เมื่อช่วงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 42 ที่ผ่านมา บนเวทีเอเทรียม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น้องเมย์ สุกัญญา ตัวแทนกองบรรณาธิการจากสำนักพิมพ์เรนโบว์ ในเครือประพันธ์สาส์น ได้สัมภาษณ์พูดคุยกับคุณรัณ ศยา (แก้ว) เจ้าของผลงานจ้าวจตุรทิศ คุณ B.pearl (มุก) เจ้าของผลงาน Cupid valentine ต้องมนต์รักนายคิวปิด และ คุณจีนี่จอมแก่น (เก๋) เจ้าของผลงาน Puzzle raised love ปริศนารักยกกำลังร้าย และ My prey,Baby! กับดักร้ายเดิมพันหัวใจรัก ในหัวข้อ “ก้าวข้ามจินตนาการสู่ตัวอักษร”

ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ คุณรัณ ศยา มีหนังสือ “จ้าวจตุรทิศ ภาคจัณฑวาตา” เล่ม3 ออกมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกัน ด้วยความอยากลองเขียนอะไรที่เป็นไทยๆ และเป็นแฟนตาซี เพราะสมัยเด็กๆ ชอบคิดว่าอะไรที่เป็นไทยๆ มันเชย จึงหยิบเอาเรื่องแบบไทยๆ มาเล่าใหม่ในลักษณะที่เป็นสากล เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่หยิบหนังสืออะไรมาอ่านก็ไม่สนุก ก็เลยคิดว่าทำไมไม่มีใครเขียนแนวแฟนตาซีไทยประยุกต์ พอนึกขึ้นได้ก็ลงมือเขียนเลย และอยากรู้ว่าตัวเองจะทำได้แค่ไหน ก็เลยเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ส่วนเล่มสี่ที่เป็นเล่มจบนั้นกำลังตามมา อาจจะช้าสักหน่อย ด้วยความที่ทำงานตอนกลางวัน ทำให้ไม่ค่อยมีเวลา ต้องเขียนตอนกลางคืนและเสาร์อาทิตย์เท่านั้น

ส่วนของคุณจีนี่จอมแก่นมีด้วยกันสองเล่มคือ “Puzzle raised love ปริศนารักยกกำลังร้าย” เป็นแนวไขปริศนา มีตัวละครสามตัวเข้าร่วมเล่นเกมหนูน้อยหมวกแดง โดยมีคนบงการอยู่เบื้องหลัง ส่วนเรื่อง “My prey,Baby! กับดักร้ายเดิมพันหัวใจรัก” พระเอกเป็นนักฟุตบอล มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ เพราะส่วนตัวชอบดูฟุตบอลก็เลยเขียนแนวนี้ และอยากจับนักฟุตบอลคนหนึ่งมาเป็นพระเอกของตัวเอง เรื่องราวก็ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ จะตลกๆ เสียมากกว่า เคยมีคนการันตีว่าเราบรรยายเกรียน พออ่านก็จะรู้ว่าเป็นแบบจีนี่สไตล์ เวลาบรรยายทั่วไปก็จะใส่มุกหยอดมุกเข้าไป และชอบแต่งนิยายตอนกลางคืน หัวจะปรี๊ดปร๊าดมาก

และส่วนของคุณ B.pearl เป็นเรื่อง “คิวปิดวาเลนไทน์ ต้องมนต์รักนายคิวปิด” เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการความรักมากกว่าใครๆ ส่วนพระเอกของเราก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หวาดกลัวความรัก ดังนั้นความรักของสองคนนี้ ลงเอยกันค่อนข้างยาก เพราะนางเอกต้องตามตื๊อพระเอกที่ทำงานในคลับแห่งหนึ่ง เค้าทำงานเป็นกามเทพ หน้าที่คือช่วยจับคู่รักให้คนจ้าง ไม่มีหน้าที่ไปรักใคร แต่นางเอกอยากให้เขาเป็นคนรักมากกว่าที่จะให้พระเอกจับคู่ตัวเองกับผู้ชายคนอื่น คือส่วนตัวก็เขียนนิยายรักมาเยอะแล้วค่ะ แล้วคิดว่านิยายรักในตลาดมันค่อนข้างเหมือนกันเยอะ ก็เลยอยากเปลี่ยนนิยายรักเป็นแนวสะท้อนสังคมสักนิดจะได้ไหมนะ อิงความเป็นจริงนิดหน่อยในโลกสังคมแบบมันไม่ได้สวยงามแบบนั้นเสมอไป นางเอกต้องพบเจออุปสรรค มีอุปสรรคขวางกั้นชีวิต และจะผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านี้ไปได้อย่างไร นี่คือพล็อตเรื่องหลักค่ะ ส่วนใหญ่นิยายของ B.pearl จะเน้นเรื่องบรรยายกับการใช้อารมณ์ หรือจะเรียกว่านิยายดราม่าก็ได้ ค่อนข้างใช้อารมณ์แล้วเขียนแบบอิงแฟนตาชีนิดๆ เพื่อให้มันสนุก และชอบคิดพล็อตนิยายตอนอาบน้ำ เวลาน้ำซะหัวจะรู้สึกสบายหัวเป็นเวลาเงียบๆ ได้อยู่คนเดียว ได้อยู่กับตัวเอง ความคิดจะลื่นไหลที่สุด

เมื่อพูดถึงความยากง่ายของการเขียนนิยายของแต่ละคน ดูเหมือนคุณรัณ ศยาและคุณจีนี่จอมแก่นจะประสบปัญหาเดียวกันในการเขียนแนวดราม่าสื่ออารมณ์ โดยคุณรัณ ศยา กล่าวว่า จ้าวจตุรทิศนั้นเน้นพล็อตเรื่องมากกว่าความดราม่าหรือความรู้สึกของตัวละคร ซึ่งโชคดีที่ได้กองบรรณาธิการช่วยเสริมจุดตรงนี้ขึ้นมา ส่วนตัวคุณจีนี่จอมแก่นนั้นได้กล่าวไว้เลยว่าไม่ค่อยชอบเขียนเรื่องดราม่า แต่ก็ต้องมีความหลากหลายทางอารมณ์อยู่ในเล่มเพื่อความสนุก และกลัวตัวเองเขียนแล้วคนอ่านเข้าไม่ถึงอารมณ์ อ่านแล้วจะไม่อิน

แต่สำหรับคุณ B.pearl นั้นตรงข้ามกับนักเขียนทั้งสองคนอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากไม่ชอบเขียนฉากกุ๊กกิ๊กพระนาง เพราะส่วนตัวชอบแนวดราม่า หรือสื่ออารมณ์ แต่ถ้าสมมติเขียนอย่างนั้นทั้งเรื่องจะทำให้เนื้อเรื่องมันหดหู่เกินไป ฉะนั้นก็ต้องมีเรื่องกุ๊กกิ๊กๆ ของนางเอกกับพระเอกเข้ามาบ้าง เมื่อถามถึงกำลังใจจากคนรู้จักทั้งสามท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขินอายเกินกว่าที่จะให้คนรู้จักได้อ่าน ส่วนใหญ่ได้กำลังใจและคำติชมผลงานจากนักอ่านออนไลน์มากกว่า

ส่วนตัวคุณ B.pearl จะไม่ค่อยให้คนรู้จักอ่านผลงานของตัวเอง เป็นนิสัยเสียส่วนตัว จะรู้สึกเขินเวลามีคนอ่านว่าหรือวิจารณ์ว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เขียนเองก็เขินเอง และส่วนใหญ่จะลงนิยายในเว็บไซต์เด็กดี กำลังใจก็มาจากนักอ่านในเว็บหรือคนที่เข้ามาเขียนข้อความสั้นๆ ว่าติดตามอ่านอยู่นะ แค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้เราแล้ว คุณจีนี่จอมแก่น กล่าวว่า เวลาพูดกับใครไม่ค่อยมีใครฟัง เป็นคนพูดมาก พูดเร็วแล้วพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เลยไม่ค่อยมีใครฟัง เวลาเล่าคนอื่นก็จะตอบอือๆ เท่านั้น เลยเก็บเอาไว้คนเดียวดีกว่า ส่วนกำลังใจได้จากแม่กับพ่อ เพราะทั้งสองท่านเป็นผู้ฟังที่ดี มีเรื่องอะไรก็จะเล่าให้ฟังตลอด บางทีฟังบ้างไม่ฟังบ้างก็ไม่เป็นไร แต่เราอยากพูดก็เลยไม่สน ตอนกลางคืนเวลาเขียนนิยายก็จะมีเพื่อนคุย มีพี่หรือเพื่อนนักเขียนช่วยรับฟัง ช่วยให้คำปรึกษา และเพื่อนๆ ก็เป็นกำลังใจที่ดีให้กับเรา

คุณรัณ ศยา กล่าวว่า ส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กับนักเขียนทั้งสองคน ด้วยมีนิสัยเสียคือไม่ค่อยจะเปิดเผยตัวสักเท่าไหร่ เพราะว่าลักษณะของงานที่เกิดขึ้นเราสู้กับตัวเอง งานเขียนเสร็จเราก็ภูมิใจ เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่นักเขียนจะคุยกับตัวเองเยอะ ไม่ค่อยคุยกับคนอื่นเท่าไหร่ แต่ก่อนที่บ้านไม่อยากให้เขียนหนังสือ เพราะสำนวนนักเขียนไส้แห้งซึ่งด้วยตัวเองจบสถาปัตย์ แล้วก็ทำงานก่อนตั้งนาน นานมากกว่าจะรู้ตัวว่าอยากเขียนหนังสือ ตอนสมัยเรียนก็เขียนการ์ตูนซึ่งมันใช้พลังงานเยอะ แล้วก็ไม่ค่อยให้ผลตอบแทนมากเท่าไหร่ ที่บ้านก็เลยไม่ค่อยส่งเสริมด้านนี้ ส่วนเรื่องจ้าวจตุรทิศอยู่ที่บ้านก็ต้องแอบเขียน เพราะในคอมไม่มีใครรู้หรอกว่าเราทำอะไรไว้บ้าง ก็ต้องแอบเขียนเขียนจนกระทั่งได้รางวัลทางบ้านถึงจะยอม

และนักเขียนทั้งสามคนยังแนะอาชีพนักเขียนให้กับผู้ที่สนใจอยากจะเข้ามาสู่เส้นทางนี้ โดยคุณรัณ ศยา กล่าวว่าถ้าอยากจะเขียนอะไรขึ้นมา ก็ควรเขียนเลยไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องถามคนนู้นคนนี้ว่าดีไหม ตัวเราเองรู้ดีที่สุด สำหรับตัวเองก็ไม่มีทริกอะไร ตอนที่อยากเขียนก็เขียนเลย แล้วก็ไม่หยุดจนถึงบัดนี้

ส่วนคุณคุณ B.pearl นั้นก็มีนักอ่านถามมาหลายๆ คนเหมือนกันว่า อยากเขียนนิยายจะทำอย่างไร ก็รู้ว่าทุกคนมีแรงบันดาลใจที่จะเขียนอยู่แล้ว แต่จะเขียนให้จบเรื่องมันยากกว่าการเขียนนิยายสักเล่มหนึ่งอีกค่ะ เพราะว่าการเขียนนิยายให้จบเรื่องมันต้องใช้พลังมากกว่า เราจะเขียนนิยาย 120 หน้าขึ้นมาให้มันเป็นรูปเล่มขึ้นมามันยาก เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนตั้งใจอะไรแล้วก็ทำให้สุด ถึงแม้นิยายของเราจะยังไม่มีอะไร แต่อย่างน้อยเขียนให้จบก่อน นั่งอ่านทวนอีกครั้งเพื่อปรับปรุงแก้ไขก็ยังได้ อย่างน้อยเราก็มีผลงานออกมาเป็นรูปเล่มของเราเอง และแรงบันดาลใจของคุณ B.pearl เริ่มมาจากการเขียนฟิคแฮรี่ พอตเตอร์ เพราะชอบอ่านแฮรี่ พอตเตอร์มาก เป็นนิยายเรื่องแรกที่อ่าน หลังจากนั้นพออ่านปุ๊บ เราก็เริ่มจากเขียนแฟนฟิคขึ้นมาเป็นของตัวเอง พอเราเขียนแฟนฟิคเสร็จก็เริ่มมีกระแสตอบรับเยอะ แต่แฟนฟิคมันเป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของเรา หลังจากนั้นก็เริ่มคิดว่าถ้าเรามีนิยายเป็นของตัวเองแล้วจะเป็นยังไง ก็เป็นที่มาของการเขียนหนังสือ

คุณจีนี่จอมแก่น กล่าวว่า คนที่อยากเป็นนักเขียน อย่าแค่อยากค่ะ ต้องเริ่มลงมือทำ มัวแต่อยากยังไงก็ไม่ได้ ต้องลงมือทำ แล้วก็หัดอ่านเยอะๆ แต่ว่าอ่านแล้วไม่ควรนำของเขามาเป็นของเรา อ่านให้มากมันจะซึมซับให้เราได้คำศัพท์ แต่ว่าอย่าก๊อปปี้ของคนอื่นมา ส่วนตัวชอบอ่านนิยายฆาตกรรมมากค่ะ แฟนตาชี ฆาตกรรม ผีๆ แต่ว่าเขียนไม่ได้ ได้แต่อ่าน

สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด นักเขียนทั้งสามท่านได้ฝากผลงานที่ออกใหม่มานี้พร้อมกล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามผลงานเสมอมา ทั้งให้กำลังใจและคำแนะนำดีๆ โดยคุณรัณ ศยา กล่าวว่า ใครอยากจะลองอ่านนิยายไทยๆ แต่ว่าเป็นภาษาสากล ประยุกต์ความเป็นไทยแล้วคิดว่ามันไม่เชยนะ เพราะว่าตอนแรกที่ลงในพันทิป คนอ่านค่อนข้างมีอายุพอสมควร ก็กลัวเหมือนกันที่เราเอาวรรณคดีหรือเราเอาตัวละครไทยๆ มาเล่าใหม่กลัวจะโดนด่า สรุปแล้วก็ออกมาด้วยดี ก็ขอบคุณน้องๆ และเพื่อนๆ นักอ่านที่เข้ามาให้กำลังใจ เพราะว่าเราเป็นนักเขียน และเสียงของนักอ่านก็เป็นเสียงที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือว่าก้อนหินก็ตาม

ส่วนคุณ B.pearl ขอฝากนิยาย Cupid valentine ต้องมนต์รักนายคิวปิด สำหรับเรื่องนี้ ใครที่อยากอ่านนิยายแนวรักกุ๊กกิ๊ก แต่ไม่อยากให้เหมือนแนวตลาดทั่วไป ก็อยากแนะนำนิยายเรื่องนี้เพราะจะมีความดราม่า ฉากซึ้ง ฉากหวาน มีครบทุกอารมณ์ก็ขอฝากไว้ด้วยนะคะ ก็ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แสดงตัวและก็ไม่แสดงตัว คอยติดตามอ่านผลงานของ B.pearl อยู่ บางทีเราได้เห็นข้อความหรืออะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ตอบกลับมาให้ เราก็รู้สึกว่ามีคนตามอ่านงานของเราอยู่ แค่นี้ก็มีกำลังใจเขียนงานใหม่ให้นักอ่านแล้วค่ะ

คุณจีนี่จอมแก่น กล่าวว่า คนอ่านคือกำลังใจของเราอย่างหนึ่ง เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของเรา ถ้าไม่มีนักอ่านนักเขียนคงอยู่ไม่ได้ และบางทีนักอ่านก็จะเป็นคนคอยบอกเรา เพราะคนเขียนจะมองไม่เห็นจุดบอดในนิยายของตัวเอง แต่คนอ่านจะมองเห็น ก็อยากบอกว่าช่วยกันติดตามต่อไปเรื่อยๆ ช่วงนี้อากาศร้อนก็อ่านนิยายคลายเครียด แต่ว่าอ่านไปอาจจะเครียดกว่าเดิมหรือเปล่าเราไม่แน่ใจ แต่ว่าคลายเครียดได้จริงๆ ค่ะ

สำนักพิมพ์เรนโบว์ ขอขอบคุณนักเขียนทั้งสามคนมากนะคะที่คอยมาพูดคุยกับเรา ใครที่สนใจอยากจะสัมผัสความสนุกสนาน ตื่นเต้น โรแมนติก และแฟนตาซี สามารถติดตามผลงานของนักเขียนทั้งสามท่านได้ที่สำนักพิมพ์เรนโบว์ ในเครือประพันธ์สาส์น และใครที่อยากลงนิยายออนไลน์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านเหมือนนักเขียนทั้งสามท่าน ที่ได้ทั้งกำลังใจดีๆ และคำติชมจากเพื่อนๆ นักอ่าน สามารถลงนิยายได้ที่ www.praphansarn.com/rainbow

และสุดท้ายของรายการนี้จะมีกิจกรรมดีๆ จากใจนักเขียนของพี่หนิง จิตติมา กุลประเสริฐรัตน์ ผลงาน “ครอบครัวรักมหัศจรรย์” ซึ่งจะทำสิ่งๆ ดีมอบให้กับสังคม โดยนักเขียนมีจุดประสงค์ที่จะนำรายได้ทั้งหมดจากการจัดจำหน่ายหนังสือเล่มนี้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ มอบให้กับชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติก จังหวัดสุราษฎร์ธานี นำไปจัดกิจกรรมดีๆ เพื่อเด็กพิเศษและอบรมความรู้, ฝึกเวิร์กชอปให้กับผู้ปกครอง และหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความน่าประทับใจของความรัก ความผูกพัน ของแม่และลูกจากเด็กพิเศษกลายเป็นคนพิเศษได้ค่ะ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับพ่อแม่ที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษไม่ว่าจะเป็นเด็กสมาธิสั้น เด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาตั้งแต่เกิดจนประสบความสำเร็จ และคุณปริญดา ชูณรงค์ ตัวแทนจากชมรมผู้ปกครองบุคคลออทิสติก จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้รับมอบเงินสมทบทุนจำนวน 55,000 บาท โดยที่คุณปริญดา ชูณรงค์ ได้กล่าวขอกราบขอบพระคุณท่านผู้มีน้ำใจ ทั้งสำนักพิมพ์ ทั้งพี่หนิงที่ได้มีส่วนร่วมกันสนับสนุนเงินส่วนหนึ่งให้ทำกิจกรรมของชมรม เพื่อช่วยเด็กพิเศษเหล่านี้ ให้มีพัฒนาการที่ก้าวหน้า สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเต็มที่ด้วยตัวเองต่อไป