ทีมงานตลาดของประพันธ์สาส์นตระเวนมาถึง จ.กาญจนบุรี หลังจากแวะกินกลางวันระหว่างทางที่อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นทางผ่านเมื่อมาจากกรุงเทพฯ
พบพี่สุมาลี ถนอมวงษ์ เจ้าของร้านซึ่งเดิมมีอาชีพค้าขายพืชไร่ที่ อ.ท่าม่วง และมีโรงงานมันสัมปะหลังเป็นของตนเองทำส่งตลาดกทม. แต่ก็ได้เลิกอาชีพดั้งเดิมมา 23 ปีแล้ว เพราะมาพบรักกับอดีตสามี(เสียชีวิตแล้ว)ซึ่งเป็นคนรักการอ่านหนังสือมาก ตนเลยพลอยรักการอ่านและมาเปิดร้านหนังสือในจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยการชักชวนจากเพื่อนสนิทของแฟนคือคุณเริงไชย พุทธาโร นักเขียนแฟนพันธุ์แท้ป.อินทรลิตรนั่นเอง เพราะว่าคุณเริงไชย ณ เวลานั้นมามีครอบครัวอยู่ที่กาญจนบุรี การเริ่มต้นร้านหนังสือก็คือเซ้งร้านต่อมาจากเพื่อนที่ทำมาก่อน คือคุณเหลือง ชัยวัฒน์ โดยที่ตั้งร้านตั้งแต่เริ่มต้นจนปัจจุบันอยู่ในทำเลตรงกันข้ามกับโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนกว่า 3 พันคน
พี่สุมาลีเล่าความหลังพร้อมกับกล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า “หนังสือประเภทวรรณกรรมขายได้น้อยลง ปีนี้ไม่ได้สิ่งพิมพ์เกี่ยวกับในหลวง ทางร้านยอดขายจะตกลง พอดีได้บารมีพระเจ้าอยู่หัวมาช่วยเพิ่มรายได้ให้ ส่วนหนังสือพิมพ์และนิตยสารพี่รับจากเอเย่นต์ ดำรงชัยมาวางขาย ส่วนพ็อคเก็ตบุ๊คที่ห้องสมุดโรงเรียนที่นี่มักซื้อยกชุดเข้าโรงเรียน จะเป็นประเภท Learning Cartoons ของสนพ.สกายบุ๊คส์ ถ้าเป็นวรรณกรรมที่จะขายได้เรื่อยๆที่ร้านนี้ ก็จะมีประเภทล่องไพร-เพชรพระอุมาที่ขายได้เรื่อยๆตลอดนะคะ”
สิ่งที่จูงใจให้ลูกค้าพึงพอใจ พี่สุนีย์กล่าวว่าหนีไม่พ้นส่วนลด “โรงเรียนมาซื้อเข้าห้องสมุดพี่ก็ลดให้ 10% ลูกค้าทั่วไปหากสมัครสมาชิกก็จะมีบัตรสมาชิกได้รับส่วนลด 5% โดยเพียงแต่ซื้อหนังสือครบห้าร้อยบาทก็จะได้เป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติฟรี 1 ปีแล้วค่ะ สิ่งจูงใจอื่นๆพี่ก็มีแก้วปั๊มตราร้านแจกตามเทศกาลอันเหมาะสม แต่ที่คั่นหนังสือที่ทางร้านลงทุนพิมพ์แจกให้ลูกค้าตลอด มีหลายแบบให้เลือกด้วยค่ะ(ดูตัวอย่างภาพถ่ายที่คั่นหนังสือของร้าน) นอกจากนี้ก็มีการรับสั่งจองซื้อหนังสือจัดหาให้ตามที่ลูกค้าต้องการพยายามเต็มที่เท่าที่ทำได้นะคะ ”
ร้านแบรนด์เนมที่มาจากกรุงเทพฯเวลานี้ที่อ.เมืองจังหวัดกาญจนบุรีมีร้านซีเอ็ด 2 สาขา สาขาหนึ่งมาเปิดที่ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นคือห้างกนกกาญจน์ ซึ่งพี่สุนีย์ก็ไปสำรวจว่ามีการแถมปกพลาสติกเมื่อซื้อหนังสือครบ 100 บาทขึ้นไป พี่สุนีย์บอกว่า “เรื่องร้านค้าในจังหวัดนี่ ก็ขายหนังสือเหมือนกัน ไม่ได้พี่ต้องไปสำรวจเสมอ ร้านในท้องถิ่นยังไม่เท่าใด ร้านที่มาจากกรุงเทพฯนี่สิต้องสู้ยิบตา นี่ดีนะที่ร้านบีทูเอสและร้านนายอินทร์ยังไม่มาถึงที่นี่”
“กลุ่มลูกค้าที่ร้านนี้มีทุกเพศทุกวัยค่ะ ทางร้านพยายามจัดวางหนังสือให้เป็นหมวดหมู่เพื่อสะดวกแก่ลูกค้าในการเดินหาหนังสือที่ตนต้องการ หนังสือมาใหม่ หนังสือเด่น หนังสือขายดี ก็วางอยู่ด้านหน้าร้าน และตรงชั้นหนังสือตรงเสาติดแคชเชียร์ใกล้ชิดที่พี่จะดูแล ลูกค้าก็มองเห็นได้ง่ายค่ะ” ด้านหลังร้านเป็นมุมหนังสือให้เช่า ทางร้านจึงไม่มีปัญหากับร้านเช่าแต่อย่างใด เพราะว่าทำเสียเอง แต่จะมีปัญหากับสำนักพิมพ์ที่ทำการขายตรงทางอินเตอร์เน็ต “คือว่าน้อยใจค่ะ เพราะว่าเขาขายตรงก็สามารถให้ส่วนลดลูกค้าได้มากกว่าเรา ทางร้านลดให้ลูกค้าทั่วไปหรือลูกค้าโรงเรียนก็เต็มที่ 5-10% แต่ทางสำนักพิมพ์ขายเองทางอินเตอร์เน็ตก็ลดให้ลูกค้าขั้นต่ำ 15% แล้ว ทำไมไม่ทำงานส่งเสริมการขายร่วมกับร้านค้าล่ะคะ”
ปิดท้ายพี่สุนีย์ยังไม่วายพูดถึงร้านซีเอ็ดว่า “ขยายเพราะว่ามีสัญญาผูกพันกับห้างแม็คโครโลตัสก็ยังไม่ว่า แต่นี่ห้างท้องถิ่นก็มาลง หนังสือของตนเองลดทันที 10% ของสำนักพิมพ์อื่น 5% แต่ก็ต้องสมัครสมาชิกนะคะ มาที่พันทางดีกว่า เพราะว่ามีหนังสือหลากหลายสำนักพิมพ์ตามที่ลูกค้าต้องการ ไม่เลือกโชว์เด่นเฉพาะหนังสือที่จัดพิมพ์หรือจัดจำหน่ายโดยค่ายตัวเองเท่านั้น”
ทางทีมงานตลาดประพันธ์สาส์นที่ถูกใช้ให้ทำงานเป็นนักข่าวจำเป็นไปด้วยนั้น กราบลาพี่สุนีย์ด้วยซาบซึ้งในน้ำใจที่ให้ความร่วมมือกับสำนักพิมพ์ในการค้าขาย ตลอดจนเป็นห่วงทางเราว่าจะกลับกรุงเทพฯมืดเกินไป เรื่องเช็คยอดขายและยอดฝากต่อ พี่สุนีย์จะจัดการและจัดทำส่งกลับไปทางสำนักพิมพ์ให้เรียบร้อยโดยเร็ว กราบขอบพระคุณพี่สุนีย์อย่างยิ่ง ณ พื้นที่ตรงนี้ด้วยนะครับ
ร้านหนังสือพันทาง : 160/108-109 ถ.แสงชูโต ต.บ้านเหนือ อ.เมือง กาญจนบุรี โดย...เคสุย