คุยนอกรอบ ผศ.ดร.จิรยุทธ์ สินธุพันธุ์ ถึงนิยายภาพ Sultana’s Dream : สืบทอดมรดกแห่งเฟมินิสต์และความหลากหลายทางวัฒนธรรม

คุยนอกรอบ ผศ.ดร.จิรยุทธ์ สินธุพันธุ์ ถึงนิยายภาพ Sultana’s Dream

     ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิรยุทธ์ สินธุพันธุ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังดำเนินโครงการแปลงวรรณกรรม Sultana’s Dream ความฝันของสุลตาน่า ของ โรเกญา สาขาวัต โฮเซนหรือที่รู้จักกันในนาม เบกัม โรเกญา ให้กลายเป็นนิยายภาพสำหรับผู้ชมยุคใหม่

     Sultana’s Dream ความฝันของสุลตาน่า เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1905 เป็นเรื่องราวที่จินตนาการถึงยูโทเปียที่ผู้หญิงเป็นผู้นำสังคม ในขณะที่ผู้ชายถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่ภายในบ้าน ซึ่งถือเป็นการท้าทายขนบธรรมเนียมทางเพศในยุคนั้นอย่างรุนแรง

 

 

      ผู้เขียน ความฝันของสุลตาน่า เบกัม โรเกญา (ค.ศ. 1880 – ค.ศ. 1932) เป็นนักคิด นักเขียน นักการศึกษา และ นักเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญคนหนึ่งในเอเชียใต้ เธอได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดแบบสตรีนิยมและขบวนการปลดปล่อยสตรีในเอเชียใต้ เบกัม โรเกญาเกิดในครอบครัวเจ้าที่ดินในเขตจังหวัดรังปุระ มณฑลเบงกอล บริติชอินเดีย (ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศบังกลาเทศ) ครอบครัวของเธอนั้นเป็นมุสลิมอนุรักษ์นิยมที่เคร่งครัด เธอจึงเติบโตขึ้นมาภายในเขตรั้วกำแพงของบริเวณบ้านอันพื้นที่เฉพาะสำหรับผู้หญิงที่เรียกว่า เชนานา

     แม้ว่าบิดาของเบกัม โรเกญาจะสนับสนุนให้บุตรสาวของตนเรียนหนังสือ แต่การศึกษาของเบกัม โรเกญาและพี่สาวของเธอก็จะจำกัดอยู่แค่เพียงการเรียนภาษาอาหรับเพื่อการอ่านพระคัมภีร์ และภาษาเปอร์เชียเพื่อใช้สื่อสารในสังคมชั้นสูงเท่านั้น พี่ชายคนโตของพวกเธอที่ชื่อว่า อิบรอฮีม จึงต้องแอบสอนภาษาอังกฤษและภาษาบังกลาให้กับน้องสาวทั้งสองคนด้วยตนเองจนพวกเธอมีความรู้แตกฉานในภาษาเหล่านั้น เช่นเดียวกับตัวเบกัม โรเกญา พี่สาวคนโตของของเธอที่ชื่อว่า กะริมุนฺเนสา ขานม เจาธุรานี ต่อมาก็ได้กลายมาเป็นกวีสตรีที่มีชื่อเสียงและนักเคลื่อนไหวทางสังคมคนสำคัญของเบงกอล โดยกะริมุนฺเนสานั้นได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนสตรีคนแรกๆ ที่ยึดภาษาบังกลาเป็นภาษาหลักในงานเขียน ร่วมทั้งเป็นผู้นำคนสำคัญของการสร้างความปรองดองระหว่างชาวฮินดูและมุสลิม

 

cr photo : feminisminindia.com

     เบกัม โรเกญาแต่งงานเมื่ออายุได้สิบแปดปีกับ ฃ่าน บาฮาดุรฺ สาขาวัต โฮเซน สามีของเธอนั้นเป็นผู้พิพากษาและมีหัวคิดโอนเอียงไปทางเสรีนิยม เขาจึงได้สนับสนุนให้เธอเรียนภาษาอังกฤษและภาษาบังกลาต่อ รวมทั้งเป็นผู้ที่คะยั้นคะยอให้เบกัม โรเกญาจับงานเขียนและตีพิมพ์ผลงานของเธอสู่สาธารณะ ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ก้าวหน้ามากในสมัยนั้น

     งานเขียนชิ้นแรกของเบกัม โรเกญาที่ออกสู่สายตาผู้อ่าน เป็นความเรียงแนวสตรีนิยมในภาษาบังกลาที่ชื่อว่า ปิปาสา (ค.ศ. 1902) หลังจากนั้นเธอก็ได้ตีพิมพ์ หนังสือเป็นภาษาบังกลาออกมาอีกหนึ่งเล่มในปี ค.ศ. 1905 และในปีเดียวกันนั้นเองเธอก็ได้ตีพิมพ์ผลงานที่เขียนขึ้นเป็นภาษาอังกฤษในวารสารภาษาอังกฤษที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มัทราส ผลงานชิ้นดังกล่าวก็คือ Sultana’s Dream หรือ ความฝันของสุลตาน่า

 

 

     อาจารย์จิรยุทธ์ชี้ให้เห็นว่าแนวคิดของโรเกยายังคงล้ำสมัยอย่างยิ่ง “เธอได้ทิ้งมรดกทางความคิดเฟมินิสต์ไว้อย่างมหาศาล และยังเป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนขบวนการสิทธิสตรีในอินเดียและบังกลาเทศ”

     จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากความหลงใหลส่วนตัวของอาจารย์จิรยุทธ์ที่มีต่อวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และขบวนการสังคมของภูมิภาคเบงกอล “ผมสนใจภูมิภาคเบงกอลและโดยเฉพาะขบวนการสตรี” อาจารย์อธิบาย ความหลงใหลนี้นำพาเขาไปสู่การร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทย ซึ่งให้การสนับสนุนโครงการนี้ “ท่านทูตให้ความสนใจในโครงการนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากบังกลาเทศมีการเฉลิมฉลองวันเบกัม โรเกยาในวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี”

     การดัดแปลง Sultana’s Dream ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผลงานสำคัญชิ้นนี้เข้าถึงผู้ชมในยุคปัจจุบันได้ง่ายขึ้น “เพราะผมรักนิยายภาพ ผมจึงตัดสินใจแปลงผลงานนี้เป็นนิยายภาพ เพื่อให้ผู้พูดภาษาไทยและอังกฤษสามารถเข้าถึงเรื่องราวสำคัญนี้ได้ง่ายขึ้น” เพื่อทำให้โครงการนี้เป็นจริง อาจารย์จิรยุทธ์ได้ร่วมมือกับ Nicolas Verstappen นักวิชาการชาวเบลเยียมและผู้เขียน The Art of Thai Comics: A Century of Strips and Stripes นิโคลัส ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของอาจารย์จิรยุทธ์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญด้านนิยายภาพ ได้แนะนำ 'ปิง-ศศินันท์ ศิริมหัทธโน' อดีตลูกศิษย์ของเขา ซึ่งเป็นนักเขียนนิยายภาพชื่อดังชาวไทย “เราดูหลายสไตล์และสุดท้ายก็เลือกงานของศศินันท์ เพราะมันเข้ากับวิสัยทัศน์ของโรเกยาได้อย่างลงตัว” อาจารย์จิรยุทธ์เล่า

      “เราใช้เนื้อหาเดิม 100% เพราะประเด็นในเรื่องยังคงเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน เราทุกคนยังคงฝันถึงรถบินได้ บ้านที่ใช้พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งให้กลายเป็นเขตเมืองที่เขียวขจี”

       ด้วยเนื้อหาที่สำรวจประเด็นความเท่าเทียมและนวัตกรรมอย่างไม่เสื่อมคลาย Sultana’s Dream ยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับทุกยุคสมัย นิยายภาพเล่มนี้มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 120 ปีของการตีพิมพ์ครั้งแรก และใกล้เคียงกับวันภาษาแม่สากลของยูเนสโกอีกด้วย

 

 

Writer

Pairat Temphairojana

นักเขียนผู้รักการสะสมงานศิลปะและการจิบกาแฟ