มีใครดู Cigarette Girl หรือยัง ตอนนี้เขาทำเป็นหนังออนแอร์ใน Netflix กระแสตอบรับค่อนข้างดีเลย ใคร ๆ ก็ชมว่านางเอกสวยมาก คนที่ยังไม่ได้ดู ก็แนะนำให้ไปดูกันก่อน เพราะที่จะเล่ามีการเปิดเผยเนื้อหาบางตอน ส่วนที่ใครดูแล้ว เราจะมาคุยกันถึงภาคนิยายต้นฉบับที่ Netflix ไม่ได้พูดถึง
ในนิยายต้นฉบับ มีรายละเอียดที่เรียกได้ว่าเยอะมาก ถ้าดูใน Netflix เราจะเห็นว่าหลังจากเริ่มเรื่อง ฉากจะย้อนเวลาไปยุคก่อน และพูดถึงเจงยาเป็นตัวหลัก แต่ในหนังสือ ฉากย้อนเวลาจะเริ่มตั้งแต่ยุคของพ่อกับแม่เจงยายังหนุ่มสาวเลย เจงยายังไม่ทันเป็นวุ้นด้วยซ้ำ ในหนังเราจะเห็นคู่ปรับของพ่อเจงยา อันที่จริงคนนี้มีบทเยอะกว่าที่เราเห็นในซีรีส์มาก ในนิยายเขาเคยเป็นเพื่อนของพ่อเจงยา ต่อมาก็แตกกันเพราะแย่งจีบผู้หญิงคนเดียวกัน ก็แม่ของเจงยานั่นแหละ แล้วสองคนนี้ก็ผูกอาฆาตกัน จากคู่แข่งความรักกลายเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ ในหนังเราถึงได้เห็นว่าทำไมพ่อตาของซูรายาถึงร้ายกาจขนาดนั้น เพราะเค้ามีความแค้นฝังลึกกันมายาวนาน ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ตายไปก็ว่าได้
ถ้าถามว่านิยายต่างกับซีรีส์ตรงไหน ก็ขอบอกว่าทุกตรง เพราะถ้าซีรีส์ทำตามนิยาย แค่ 5 ตอน 5 ชั่วโมง ไม่มีทางจบเด็ดขาด ตรงนี้ต้องชมผู้กำกับที่เลือกนำเสนอประเด็นที่ทำให้คนดูติดตามได้ง่ายภายในเวลาที่จำกัด เพราะถ้าทำให้เหมือนนิยาย ต้องใช้เวลาลงรายละเอียด เจาะลึกเกร็ดประวัติศาสตร์อีกหลายประเด็น แล้วเวลาฉายก็คงยืดยาว
ตอนเริ่มเรื่อง เราจะเห็นเลบาส น้องชายคนสุดท้องออกตามหาเบาะแสเจงยา จนไปเจอคุณหมอที่เป็นหลานสาวของเจงยา แล้วหนุ่มสาวสองคนในยุคปัจจุบันช่วยกันสืบหาเจงยา มันเป็นงั้นใช่มะ แต่ในนิยาย คนที่ออกเดินทางไปกับเลบาสคือพี่ชายสองคน ในหนังเราจะเห็นสามพี่น้องโล้งเล้ง ๆ ใส่กัน แต่ในนิยายเนี่ย แทบจะตีกันตาย ลองนึกภาพสามพี่น้องนั่งรถคันเดียวกัน จากจากาตาร์ไปคูดัสไปเอ็มทาวน์ พี่ชายคนโตคอยทะเลาะกับน้องคนเล็กตลอดเวลา แล้วพี่คนกลางก็คอยห้ามจนเหนื่อย เป็นอะไรที่หนวกหูวุ่นวาย แต่ก็ทำให้สามพี่น้องค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกันระหว่างเดินทาง แล้วเราก็จะเห็นสาเหตุว่าทำไมพี่คนโตถึงคอยหาเรื่องน้องคนเล็กตลอดเวลา
แล้วกว่าจะไปเจอหลานสาวของเจงยา ก็ปาเข้าไปท้ายเล่มแล้ว น้องแทบไม่มีบทเลย
แล้วจุดสำคัญของเรื่อง คือ รักแรกพบของเจงยาและซูรายามันเรียบง่ายและงดงามมาก เข้าใจว่าถ้าหนังทำแบบนิยายต้นฉบับ คนดูอาจจะเบื่อ ไม่ตื่นเต้นตูมตามแบบในซีรีส์ แต่นิยายอธิบายภาพของฉากนี้ออกมาน่ารัก เพียงตามองตาก็ปิ๊งกัน แบบนั้นเลย แล้วจุดใหญ่ของเรื่องที่ต่างจากซีรีส์มาก ๆ คือเจงยาเป็นคนจัดแจงกิจการของพ่อทั้งหมดอยู่ก่อนแล้ว คือเค้าแสดงความอัจฉริยะด้านนี้ให้พ่อเห็นแต่เด็ก ก็เลยได้รับความไว้วางใจ ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเหมือนในหนัง เข้าใจว่าผู้กำกับคงอยากสื่อความทุ่มเทของเจงยาให้คนดูเข้าใจ ก็เลยต้องปรับบทเป็นอย่างที่เราเห็น ซึ่งก็เข้าใจได้
อยากให้ลองอ่านภาคนิยายกันดูนะ มันสนุกมาก อ่านแล้วจะเห็นภาพควันบุหรี่ลอยคลุ้งเหมือนในหนังเลย สูบจนควันโขมง และในนิยาย นอกจากประเด็นความรักของหนุ่มสาวแล้ว มันก็จะมีเรื่องการแข่งขันของธรุกิจยาสูบระดับท้องถิ่น แข่งกันเดือดมาก ใครแพ้ก็ร่วงไป ใครชนะก็อยู่รอดจนเป็นใหญ่ รวมไปถึงเกร็ดประวัติศาสตร์การสร้างชาติของอินโดนีเซียที่ไหลต่อเนื่องเป็นไทม์ไลน์ ตั้งแต่ยุคที่ดัตช์เป็นเจ้าอาณานิคมปกครองอินโดนีเซียในช่วงที่พ่อเจงยาเป็นหนุ่ม กระทั่งถึงตอนที่ญี่ปุ่นบุกเข้ามาตอนมหาสงครามเอเชียบูรพา จนถึงช่วงประกาศเอกราช ได้ประธานาธิบดีคนแรกคือซูการ์โน และยังมีช่วงสำคัญที่ทำให้ซูรายาต้องพลัดพรากจากเจงยา ซึ่งก็คือนโยบายกวาดล้างคอมมิวนิสต์นั่นเอง
โดยสรุปแล้วเนื้อหาในนิยายจะเข้มกว่าหนังก็ตรงที่ประเด็นทุกประเด็นมันร้อยถึงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก ความอาฆาต เรื่องยาสูบ การแข่งขันทางธุรกิจ และเกร็ดประวัติศาสตร์ในแต่ละยุคของอินโดนีเซีย คนเขียนเอาทุกอย่างมาเกี่ยวพันกันได้อย่างลงตัวมาก เพราะอย่างนี้ Netflix ถึงได้เอามาทำเป็นบทหนังอย่างที่เห็น
ส่วนใครที่อ่านนิยายจบแล้วก็อย่าอินมากจนไปหาบุหรี่มาสูบล่ะ บุหรี่ก่อให้เกิดมะเร็งเด้อ
