ภาวะผลิบาน: ผลิบานกำเนิดตน เริ่มต้นเติบโต "กินแสงเดือน" : บทวิจารณ์ โดย กอบชัย คงหนู

ภาวะผลิบาน: ผลิบานกำเนิดตน เริ่มต้นเติบโต

        บทกวี “ภาวะผลิบาน” ของ กวีนิรนาม เป็นงานเขียนที่สะท้อนถึงกระบวนการเติบโตและความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของมนุษย์ โดยเปรียบเสมือนการผลิบานของดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายสากลเกี่ยวกับความงอกงาม ความงาม และความเปราะบาง ในบทกวีนี้มีการใช้ภาษาที่เรียบง่าย แต่มีการใช้ภาพพจน์เพื่อสร้างอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดให้กับผู้อ่าน

       ผู้เขียนมีความต้องการที่จะสะท้อนภาพภาวะการผลิบานของดอกไม้ ที่ผ่านการสะสมละอองเกสรมาอย่างเต็มที่ คือ พร้อมที่จะผลิบานความงาม เปรียบเสมือนกับการเริ่มต้นการเขียน ที่ผ่านประสบการณ์การอ่านมาอย่างเต็มที่ คือ พร้อมที่จะสร้างสรรค์คำให้เป็นความ ให้มีอารมณ์ความรู้สึก ให้มีรสชาติ หวาน หรือฝาดเฝื่อนดั่งเกสรดอกไม้ มีการสร้างบรรยากาศและการเคลื่อนไหว ให้เกิดเป็นภาพจินตนาการที่ให้ทั้งความรู้สึกและอารมณ์ลื่นไหลไปกับบทกวี ทาให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกอยากที่จะเริ่มต้นเขียนความคิดเขียนความรู้สึก หรืออยากเริ่มต้นทาอะไรสักอย่างหนึ่ง

      การใช้สัญลักษณ์ในบทกวีนี้เต็มไปด้วยการใช้อุปมา เพื่อสื่อถึงกระบวนการสร้างสรรค์และการเติบโตทางความคิดของผู้เขียน โดยเฉพาะการเปรียบเทียบกับ “ดอกไม้ใกล้จะบาน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงกระบวนการที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ใกล้พร้อมที่จะเปิดเผยออกมาให้เห็นอย่างเต็มที่

       เหมือนดอกไม้ใกล้ใกล้จะผลิบาน

        มวลเกสรชุ่มน้ำหวานฉ่ำเต็มที่

        ในสองวรรคดังกล่าว “ดอกไม้ใกล้ใกล้จะผลิบาน” เปรียบเหมือนกระบวนการคิดและการเตรียมตัของผู้เขียนที่ใกล้จะสาเร็จ การใช้คำว่า “มวลเกสรชุ่มน้ำหวาน” เปรียบได้กับความคิดและความรู้สึกที่สะสมจนเต็มที่แล้ว ซึ่งจะมีผลให้การเขียนเกิดขึ้นจากกระบวนการสะสมนี้ ความหมายในที่นี้จึงสะท้อนถึงความพร้อมและกระบวนการเจริญเติบโตทางความคิดของผู้เขียนที่กาลังจะเขียนเพื่อเผยแพร่ผลงาน การใช้ “ดอกไม้” และ “เกสร” จึงไม่ใช่แค่การสร้างภาพพจน์ที่สวยงาม แต่ยังเป็นการสื่อถึงการเติบโตของความคิดและการเตรียมพร้อม ของผู้เขียนก่อนที่จะนำเสนอต่อสาธารณะ

       บทกวีนี้เต็มไปด้วยการสร้างบรรยากาศและภาพเคลื่อนไหว ที่ทำให้ผู้อ่านสามารถจินตนาการถึงกระบวนการสร้างสรรค์ได้อย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวของดอกไม้ที่เติบโตและพัฒนาในทุกทิศทางแสดงถึงความพลิ้วไหวและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในการคิดและการเขียน

      กลีบขยายก้านขยับรับวารี

      ใบแบ่งใบไหวคลี่ สะท้านสะเทือน

      ในสองวรรคนี้ “กลีบขยาย” และ “ก้านขยับรับวารี” แสดงถึงการขยายตัวและการตอบรับต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับการคิดที่ค่อย ๆ ขยายออกไปจากความคิดเดิม และการตอบสนองต่อแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่ เข้ามา “ใบแบ่งใบไหวคลี่” เป็นการอธิบายถึงการเปิดเผยและการแสดงออกจากภายใน ซึ่งสะท้อนถึงการที่ผู้เขียนต้องแสดงความคิดออกมาให้ผู้อื่นได้เห็น ภาพพจน์เหล่านี้สร้างความรู้สึกถึงกระบวนการที่มีชีวิตชีวาและมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทั้งจากภายในและภายนอก ซึ่งบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งภายในจิตใจของผู้เขียนและในโลกภายนอกที่ตอบสนองต่อความคิดของผู้เขียนด้วย

      กระบวนการเขียนและการเตรียมตัวในเนื้อหาของบทกวีนี้ไม่ได้ถูกนาเสนอเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เป็นกระบวนการที่ต้องมีการเตรียมตัวและรอคอยอย่างพิถีพิถัน ก่อนที่จะเริ่มเผยแพร่ผลงานออกไปสู่สาธารณะ การใช้คำว่า “เตรียม” แสดงถึงความตั้งใจและการคานึงถึงขั้นตอนในการสร้างสรรค์ผลงาน

      เตรียมต้นอิ่มก้านใบให้ฟ้ากว้าง

      เตรียมกลั่นแสงแต่งสร้างกลางลมเลื่อน”

       ในสองวรรคนี้จะเห็นได้เลยว่า “เตรียมต้นอิ่มก้านใบ” สื่อถึงการเตรียมความคิดให้สมบูรณ์ พร้อมที่จะขยายออกไปและเผยแพร่ในที่กว้างใหญ่ “เตรียมกลั่นแสงแต่งสร้าง” บ่งบอกถึงการคิดและการกลั่นกรองความคิดให้เกิดเป็นผลงานที่มีความสวยงามและมีคุณค่า การที่บอกว่าให้เตรียมก่อน แสดงถึงความตั้งใจและความละเอียดรอบคอบของผู้เขียนในการสร้างสรรค์ผู้เขียนมีความเข้าใจในกระบวนการกระทำเพื่อที่จะให้บรรลุผลสำเร็จ เข้าใจว่าต้องเปิดรับสิ่งแวดล้อม เปิดรับความคิดมุมมองใหม่ ๆ ทั้งยังเข้าใจดีว่าการเปิดรับสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น จักต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมรับกับภาวะต่าง ๆ เหล่านั้นด้วย และผู้เขียนทราบดีว่าการฝึกฝน การเริ่มต้นค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เป็นการสร้างที่จะรวมเป็นประสบการณ์สู่ความสำเร็จ สู่เป้าหมาย และผู้เขียนได้ให้คำตอบอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายของการเริ่มต้นการเขียนนั้น ไม่ได้พูดถึงรางวัล หรือคำชื่นชมจากใคร ๆ แต่คือการเขียนเองนั่นแหละ การได้ลิ้มรสบทประพันธ์นั่นแหละ คือความอิ่มเอมใจคือชีวิตคือความสุข เพราะเป้าหมายสูงสุดหรือความสำเร็จของการเขียนคือการที่ได้เขียน และเช่นเดียวกันเป้าหมายสูงสุดหรือความสำเร็จของดอกไม้คือการได้ผลิบานอย่างงดงาม ไม่ใช่การถูกปักในแจกัน

       บทกวี “ภาวะผลิบาน” ของกวีนิรนาม เป็นการใช้สัญลักษณ์ และอุปมา อย่างมีศิลปะในการถ่ายทอดกระบวนการสร้างสรรค์งานเขียนผ่านการเปรียบเทียบกับการผลิบานของดอกไม้ การเคลื่อนไหวของดอกไม้ในทุกทิศทาง สะท้อนถึงความเติบโตและการเปิดเผยของความคิดและผลงานที่มีความหมายโดยบทกวีนี้ไม่ได้แค่สื่อถึงการสร้างงานเขียนเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเตรียมตัว การเปิดเผย และการสร้างความสัมพันธ์ในตนเอง นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการที่งานเขียนเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความหมายในโลกภายนอก ที่เริ่มจากการเกิดกำเนิดเขียน เติบโตและเปลี่ยนแปลง.

 

ภาวะผลิบาน: ผลิบานกำเนิดตน เริ่มต้นเติบโต "กินแสงเดือน"
บทวิจารณ์ โดย กอบชัย คงหนู โครงการ อ่าน เขียน เรียนรู้ สู่ งานวิจารณ์ ปีที่ 10

Writer

The Reader by Praphansarn