คุยนอกรอบ แก้ว การะบุหนิง : เจ้าของผลงาน คืนหนึ่ง...ค่ำนั้น คว้ารางวัลอันดับสอง รางวัลชมนาด ครั้งที่ 12

คุยนอกรอบ แก้ว การะบุหนิง

       แก้ว การะบุหนิง นามปากกาของ สุวรรณา แก้วศรี ผู้คว้ารางวัลอันดับสอง จากเวทีชมนาด ครั้งที่ 12 ในผลงานเรื่อง 'คืนหนึ่ง...ค่ำนั้น' หลายคนคงรู้จักเธอเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้เธอเคยได้รับรางวัลชมนาดครั้งที่ 7 ประเภท Non-Fiction จากผลงานเรื่อง 'ความงดงามของชีวิต' ที่เล่าจากประสบการณ์ตรงถึงบทบาทของอาชีพพยาบาลในแง่มุมที่บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน แม้ว่าปัจจุบันเธอยังคงปฏิบัติหน้าที่ในหอผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จังหวัดน่าน แต่ก็จะมักหาเวลาในการเขียนหนังสืออย่างสม่ำเสมอ

      คืนหนึ่ง...ค่ำนั้น เป็นนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวน โดยมีแมวดำเป็นตัวไขปริศนา โดยมีตัวละครเอกอย่าง ร้อยตำรวจเอกประพาส ที่ทำคดี การพบศพชายนิรนามในซอยร้างหลังโรงพยาบาลจิตเวช ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และฝนในคืนที่ผ่านมา ชะล้างเอารอยเท้ารอบบริเวณหายไปหมด เหลือเพียงศพที่เต็มไปด้วยบาดแผล กับปริศนาที่หาคำอธิบายไม่ได้ จนเกิดเป็นเสียงเล่าลือถึงอาถรรพ์ของซอยหลังโรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งเคยเป็นจุดเกิดเหตุฆาตกรรมมาแล้วถึงสองครั้ง แต่ร้อยตำรวจเอกหนุ่มคนนี้ไม่เชื่อในอาถรรพ์หรือสิ่งลี้ลับ ฆาตกรตัวจริงเป็นใคร ต้องไปช่วยกันไขปริศนาในนิยายเรื่องนี้ 

 

คืนหนึ่ง ค่ำนั้น

 

ตัวแปรสำคัญที่ทำให้คิดเขียนเรื่องนี้

        เริ่มแรกในการเขียนของตัวเองเริ่มมาจากเรื่องสั้นแนวลึกลับสืบสวน เพราะในช่วงมัธยมต้นเป็นคนที่ อ่านนวนิยายแนวสืบสวนเยอะมาก โดยเฉพาะงานของอกาธา ครสตี้ อ่านทุกเล่มที่มีอยู่ในห้องสมุดโรงเรียน โดยงานแรกของอกาธาที่อ่านคือตุ๊กตาอาธรรพ์ จำได้ว่าอ่านเรื่องนี้ถึงกับเป็นไข้เพราะน่ากลัวมาก จริงๆอาจจะไม่น่ากลัวขนาดนั้นแต่ด้วยความที่เรายังเด็กและเพิ่งอ่านนิยายแนวนี้ครั้งแรกเลยทั้งกลัวทั้งประทับใจ พออ่านเยอะๆก็อยากจะเขียนบ้าง ในช่วงแรกที่เขียนงานก็เป็นเรื่องสั้นแนวลึกลับบ้าง เคยเขียนนิยายแนวนี้แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ อาจเพราะตอนนั้นเราเน้นแต่การเสนอเรื่องฆาตกรรมทำให้ความน่าสนใจของเรื่องเป็นภาพมิติเดียวไม่มีความกลมกล่อมของเนื้อหา
 

            สำหรับคืนหนึ่ง...ค่ำนั้น ครั้งแรกที่เริ่มวางพล๊อตปี พ.ศ.2554 ก็เหมือนนิยายฆาตกรรมอื่นที่ตัวเองเขียนคือเน้นฉากฆาตกรรม แต่พอเขียนแล้วรู้สึกมันไม่กลมกล่อมไม่มีเป้าหมายอะไร เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราเขียนเรื่องนี้ทำไม?...คำตอบก็คือเขียนเพราะอยากเขียน แต่พอคิดกลับว่าเขียนแล้วให้อะไรกับคนอ่านบ้าง...มันกลับไม่มีคำตอบอะไร เลยตั้งโจทย์กับตัวเองว่างานหนึ่งงานที่เขียนต้องให้อะไรกับคนอ่านบ้างนอกเหนือจากความสนุกของเนื้อเรื่อง
 

            หลังจากตั้งคำถามและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลยวางเรื่องนี้ไว้นานจนก่อนการประกวดชมนาดครั้งนี้ ขณะกำลังเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งอยู่ ตอนที่เปิดค้นหาเพื่อจะเขียนเรื่องสั้นต่อก็เจอเรื่องนี้อยู่ในคอมพิวเตอร์ก็อาจเป็นจังหวะของเรื่องที่ได้เวลามาเขียนต่อให้จบสักที ประกอบกับ 2-3 ปีมานี่ข่าวสารในโลกอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นรวดเร็วมาก คนเราก็เสพติดความรวดเร็ว จนบางครั้งก็ขาดความฉุกคิดพิจารณาว่าอะไรคือเรื่องจริงหรือไม่จริงและเราก็ตัดสินผู้คน ถูกผิดกันอย่างรวดเร็ว นั่นเลยเป็นตัวแปรหลักของเรื่องคืนหนึ่ง...ค่ำนั้น ที่ได้รวมเล่มอยู่ในมือผู้อ่านในวันนี้

แก้ว การะบุหนิง

 

รู้จักรางวัลชมนาดได้อย่างไร

            ก่อนจะมาเขียนก็ต้องเป็นนักอ่านก่อนและก็เป็นแฟนเพจของสำนักพิมพ์หลายๆสำนักพิมพ์ รวมทั้ง ประพันธ์สาสน์ด้วย ทำให้เห็นข่าวการประกวดรางวัลชมนาดผ่านทางหน้า facebook ซึ่งจุดนี้น่าจะเป็นเรื่องดีของการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตที่ทำให้เราได้เห็นข้อมูลมากมายเป็นเบื้องต้น

 

คุณเสาวรี เอี่ยมละออ ตัวแทนในการรับมอบรางวัล
 

มีความคาดหวังอย่างไรกับรางวัลชมนาดในอนาคต

            แน่นอนว่านักเขียนทุกคนอยากมีรวมเล่มงานของตัวเองเป็นอันดับแรก การได้เห็นงานของตัวเองรวมเล่มเหมือนเป็นรางวัลให้เราหายเหนื่อยจากการพยายามที่จะเขียนหนังสือ มีหลายคนบอกถ้าอยากเป็นนักเขียนก็ไปเขียนงานให้จบเรื่อง
 

            อันดับถัดจากมีงานรวมเล่มของตัวเอง ต่อไปก็คงอยากมีงานรวมเล่มที่เป็นภาษาต่างประเทศบ้าง ไม่ว่าอังกฤษ หรือจีน เชื่อว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่คิดแบบนี้ นักเขียนไทยหลายคนก็ไม่ต่างกัน การได้นำงานเขียนของตัวเองออกเสนอระดับนานาชาติจึงเป็นความหวังและความฝันเช่นกันค่ะ

 

Writer

หนึ่ง หนึ่ง

พ่อแมวอันดับหนึ่งในปฐพี เขียน/คุยได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องมีสาระ