สุภาพบุรุษภายใต้จิตสำนึก : โดย ณัฐชยานี ศรีแนน

สุภาพบุรุษภายใต้จิตสำนึก

 

            สังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ โลกที่หมุนผ่านไปนั้นก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการดำรงชีวิต ความเป็นอยู่ การคบเพื่อน การอยู่ร่วมกับสังคม สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบตัวก็เป็นสิ่งสำคัญที่นำพาให้มนุษย์คล้อยตามกับสิ่งเร้ารอบข้าง เหมือนอยู่เช่น เรื่องเมื่อลูกเป็นสุภาพบุรุษ เป็นเนื้อหาของครอบครัวที่คอยปลูกฝังให้ลูกเป็นลูกผู้ชายหรือเป็นสุภาพบุรุษ อย่างที่แม่อยากให้เป็นเหมือนกับศรีบูรพา

 

            เมื่อลูกเป็นสุภาพบุรุษ เป็นเรื่องสั้นของ อาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่าง หรืออีกนามปากกา ไพลิน รุ่งรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2557 ท่านมีผลงานทางด้านวรรณกรรมอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย เรื่องสั้น สารคดี บทกวี ตัวอย่างเช่น ดั่งดาวระยิบฟ้า อาม่าบนคอนโด ขวัญสงฆ์ อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะที่รัก แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้ ซึ่งเมื่อลูกเป็นสุภาพบุรุษก็เป็นอีกหนึ่งผลงานเรื่องสั้นที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคมต่างๆ ให้ผู้อ่านได้สัมผัส

 

            เนื้อหาของเรื่องเมื่อลูกเป็นสุภาพบุรุษมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว โดยมีนันท์เป็นแม่ของดิน มีความศรีบูรพามาก จึงมักจะสอนให้ดินมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่เสมอ จนวันหนึ่งมีเด็กผู้หญิงชื่อฟ้าใส เข้ามาหาแม่ของดินแล้วบอกว่าท้องกับดิน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าดินเป็นพ่อของลูกจริงๆ หรือเปล่า ทั้งสองคุยกัน นันท์ถามเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของฟ้าใส จนได้พูดถึงเรื่องเรียน ฟ้าใสอยากเรียนหนังสือแต่ไม่มีโอกาสได้เรียน นันท์จึงยื่นข้อเสนอว่า ถ้าหากลูกในท้องของฟ้าใสเป็นของของดินจริงๆ ฟ้าใสจะได้เรียน เมื่อนันท์คุยกับดิน ดินยอมรับว่าเด็กในท้องของฟ้าใสเป็นลูกของดิน ซึ่งทำให้นันท์ไม่เข้าใจเหตุผลของดิน  เนื่องจากก่อนหน้านี้ฟ้าใสโทรมาบอกนันท์แล้วว่าลูกในท้องไม่ใช่ลูกของดิน นันท์จึงถามดินเพื่อความสงสัย จึงทำให้รู้ว่าดินยอมรับเป็นพ่อ เพราะอยากให้ฟ้าใสได้เรียนหนังสือตามข้อตกลงที่ฟ้าใสตกลงกับนันท์ ส่วนพ่อของดินนันท์เป็นคนบอกดินว่าพ่อเขาตาย แต่ตั้งใจจะบอกความจริงเมื่อดินอายุ 20 ปีบริบูรณ์

 

            จะเห็นได้ว่าดินเป็นลักษณะตัวละครเด็กหนุ่มทั่วๆ ไป หรือเหมือนกับชีวิตจริงของใครหลายๆ คน เป็นเด็กหนุ่มที่โตมากับผู้หญิงสองคนคือแม่และยาย อยู่ในครอบครัวที่ถือว่าอบอุ่นจนเมื่อเขาเติบโตย่างเข้าสู่รั่วมหาวิทยาลัย ดินก็เลือกเรียนมหาวิทยาลัยเปิด เพื่อที่จะทำงานหาเงินเพื่อไม่ให้เดือดร้อนทางบ้าน แม้ยายและแม่จะไม่ยอม แต่ดินก็เลือกจะทำงานเพื่ออยากแสดงความเป็นลูกผู้ชายทางบ้าน อย่างเช่นความตอนหนึ่งว่า "ผมโตแล้วครับ ขอให้ผมได้ทำหน้าที่ของลูกผู้ชายประจำบ้านหน่อย...แม่กับยายอย่าห้ามผมเลย ผมรับรองว่าผมจะเรียนให้จบเร็วที่สุด"

 

            จากคำพูดของดิน ทำให้รู้ว่าดินค่อนข้างถูกปลูกฝังให้ดินเป็นลูกผู้ชายหรือเป็นสุภาพบุรุษอยู่เสมอ เห็นได้จากตอนเด็กๆ ที่นันท์บอกลูกว่า "บ้านนี้มีแต่ผู้หญิง หนูต้องดูแล" แล้วดินตอบว่า "ด้วยเกียรติของลูกเสือ...ข้าพเจ้าขอสัญญา"

 

            จากคำพูดหรือลักษณะท่าทางของดินทำให้เห็นว่าดินนั้นมีจิตสำนึกที่ต้องดูแลแม่และยายอยู่เสมอ เพราะตนเป็นผู้ชายคนเดียวของบ้านทั้งยังเป็นเด็กหนุ่ม ถึงแม้ว่าตอนที่ดินขอทำงานยายบอกว่าไม่ต้องทำ ยายมีสมบัติไม่ต้องทำงาน แต่ด้วยจิตสำนึกของดินที่ปลูกฝังมาแบบนั้นก็พยายามทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เห็นได้จากตอนที่ดินอยากเข้าเรียนช่วงกลางวัน จึงจะทำงานตอนกลางคืน เพื่อเรียนตอนกลางวันด้วยเหตุผลที่ว่า

            "มีอาจารย์คนหนึ่งที่คณะมนุษย์สอนดีเหลือเกินครับ...รุ่นพี่เขาบอกมา..."

            "...อยากไปขอเข้าคอร์สในคณะมนุษย์เพื่อจะเป็นมนุษย์ให้มากขึ้นครับ...ผมอยากจะเรียนรู้เรื่องโลกเรื่องสังคมเยอะๆ ครับแม่จะได้ดูแลคนอื่นได้"

            แต่เมื่อแม่ให้ดินเรียนไม่ต้องทำงาน ดินตอบแม่ว่า

            "ไม่ได้ครับ ผมเป็นลูกผู้ชาย ต้องทำตามสัญญา"

            จากการที่ดินกล่าวกับแม่ชี้ให้เห็นว่า ดินก็ยังมีจิตสำนึกที่ครอบงำและแสดงความเป็นสุภาพบุรุษคือการดูแลคนอื่นและยังจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เสมอ แต่ถึงแม้ว่าดินจะมีจิตสำนึกเพียงใดดินก็เป็นมนุษย์ที่โดยจิตใต้สำนึกแทรกเข้ามา ดังความตอนหนึ่งที่นันท์เล่า

            "แล้ววันหนึ่งลูกก็เมา มีเพื่อนขับรถมาถึงบ้าน เขาหิ้วปีกลูกเข้าบ้าน บอกกับแม่ว่า "ไอ้ดินมันเมาครับ"

 

            ในวันที่ดินเมาทำให้รู้ว่าตัวของดินเองก็เป็นเด็กหนุ่มทั่วๆ ไปและโดนจิตใต้สำนึกผลักดันความต้องการส่วนลึกออกมา เมื่อต้องอยู่กับสังคมเพื่อนหรือวัยรุ่น รุ่นเดียวกันจึงทำให้ดินปล่อยความเป็นตัวเองออกมา โดยลืมไปว่าตนเองยังมีจิตสำนึกของความเป็นสุภาพบุรุษของแม่อยู่

 

            วันหนึ่งก็มีผู้หญิงมาหาแม่ของดินเพื่อมาบอกว่าท้องกับดิน สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำว่าตัวของดินเองนั้นก็เหมือนเด็กหนุ่มที่ต้องการเสพความสุขเหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไป โดยมีจิตใต้สำนึกครอบงำนำพาให้เขาปฏิบัติต่อฟ้าใส โดยไม่คิดให้รอบคอบ แต่ถึงแม้ว่าลูกในท้องไม่ใช่ลูกของดิน แต่ดินก็แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเขาก็ย่ำยีความเป็นผู้หญิงของฟ้าใสเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมีจิตใต้สำนึกที่รับผิดชอบต่อฟ้าใส แต่ดินเองก็ได้กระทำเหมือนอย่างพ่อของเขาเอง

 

            จะเห็นได้ว่าดินเป็นตัวละครที่ใช้จิตใต้สำนึกในการดำเนินชีวิต ด้วยความดูแลของครอบครัวที่คอยปลูกฝังความเป็นลูกผู้ชายหรือความเป็นสุภาพบุรุษอยู่เสมอ แต่จะบอกว่าดินมีความเป็นสุภาพบุรุษอย่างผู้ชายส่วนใหญ่เป็นก็ไม่ใช่ เพราะถ้าดินเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ ก็คงไม่ทำเกินเลยฟ้าใสจนทำให้เกิดเรื่องแบบในเนื้อเรื่องหรือที่ดินชิงสุกก่อนห่าม ซึ่งก็ยังเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิงเหมือนที่พ่อของเขาทำ เขาจะยังเรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายหรือสุภาพบุรุษอีกอยู่หรอ

 

            จากการใช้จิตวิเคราะห์มาวิเคราะห์ตัวละครของดิน หรือผู้ชายที่ถือได้ว่าเป็นสุภาพบุรุษของเรื่อง ก็ทำให้เห็นว่าตัวละครเป็นตัวอย่างของมนุษย์ที่มีจิตใต้สำนึกที่ดี ในการใช้ชีวิตที่มาจากการเลี้ยงดูของครอบครัว การดูแลเอาใจใส่ แต่ความเป็นสุภาพบุรุษของดินก็เสมือนการถูกยัดเยียดให้เป็นมากกว่า เพราะจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นหรือแม้กระทั่งตอนสุดท้ายที่ดินเลือกรับผิดชอบเพราะคำพูดของแม่ ซึ่งดินค่อนข้างแสดงพฤติกรรมด้านจิตใต้สำนึกออกมาอย่างสบายใจ ถึงแม้ว่าการแสดงพฤติกรรมดังกล่าวจะไม่ได้แสดงต่อหน้าครอบครัว เพราะเขาเองก็เอาจิตสำนึกที่มี มาปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองมากกว่า

 

            ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า มนุษย์ทุกคนมีจิตสำนึกที่รับผิดชอบความชั่วดี เพื่อเป็นเกราะป้องกันตนเองในสังคม แต่ก็ยังมีจิตใต้สำนึกที่พยายามคอยแทรกซึมเข้ามาภายในจิตใจของมนุษย์ หรือคอยตอบสนองความต้องการของมนุษย์อยู่ ซึ่งมนุษย์เองก็มีจิตสำนึกคอยป้องกันให้ตนเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

 

 

สุภาพบุรุษภายใต้จิตสำนึก
บทวิจารณ์ โดย นางสาวณัฐชยานี ศรีแนน
โครงการ “อ่าน  เขียน  เรียนรู้  สู่งานวิจารณ์ ” ปีที่ 5 

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ