ภาพของสาวน้อยวัยเพียง 15 ปีที่ส่งรอยยิ้มสดใสพร้อมแววตาเปล่งประกายของความสุขมาต้อนรับเรา ทำเอาแทบจะต้องขยี้ตาและถามตัวเองว่า... นี่ใช่เจ้าของผลงาน The Mermaid Apprentices นวนิยายแฟนตาซีไตรภาค ที่แทบทุกบรรทัดอัดแน่นด้วยเรื่องราวการผจญภัยในโลกใต้สมุทร ซึ่งล้วนแต่รื่นไหลและสนุกจนถึงขั้นอ่านได้แบบรวดเดียวจบ-ทั้งที่ปกติจะไม่ค่อยถูกจริตกับหนังสือแนวนี้มากนักแถมยังเป็นผลงานที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษทั้งเล่ม! ก่อนที่นักแปลชื่อดัง สุมาลี จะนำมาถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอีกครั้งในชื่อ ผจญภัยในแดนเงือก
"ปอเปี๊ยะ-แพรกานต์ นิรันดร " คือชื่อเจ้าของฝีมือไม่ธรรมดาที่ว่า
"หนูชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ แต่เพิ่งมาอ่านเป็นเล่มหนาๆก็ช่วงแฮร์รี่ พอตเตอร์ งานของเม็ก คาร์บอท ของไมเคิล ไครเธิร์นก็ด้วย ชอบไปร้านหนังสือ เดินตรงไปคิโนะฯ,เอเชีย บุ๊ค" ปอเปี๊ยะย้อนอดีตให้ฟัง
ปอเปี๊ยะยกความดีให้คุณพ่อคุณแม่ ที่จุดประกายความสงสัยให้เธอว่า "หนังสือมีอะไรดี?" หลังจากที่เห็นทั้งคู่ชอบอ่าน และเวลาไปไหนก็จะพกหนังสือไปด้วย
"เวลาหนูเจอหนังสือที่เขียนดีๆที่เขียนถึงหน้าสุดท้ายแล้วยังมีอิทธิพลทำให้เราคิดต่อ รู้สึกเหมือนตัวละครมีชีวิตจริงๆ จะตื่นเต้นมาก ถ้าตัวเองสามารถเขียนเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกแบบนั้นได้คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ" เพราะงั้นในวัย 13 ปี สาวน้อยจึงเริ่มวางโครงเรื่อง 14 ปี เริ่มเขียน 15 ปีตีพิมพ์
เขียนคงไม่ยากเท่ากับการนับหนึ่ง ในวันที่วัยยังไม่มากนัก
"คงไม่ใช่ตัดสินใจเขียนแล้วเขียนเลยน่ะคะ แต่เก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ พอยิ่งเก็บยิ่งวางแผนก็ยิ่งรู้สึกว่าจะยอมแพ้หรือทิ้งทุกอย่างไม่ได้แล้วล่ะ ทำมาขนาดนี้ ตอนเริ่มเขียนก็ตั้งใจว่าจะต้องตีพิมพ์ให้ได้"
เมื่อตัดสินใจเริ่ม ปอเปี๊ยะก็ตั้งใจจะผสานระหว่างเรื่องราวการผจญภัยและตำนานสิ่งมีชีวิตในโลกลึกลับที่เธอชื่นชอบมาไว้ด้วยกัน เพราะงั้นจะให้นั่งจินตนาการอย่างเดียวก็คงไม่เข้าที การค้นคว้าข้อมูลทั้งจากหนังสือต่างๆที่เจ้าตัวอุตส่าห์สั่งซื้อจากเว็บไซต์อเมซอนเลยเกิดขึ้น
"อย่างพรายกับเอลฟ์ที่รีเสิร์ชมาก็เห็นว่ายังมีเรื่องน่าสนใจอีกเยอะ ที่ยังไม่มีคนพูดถึง ส่วนนางเงือกหนูชอบตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ อาจจะไม่ใช่แค่ตำนานก็ได้"เจ้าตัวกระซิบพร้อมทำตาโตไม่เพียงเท่านั้น ประสบการณ์การเดินทางไปสัมผัสหลายๆสิ่งทั่วโลกก็ถูกนำมาใช้ในการเขียนด้วย "นอกจากใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างวงจรชีวิตใต้น้ำ ภูมิศาสตร์ เวลาไปที่ไหนหลายครั้งก็จะได้แรงบันดาลใจจากสถานที่ อย่างไปพิพิธภัณฑ์ก็นั่งเสก็ตภาพอยู่ห้าชั่วโมง ได้จากบุคลิกของผู้คน บางครั้งก็ดึงประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นนั้นมาใช้ด้วย ให้กลายเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง เหมือนไปฮาวายก็นำลักษณะภูมิประเทศ ทิศทางการเคลื่อนที่ของลมมาประยุกต์ ไปดำน้ำที่มัลดีฟส์ โอโห สวยมาก เหมือนไฟดิ้ง เนโมเลย ก็นำมาปรับเป็นฉากโลกใต้น้ำ"
สำหรับโลกแฟนตาซี สำคัญขนาดนี้เลยหรือ...
"ใช่ค่ะ ต้องค้นคว้า ถึงจะเป็นเรื่องแต่ง แต่ถ้าเราอยากเขียนให้ดี ให้คนอ่านสนุกก็ควรจะต้องสมจริงด้วย" การค้นคว้าของสาวน้อย ไม่ได้มีแค่เรื่องเขียน ระบบวิธีคิดและวางแผนของเธอ ยังรวมถึงเรื่องการพิมพ์และการจัดจำหน่ายด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ว่าระบบของเมืองไทยกับต่างประเทศต่างกัน เธอและคุณแม่ที่สนับสนุนลูกสาวตลอดมา ก็นำนิยายที่เขียนเสร็จแล้วไปเสนอนานมีบุ๊คส์
อย่าคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะถูกปฏิเสธ โดยขอให้นำมาอีดิธใหม่
ปอเปี๊ยะจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรุ่นพี่ให้วิจารณ์และแนะนำ ก่อนจะส่งกลับไปอีกครั้ง
ถ้าเป็นคนอื่น อาจถอดใจไปแล้ว
"ห้ามยอมแพ้เด็ดขาดเลยค่ะ" ปอเปี๊ยะพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง"เคยอ่านเจอสถิติหนึ่งบอกว่ามีหลายคนอยากเป็นนักเขียน แต่น้อยคนที่จะเขียนจบ และน้อยไปใหญ่ที่จะตีพิมพ์ เพราะโดนส่งกลับมา แต่หนูเป็นคนประเภท ถ้าชอบจริงๆ ถึงรู้ว่านี่จะยาก แต่ก็ต้องทำให้ได้ ทำมาขนาดนี้ถ้ายอมแพ้ทุกอย่างก็จะเสียเปล่าไปเลย"
สาเหตุหนึ่งของคำปฏิเสธอาจเพราะนี่คือนวนิยายภาษาอังกฤษ
"อาจเพราะไม่เคยมีใครเขียนเป็นภาษาอังกฤษไปเสนอ แล้วเขาก็บอกว่ายังไม่เคยมีนักเขียนเด็กขนาดนี้ด้วย" เจ้าตัวว่าขำๆ แต่นั่นคือความตั้งใจแต่แรกของเจ้าตัว สาเหตุหนึ่งเพราะปอเปี๊ยะโตมาในสังคมอินเตอร์ แต่อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเธอไม่หวังแค่คนไทยเท่านั้นที่จะได้อ่าน
"อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของวงการหนังสือ วันเปิดตัวก็มีเอเจนซี่จากอังกฤษกับอเมริกามาคุยด้วย"
ปอเปี๊ยะบอกว่าไม่ได้หวังจะดังแบบแฮรรี่ พอตเตอร์ หรือทุกคนบนโลกต้องอ่านหนังสือของเธอ แต่ต้องการแค่เติมเต็มความฝันเท่านั้น เก่งขนาดนี้ แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่ง เพราะเมื่อไหร่ที่คิดอย่างนั้นเจ้าตัวบอกว่าจะกลายเป็นการปิดกั้นตัวเอง ปิดโลก ปิดความคิด ต้องเปิดใจและจะได้สิ่งดีกลับมาอีกมากมาย
ส่วนอนาคตนั้น...
"โตขึ้นหนูคงไม่เป็นนักเขียนเต็มตัว แต่งานเขียนจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตหนูตลอดไปเพราะหนูอยากให้คนอ่านรู้สึกกับหนังสือที่หนูเขียน เหมือนที่หนูรู้สึกเวลาอ่านหนังสือดีๆ ให้เป็นเพื่อนกับคนอ่าน เป็นแรงบันดาลใจว่าทุกคนทำได้ ถึงจะเป็นเด็กก็เถอะ ถ้าไม่ยอมแพ้"เหมือนที่สาวน้อยคนนี้ ไม่เคยยอมแพ้จนมีวันมหัศจรรย์ให้ภูมิใจ
โดย สิ'นัน