ร้านหนังสือไทยศิลป์ : "ความซื่อตรง ยุติธรรมและบริการที่ดีต่อลูกค้าคือหัวใจแห่งความสำเร็จ"

ร้านหนังสือไทยศิลป์

ร้านหนังสือไทยศิลป์

 

ได้มีโอกาสพบคุณวรัญ พิศาล ผู้จัดการร้านหนังสือไทยศิลป์ ประมาณบ่ายโมงของวันที่ 24 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา คุณวรัญเป็นบุตรชายคนโตของคุณอิศวลักษณ์ พิศาล คุณพ่อลูกสาม โดยมีคุณธัญญา พิศาล บุตรีหรือลูกคนที่สองบริหารอยู่ร้านไทยศิลป์เครื่องเขียน และบุตรีลูกคนที่สามดูแลร้านคอมพิวเตอร์และไทยศิลป์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้นโยบายเดียวของคุณอิศวลักษณ์คือ “ความซื่อตรง ยุติธรรมและบริการที่ดีต่อลูกค้าคือหัวใจแห่งความสำเร็จในงาน” นอกจากนี้คุณวรัญยังเพิ่งเปิดร้าน Dream Zone ขาย Vcd หนัง-เพลง software เกมส์ ตลอดจนสื่อการเรียนการสอนเพิ่มเติมอีกแห่งเมื่อไม่นานมานี้

คุณวรัญเล่าให้ฟังว่าจริงๆแล้วไทยศิลป์เมื่อแรกก่อตั้งโดยคุณปู่คือคุณมณฑล พิศาลซึ่งเสียชีวิตไปแล้วนั้น จะเป็นร้านเดียวที่ขายทุกอย่างคล้ายร้านโชห่วย มีหนังสือ เครื่องเขียน ของใช้อุปโภคบริโภคตลอดจนเป็นเอเย่นต์ค้าส่งหนังสือพิมพ์-นิตยสารอยู่ในที่เดียวกัน ผิดกับทุกวันนี้ แยกประเภทสินค้ากันบริหาร แต่อย่างไรก็ดี ก็อยู่ภายใต้นโยบายเดียวกัน และประชุมเป็นงานเป็นการพร้อมหน้ากัน คือวันที่เซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษคือปู่กับย่านั่นเอง ทำให้พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ทำงานช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยดีมาตลอด ปัจจุบันร้านค้าในเครืออ.ท่าม่วงทั้งหมดมีพนักงานทำงานร่วมด้วยอยู่ 35 คน

เกณฑ์หรือมาตรฐานของร้านที่มุ่งให้ลูกค้าพึงพอใจ นอกจากนโยบายดังกล่าวข้างต้นที่คุณพ่อให้มาแล้ว คือทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ทางร้านต้องพยายามจัดหาให้ครบถ้วน คุณวรัญ(จบสาขาการตลาด ม.หอการค้าไทยแล้วมาช่วยงานที่บ้านประมาณ 12 ปีมาแล้ว)เล่าให้ฟังว่าสมัยคุณย่ายังมีชีวิตอยู่ก็ทำเป็นแบบอย่างให้ลูกหลานดูมาก่อน คือแม้ลูกค้าสั่งของไว้เพียงชิ้นเดียวแล้วที่ท่าม่วงไม่มี คุณย่าเข้ากรุงเทพไปจัดหาซื้อมาให้ในวันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว

กิจกรรมส่งเสริมการขายของร้านสำหรับลูกค้าประจำคือ สมัครสมาชิกปีแรก 100 บาท(ปีต่ออายุคือปีถัดไปเหลือ 50 บาท)สามารถซื้อพ็อกเก็ตบุ๊คในร้านได้ส่วนลด 10% ทุกปกยกเว้นเฉพาะหนังสือพิมพ์และนิตยสาร

ส่วนความร่วมมือระหว่างร้านพี่ร้านน้อง จะมีคูปองส่วนลดเงินสดโดยซื้อของร้านใดก็ได้ในเครือครบทุก 100 บาท จะได้คูปองแทนค่าเงินสดทุกครั้งสองบาท เพื่อนำไปแลกเป็นส่วนลดเพิ่มระหว่างร้านในเครือทั้งหมดได้ตามโปรโมชั่นที่กำหนดไว้ ในแต่ละแคมเปญของแต่ละช่วงเทศกาลส่งเสริมการขาย หมวดหนังสือที่ขายได้เรื่อยๆในร้าน จะเป็นประเภทหนังสือเย็บปักถักร้อย สุขภาพ-ความงาม หมวดอาหาร เป็นต้น

สำหรับหมวดวรรณกรรม ดาวรุ่งก็คือหนังสือเขียนเกี่ยวกับดารา(ซึ่งไม่ใช่ขายได้ทุกคนไป)เล่มที่ขายได้ในปัจจุบันคือคุณเอกราชและน้องเดียวนั่นเอง วรรณกรรมของส.น.พ.แจ่มใสถือว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งนานมา 2 ปีแล้ว ปัจจุบันรู้สึกว่าเริ่มแผ่ว ทางแจ่มใสจึงปรับวรรณกรรมมาทำในรูปแบบของการ์ตูน

หนังสือประเภทบริหารธุรกิจของทางร้านเคลื่อนไหวไม่ค่อยดีนัก หนังสือหมวดคอมพิวเตอร์ก็ช้า แต่ถ้าเป็นแมกกาซีนคอมพิวเตอร์ไปได้ดีกว่า และสำหรับกลุ่มลูกค้าวัยม.ต้น ที่ร้านขายพ็อคเก็ตบุ๊คได้ดีกว่าการ์ตูนญี่ปุ่น

ส่วนงบซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดมีมาตลอด ตั้งแต่งบรักการอ่านโรงเรียนในฝัน ถ้าเป็นงบห้องสมุดโรงเรียนประถมก็มักเป็นหนังสือภาพ แต่ถ้าโรงเรียนมัธยมก็จะเป็นหนังสือเสริมการเรียนประเภทแนววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ถามว่าธุรกิจร้านเช่าหนังสือมีผลกับร้านขายหนังสือหรือไม่ คุณวรัญตอบว่า “ไม่กระทบครับ ถือว่าเป็นคนละภาคส่วนธุรกิจกัน อีกอย่างส่วนมากร้านเช่าประเภทการ์ตูนญี่ปุ่นหรือวรรณกรรมของแจ่มใส ที่ร้านก็เป็นเอเย่นต์อยู่แล้ว จะได้หนังสือเหล่านี้มาในราคาพิเศษ ซึ่งทำให้ขายได้ถูก ไม่แพ้การไปเช่าอ่านแต่อย่างใด”

กรณีที่ร้านแบรนด์เนมจากกรุงเทพจะรุกเข้ามาแบ่งเค้กในท้องถิ่นนั้น คุณวรัญตอบว่า “บีทูเอสยังไม่ได้เข้ามา นายอินทร์ก็ยังไม่มา มีร้านซีเอ็ดมาแล้วโดยจะเปิดที่อ.ท่ามะกา ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอ.เมืองกาญจนบุรีกับอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และที่ตัวอ.เมืองกาญจน์เอง ซีเอ็ดก็มาเปิดไว้แล้ว 2 สาขา”

ถามว่าพวกร้านแบรนด์เนมถ้ามาทาบทามให้ร้านไทยศิลป์เป็นแฟรนไชส์ของเขาจะเอาไหม คุณวรัญยิ้มแล้วตอบว่า “ดูที่ระบบสนับสนุนการขาย นายอินทร์เคยมาทาบทามแล้ว แต่ทางร้านได้ปฏิเสธไป แต่ถ้าเป็นยี่ห้อซีเอ็ด ก็ไม่แน่ว่าอาจจะสนใจ เพราะรู้สึกว่าซีเอ็ดระบบเขาดีกว่าร้านนายอินทร์” คุณวรัญพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยรอยยิ้มแห่งไมตรี ก่อนที่ทางกองบ.ก.เว็บไซต์จะกล่าวขอบคุณและกราบลาเจ้าของร้านกลับกรุงเทพฯ

 

ร้านหนังสือไทยศิลป์ 715-716 หมู่ 2 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ