นึกถึงละครญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่อยากจะแนะนำค่ะ พอดูแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึก “อยากอ่านหนังสือ” ขึ้นมาหลังจากที่ดูจบ ละครที่ว่านี้ก็คือเรื่อง “Biblia Koshodou no Jiken Techou”

พอพูดถึงเรื่องการอ่าน ทำให้ ChaMaNoW นึกถึงละครญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่อยากจะแนะนำค่ะ พอดูแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึก “อยากอ่านหนังสือ” ขึ้นมาหลังจากที่ดูจบ ดูเหมือนว่า “ละคร” กับ “การอ่าน” จะไม่เกี่ยวข้องกันเท่าไรใช่ไหมล่ะคะ แต่ละครเรื่องนี้กลับนำหนังสือมาถ่ายทอดผ่านละครให้มีความน่าสนใจ ญี่ปุ่นอาจไม่ได้ตั้งใจใช้ละครเรื่องนี้ เพื่อส่งเสริมการอ่านของญี่ปุ่นโดยตรง แต่ถ้าได้ดูแล้ว รับรองเลยค่ะว่า จะทำให้เราอยากอ่านหนังสือขึ้นมา และรักหนังสือกันมากขึ้น ละครที่ว่านี้ก็คือเรื่อง “Biblia Koshodou no Jiken Techou” ค่ะ

“Biblia Koshodou no Jiken Techou” สร้างมาจากนวนิยาย Light Novel ในชื่อเดียวกัน ประพันธ์โดย Mikami En มียอดขายไม่น้อยกว่าสามล้านหนึ่งแสนเล่ม

“Biblia Koshodou no Jiken Techou” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชื่อว่า Shinokawa Shioriko (รับบทโดย Gouriki Ayame) เธอเป็นเจ้าของร้านขายหนังสือมือสอง ทีมีชื่อร้านว่า “Biblia Koshodou” อยู่ในย่าน Kamakura Shioriko เธอเป็นคนที่มีความรู้เรื่องหนังสือเก่าโบราณอย่างดีเยี่ยม ซึ่งความสามารถของเธอในส่วนนี้ ทำให้เธอสามารถช่วยคลี่คลายคดีปริศนาและความลับต่างๆ ที่มาจากหนังสือเก่า พร้อมกับแขกผู้มาเยือนที่มากหน้าหลายตา

อยู่มาวันหนึ่ง Shinokawa Shioriko ได้พบกับ Goura Daisuke (รับบทโดย AKIRA แห่งวง EXILE) ที่เอาหนังสือของคุณยายที่เพิ่งเสียชีวิตนั้นมาขายต่อ ซึ่งหนึ่งในหนังสือกองนั้น ได้ซ่อนปริศนาบางอย่างเกี่ยวกับครอบครับของ Daisuke และเรื่องราวต่างๆ ก็ได้เริ่มขึ้นจากหนังสือปริศนาเล่มนั้น ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้ก็คือ เป็นเรื่องที่หยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือญี่ปุ่นขึ้นมาถ่ายทอด โดยผสมผสานความเป็นสืบสวนสอบสวน ความลึกลับเข้าไปเพื่อให้น่าติดตาม ความพิเศษของเรื่องนี้จึงอยู่ที่การใช้ “หนังสือ” เป็นตัวเดินเรื่องราวสืบสวนสอบสวนภายในเรื่อง ความลับ หรือปริศนาต่างๆ ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับหนังสือแต่ละเล่ม เป็นการผูกเรื่องปริศนากับหนังสือเล่มโปรดของแต่ละคน

ใครจะเชื่อว่าในหนังสือแต่ละเล่มล้วนแต่ซ่อนบางสิ่งบางอย่างไว้อยู่ มากกว่า เนื้อหา สาระที่อยู่ในนั้น เคยสงสัยไหมว่า การที่ใครสักคนให้หนังสือเรานั้น เขาให้เพราะอะไร ทำไมหนังสือที่ไม่มีค่ามากมาย กลับถูกขโมยไป หนังสือแบบไหนที่ใครต่อใครต่างจับตามอง และคอยแย่งชิง หนังสือสามารถใช้เป็นจดหมายรักที่ส่งต่อถึงกันได้ด้วยหรือ เพราะเหตุใดคนที่รักหนังสือสุดหัวใจ กลับต้องขายหนังสือที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับคนอื่น และความลับบางอย่างของหนังสือที่ซ่อนอยู่ในนั้นจะสามารถเป็นอะไรได้บ้าง ซึ่งคำตอบทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดอยู่ในละครเรื่องนี้ค่ะ

สำหรับตัวละคร Shinokawa Shioriko นั้นเป็นคนที่รักหนังสือมือสอง หรือหนังสือเก่าเป็นอย่างมาก และรักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าหนังสือเรื่องอะไร เธอจะรู้รายละเอียดทั้งหมด ในขณะที่ Goura Daisuke หนุ่มมาดเด็กเนิร์ด สวมแว่นตาหนาเต่อะ แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับเป็นคนที่ “ไม่สามารถอ่านหนังสือได้” ไม่ ใช่ ว่าไม่ชอบอ่าน แต่เป็นเพราะว่า ถ้าอ่านหนังสือแล้วจะรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ปวดหัวขึ้นมาทันที เมื่อ Shinokawa เห็นเช่นนั้นก็แสดงความรู้สึกผิดหวังออกมาผ่านคำพูดที่ว่า

และก็ดูเหมือนว่า การไม่อ่านหนังสือเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์จริงๆ ค่ะ ทุกปริศนาที่ปรากฏในเรื่องล้วนแต่มีจุดเริ่มต้นมาจากหนังสือ การที่จะไขปริศนาเหล่านั้นได้ก็มีหนทางเดียวก็คือ “ต้องอ่านหนังสือเล่มนั้น” สำหรับ Daisuke ที่อ่านหนังสือไม่ได้ ก็จะไม่สามารถคลี่คลายปริศนาอะไรได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงเรื่องราวที่แสนประทับใจที่ถ่ายทอดอยู่ในหนังสือนั้น Daisuke ก็ไม่มีทางสามารถรับรู้ได้ ความน่าเสียดายในตรงนี้นี่เอง ทำให้ Daisuke เริ่มสนใจในเรื่องราวของหนังสือ เริ่มแรกเขามักให้ Shinokawa เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง จนนำไปสู่การตัดสินใจเริ่มอ่านหนังสือด้วยตนเอง นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นของ “Biblia Koshodou no Jiken Techou” อีกอย่างหนึ่งก็คือฉากและบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกถึงความเก่าโบราณ แต่ไม่ล้าสมัย ถึงจะให้บรรยายกาศที่ดูลึกลับ แต่ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น จากสีของภาพที่ออกโทนอบอุ่น รวมไปถึงนักแสดงประกอบคนอื่นๆ ที่มาเพิ่มสีสัน เช่น

Shida Hajime (รับบทโดย Takahashi Katsumi) พ่อค้าคนกลางที่ตระเวนรับซื้อหนังสือเก่านอกสถานที่ เป็นคนที่สนิทสนมกับพ่อของ Shinokawa และดูแลเธอเรื่อยมา เมื่อแม่ของเธอได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

Fujinami Akio (รับบทโดย Suzuki Kosuke) เจ้าของร้านกาแฟ ที่จะมาเรียกเสียงหัวเราะในเรื่องนี้ และเป็นผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือในการสืบคดีต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับร้าน Bliablia แต่…บางทีก็ดูเหมือนว่า สรุปแล้วจะเข้ามาช่วยหรือจะเข้ามาป่วนกันแน่นะ…. ละครเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความสนุกตรงเรื่องราวสืบสวนสอบสวนที่มีต้นตอมา จากหนังสือให้เราได้ ร่วมกันค้นหาตอบเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ในเรื่องนี้ยังแฝงไปด้วยความรู้เกี่ยวกับหนังสือ มีเรื่องของประวัติ รวมถึงเกร็ดน่ารู้ของหนังสือญี่ปุ่นสอดแทรกเข้ามาด้วย เหมือนได้ดูการ Review หนังสือที่น่าสนใจไปในตัวค่ะ ซึ่งหนังสือที่ปรากฏในเรื่องนี้เป็นหนังสือที่ถูกตีพิมพ์จริงในญี่ปุ่น เช่น

それから(Sorekara) ของ Natsume Souseki นวนิยายเกี่ยวกับเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่

A Clockwork Orange ของ Anthony Burgess นวนิยายด้านมืดของมนุษย์ หนังสือต้องห้ามสำหรับเด็กและเยาวชน ที่เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมาแล้ว

晩年 (Bannen) ของ Dazai Osamu เล่ม นี้มีความพิเศษตรงที่เป็นหนังสือที่ไม่ได้เจียนขอบกระดาษ ทำให้คนอ่านไม่สามารถเปิดอ่านได้ คนอ่านต้องใช้มีดกรีดเอาเอง อาจดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่ข้อดีคือ มันทำให้รู้ว่าเล่มไหนคือเล่มใหม่ที่ยังไม่ถูกอ่าน กับเล่มไหนคือเล่มเก่าที่ถูกอ่านแล้ว และถ้าสมมติว่ากระดาษยังไม่ได้ถูกกรีด แต่กลับถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานจนกลายเป็นหนังสือเก่า ก็จะยิ่งมีมูลค่ามาก เพราะมันหมายถึงว่าเป็นหนังสือฉบับ Original ของแท้ ที่ยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ดูราคาสิคะ สูงลิ่วเลย ตั้ง 3,500,000 เยน

รวมไปถึงผลงานของนักเขียนชื่อดังที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องรู้จัก Fujiko Fujio นักวาดการ์ตูน เรื่องโดราเอมอน แต่คราวนี้เขาไม่ได้มากับผลงานอันเลืองชื่อเล่มนั้นหรอกนะคะ แต่เขามากับเรื่องนี้ค่ะ

และนี่ก็เป็นละครญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ หนังสือได้ เป็นอย่างดี เมื่อดูแล้วรู้สึกว่าอยากจะอ่านหนังสือขึ้นมาเลยค่ะ บางทีการทำละครเนื้อหาแนวนี้ ส่วนตัวคิดว่า ก็ส่งผลต่อการอ่านได้เช่นกัน ท่ามกลางยุคสมัยที่ผู้คนเลือกที่จะดูมากกว่าอ่าน การนำเสนอเรื่องราวของหนังสือผ่านทางสื่อโทรทัศน์ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ พอได้เห็นหนังสือเยอะแยะแบบนี้ ก็อยากจะลองหันไปหยิบไปจับหนังสือขึ้นมาอ่านดูสักเล่ม อยากจะลองอ่านดูอีกทีว่า จริงๆ แล้วหนังสือแต่ละเล่มนั้นมีอะไรที่หลบซ่อนไว้อยู่

บางทีเสน่ห์ของหนังสือแต่ละเล่มอาจอยู่ที่ “หนังสือไม่ใช่สิ่งที่มีแค่เนื้อเรื่องที่อยู่ด้านในเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นสิ่งที่ได้บันทึกเรื่องราวของตัวมันเองไว้ด้วย” ภายในหนังสือแต่ละเล่มมีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่รอให้เราอ่าน และรวมไปถึงความรู้สึก ความทรงจำ ความเพลิดเพลิน และเรื่องราวของเจ้าของหนังสือแต่ละเล่มด้วย สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในหนังสือนั้นเราจะไม่สามารถรู้ได้เลย ถ้าเราไม่เคยได้เปิดอ่านมัน

เรื่องโดย : ChaMaNow www.marumura.com