็นชาวบ้านบางคนก็ไม่มีเสื้อผ้าใส่มาเรียน จริงๆแล้วความยากจนไม่ได้อยู่ในที่ๆ ไกลโพ้นใกล้ๆนี้ก็มีในกรุงเทพก็มี
เมื่อก่อนก็เคยไปสอนหนังสือให้เด็กในชุมชนแออัดเห็นได้ชัดเลยถึงความแตกต่างของชุมชนในบ้านเราคือมันไม่จำเป็นต้องเป็นชนบทกับกรุงเทพ แค่ในกรุงเทพคนจนกับคนรวยก็ต่างกันมากแล้ว มันมีอยู่มันซ่อนมันซ้อนอยู่ ก็อยากจะส่งเสริมการอ่านให้กับเด็กๆ เพราะวันหนึ่งเขาจะกลายมาเป็นผู้ใหญ่เป็นแขนขาของประเทศชาติต่อไป”
เมื่อจบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยเธอก็เข้าสู่สังคมคนทำงานเธอเป็น copy writer-โฆษณา อยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำอยู่ได้ประมาณ 3 ปี เธอก็พบว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ทางที่เธอต้องการจะเดิน “จบมาก็ทำงานอยู่ในแวดวงโฆษณาได้สองถึงสามปีก็รู้สึกว่า มันไม่ใช่ตัวเราจริงๆ เพราะงานโฆษณามันโดนย้อมงานคือมันไม่ได้ออกจากจิตใจขงเราเองจริงๆ กว่าจะมีชิ้นงานโฆษณาออมาสักชิ้นมันต้องประชุมต้องสรุปกับฝ่ายต่างๆ แล้วอีกอย่างเราเป็นคนที่ชอบทำงานคนเดียวคิดคนเดียวด้วย รู้สึกว่ามันเป็นงานที่บริสุทธิ์จากความคิดของเรา เลยหันกลับมาแล้วมาเขียนหนังสืออย่างจริงๆจังๆ ช่วงแรกๆก็ลำบากนิดหนึ่ง
ตอนที่ทำงานประจำนี้หนังสือไม่ค่อยได้เขียนหรืออาจจะเรียกว่าไม่ได้เขียนเลยด้วยซ้ำคือเรารู้สึกว่ามันเหนื่อยมากต้องประชุม ต้องอะไรหลายๆอย่างมากจนเราไม่ได้เขียนหนังสือ” สำหรับผลงานรวมเล่มชิ้นแรกของเธอ คือ กล่องใส่ความฝัน ซึ่งอยู่ในโครงการต้นอ้อ-แกรมมี่ เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่พ่อแม่แยกทางกัน เหตุผลที่เธอเลือกเขียนวรรณกรรมเยาวชนเหตุเพราะเธอมีโลกของเด็กซุกซ่อนอยู่ในตัวเธอ
“ที่เลือกเขียนวรรณกรรมเยาวชนเพราะตัวเองมีโลกของความเป็นเด็กสูง จะจำเรื่องราวของชีวีตในวัยเด็กได้ เข้าใจจิตใจเด็กคือมันออกมาจากตัวเองด้วยเลยชอบเขียนวรรณกรรมเยาวชน เขียนแล้วก็มีความสุข ก็ชอบหนังสือทุกเล่ม ที่เขียนมา ในช่วงเวลาหนึ่งเราจะชอบอย่างหนึ่ง พอเวลาผ่านไปเราไปชอบไปสนใจอีกอย่าง
แต่ในละเวลานั้นๆ มันเป็นสิ่งที่ชอบที่สุดที่เราจะเขียนเรื่องนั้นอย่างตอนนี้ก็สนใจเรื่องดาราจักร เรื่องมนุษย์ต่างดาว ฉะนั้นมันก็จะเป็นเรื่องราวที่สุดๆในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หากย้อนดูผลงานเราจะรู้สึกเหมือนกับว่าหนังสือเป็นบันทึกชีวิตประจำวัน ของเราที่เราชอบที่สุด ”
- ผลงานตอนนี้
มีออกมาสองเล่ม คือ ดินแดนความรัก เล่มนี้พิมพ์กับสยามอินเตอรคิดส์ ส่วนอีกเล่มคือ โรงเรียนสนธยา เล่มนี้ออกกับชมรมเด็ก ส่วนในนิตยสารตอนนี้มีผลงานลงอยู่ที่หญิงไทย คือ แดนมหัศจรรย์ 12 ภพ เรื่องนี้เป็นภาคต่อของเรื่อง หน้าต่างนางฟ้า หรืออาจจะเรียกว่าเป็นหน้าต่างนางฟ้า ภาค 2 ก็ได้
- นักเขียนอาชีพ
ตอนนี้ทำงานเขียนหนังสืออย่างเดียว ตอนนี้อ่านหนังสือหาข้อมูล ชีวิตก็จะสลับกันไปอ่านบ้างเขียนบ้างถ้าช่วงไหนสนใจจะเขียนเรื่องออะไรก็จะหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นมาอ่าน อ่านเพื่อเก็บสะสมไว้เป็นข้อมูลสำหรับไว้สร้างงานอย่างตอนนี้ กำลังสนใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับ ดาราจักร กับมนุษย์ต่างดาว ก็จะหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาอ่าน
- ลำบากมากไหม
ตอนช่วงแรก จะเขียนเรื่องสั้นเยอะ ตอนแรกเป็นช่วงที่กำลังค้นหาทิศทางเกี่ยวกับงานเขียนของตัวเองก็จะเขียนเรื่องสั้นไปด้วย ก็พอที่จะทำให้เราพออยู่รอดได้ ตอนช่วง 10 ปีที่แล้วจะมี ให้เราเขียนส่งไปได้ ก็ได้เงินมาพอที่จะเลี้ยงตัวเองแบบพอเพียง ก็จะไม่ลำบากมากอะไรพอจะอยู่ได้ และตัวเองก็ไม่เคยคิดว่าอยากรวย พอใจกับสิ่งที่ทำ ทำงานที่เรารักเราชอบ ก็จะเขียนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆไม่ได้หวังอะไรมากมายกับชีวิต