เสือดำ : เสือดำชิงนาง(ตอนที่2) : เสือดำ ขุนโจรลูกผู้ชายแห่งเมืองสุพรรณ

เสือดำ : เสือดำชิงนาง(ตอนที่2)

ผลงานโดย ป. อินทรปาลิต

สำนักพิมพ์ : ผดุงศึกษา 

ภาพ : อาภรณ์ อินทรปาลิต

 

เสือดำชิงนาง

          “เสือดำ”

         ขุนโจรพยักหน้าและปราดเข้าไปยื่นมือให้เพื่อนจับ

         “กันเอง มเหศวร กันได้ข่าวว่าแกจะแต่งงานกับเรียม ก็ถือโอกาสมาเยี่ยมน้าฟองกับเรียม”

         ทิดฟองรีบกล่าวหาเสือดำทันที

         “อ้ายดำมันขู่ข้า มเหศวร มันว่าถ้าวันไหนเป็นวันที่เอ็งแต่งงานกับนังเรียม มันจะพาพวกเข้าปล้นเรา”

         เสือมเหศวรค่อยๆ หันหน้ามาทางเพื่อนของเขา

         “แกพูดเช่นนี้หรือดำ”

         แทนที่จะปฏิเสธกลับ รีบรับคำ

         “ถูกละมเหศวร เพื่อเกียรติของกัน กันจำเป็นเหลือเกินที่กันจะต้องทำเช่นนี้ บุญคุณของแกก็ส่วนหนึ่ง และเกียรติยศของกันก็ส่วนหนึ่ง กันรับรองได้แต่เพียงว่ากันจะไม่ทำอะไรแกเป็นอันขาด แต่ว่ากันต้องบุกเพื่อนแน่ๆ ในวันแต่งงานของเพื่อน”

         ทันใดนั้นเอง สมุนแขนขวาของเสือมเหศวรก็กระชากปืนพกออกมาจากซองเพื่อจะสังหารชีวิตเสือดำ แต่ช้าเกินไป ขุนโจรได้ระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว ปืนพกของเสือดำถูกกระชากออกมาก่อน และยิงไปก่อนที่สมุนของเสือมเหศวรจะยิงเขา

         เสียงกระสุนรีวอลเวอร์ ๙ ม.ม. ระเบิดลั่น ร่างอันสูงใหญ่ปล่อยปืนพกร่วงหลุดจากมือแล้วล้มฮวบลงสิ้นใจตายบนนอกชาน ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกๆ คน ทันใดนั้นเสือดำก็ยกมือซ้ายกอดคอเสือมเหศวรไว้ มือขวาจี้ปากกระบอกปืนพกแนบสีข้าง

         “อ้ายเพื่อนยาก เพื่อความปลอดภัยของกัน กันต้องทำเช่นนี้ กันรับรองว่ากันจะไม่ฆ่าแกเป็นอันขาด เว้นแต่ว่าสมุนของแกหรือน้าฟองจะเล่นงานกันก่อน ไม่ต้องตกใจมเหศวร ช่วยพากันไปส่งข้างล่างที่ม้าของกันเท่านั้น กันขอยึดตัวแกไว้เป็นผู้ประกันชีวิตกันก่อน”

          

เสือดำ : เสือดำชิงนาง

 

         ไม่มีใครกล้าทำอะไรเสือดำเลย ขุนโจรใข้ปากกระบอกปืนรุนหลังเสือมเหศวร บังคับให้เดินผ่านนอกชานลงบันไดไปข้างล่าง เมื่อมาถึงเจ้าสีหมอกของเขา เสือดำก็พูดกับเสือมเหศวรด้วยเสียงเป็นเชิงบังคับ

 

เสือดำ : เสือดำชิงนาง

 

         “มเหศวร ช่วยแก้สายบังเหียนม้าให้กันด้วย อ้อ เดี๋ยวก่อน ถอดแม็กกาซีนท็อมสันของแกให้กันเถอะ กันจะขอเอาไปดูเป็นที่ระลึกที่กันสามารถเอาชะนะแกได้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆ ที่กันตัวคนเดียวและแกมีลูกน้องถึง ๓ คน”

         เสือมเหศวรรู้ดีว่าเสือดำเกรงว่าเขาจะใช้ท็อมสันระดมยิงขณะที่เขาควบม้าหนีไป อำนาจของปืนพกทำให้เสือมเหศวรถอดแม็กกาซินกระสุนท็อมสันส่งให้เสือดำโดยดี เสือดำกระโจนแผล็วขึ้นหลังสีหมอก ใช้ส้นรองเท้ากระตุ้นเตือนให้มันออกไปทันที และทันใดนั้นเอง สมุนของเสือมเหศวร ๒ คนก็ปลดปืนยิงเร็วออกมาจากบ่า ยกขึ้นเล็งศูนย์ไปยังร่างของเสือดำซึ่งห่างไกลออกไปทุกที แล้วระดมยิงไปคนละชุด เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่มีกระสุนนัดใดถูกเสือดำหรือม้าของเขาเลย เสียงฝีเท้าม้าห่างไกลออกไปทุกที ลัดตัดออกนอกทุ่งบ่ายโฉมหน้ายังจุดหมายปลายทางคือรังของขุนโจรที่กำลังเริ่มอาละวาดอีกแล้ว

         เสือมเหศวรยืนขบกรามแน่น เขาได้รับความอับอายขายหน้าสมุนโจรและทิดฟองอย่างยิ่ง เสือดำได้ลูบคมเขา และยิงลูกน้องคนสนิทของเขาตายต่อหน้าต่อตา มเหศวรถอนหายใจหนักๆ นึกในใจว่าในวันแต่งงานระหว่างเขากับเรียม เสือดำคงจะพาพวกเข้าบุกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

         แล้วเสือมเหศวรก็กลับขึ้นมาบนเรือน ทิดฟองกับสมุนทั้ง ๒ ยืนวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ที่นอกชาน ใบหน้าของเสือมเหศวรหม่นหมอง แววตาบอกความวิตกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เขารู้จิตต์ใจของเสือดำดี เสือดำไม่ยอมให้ใครลูบคมเขาเป็นอันขาด

         “พ่อ” เสือมเหศวรพูดกับทิดฟองด้วยเสียงหนักๆ “อ้ายดำจะต้องบุกเราอย่างไม่ต้องสงสัย เราควรจะเลื่อนกำหนดการแต่งงานระหว่างฉันกับเรียมออกไปสัก ๑ เดือนดีไหมพ่อ?”

         ทิดฟองสั่นศีร์ษะ

         “เลื่อนไม่ได้ ถ้าเลื่อนก็หมายความว่าเอ็งเกรงกลัวอิทธิพลอ้ายดำ”

         เสือมเหศวรรีบพูดขึ้นทันที

         “เปล่าพ่อ อ้ายดำไม่ได้วิเศษอะไร แต่ฉันเกรงว่าแขกเหรื่อที่มาในงานมงคลของฉันจะพลอยได้รับเคราะห์กรรมไปด้วย”

         ทิดฟองหัวเราะหึๆ

         “เอ็งก็เป็นคนดีมีปัญญาคนหนึ่ง ถ้าเอ็งวางแผนการณ์ป้องกันไว้เรียบร้อย ที่ไหนอ้ายดำกับพรรคพวกของมันจะบุกเข้ามาทำลายบ้างพิธีแต่งงานของเอ็งกับนางเรียมได้ ไพร่พลของเอ็งก็มีอยู่นับร้อย เพียบพร้อมด้วยอาวุธพอที่จะรับมือกับอ้ายดำ”

         เสือมเหศวรถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด

         “ตกลง พอขึ้น ๑๒ ค่ำ ฉันจะเข้าพิธีแต่งงานกับแม่เรียม ถ้าอ้ายดำบุกฉัน เราก็ต้องเล่นงานกับมันให้ยับกันไปข้างหนึ่ง ลุงฝ้ายคงจะช่วยเหลือฉันเต็มที่ และฉัน-ฉันจะสู้ตาย เพื่อนเกียรติของฉัน”

         ทิดฟองสนับสนุนเต็มที่

         “ยังงั้นซีวะมเหศวร พ่อน่ะ ถึงแก่แล้วก็พร้อมที่จะหยิบดาบหรือปืนช่วยเอ็ง อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อฝีมือเอ็งเสมอ มเหศวร”

         เขายิ้มออกมาได้ หันไปมองดูร่างที่ปราศจากวิญญาณของสมุนแขนขวาแล้ว เสือมเหศวรก็เศร้าใจไม่น้อย

         “อ้ายเทิ้มเอ๋ย ไปที่ชอบๆ เถอะวะ ง่า - เอ็ง ๒ คนรีบช่วยกันจัดการในเรื่องศพอ้ายเทิ้มหน่อยเถอะวะ เอามันไปฝังในละเมาะหลังบ้านพ่อก็ได้ สำหรับพวกเราซึ่งเป็นโจร ความตายมันเป็นของธรรมดา”

         ทิดฟองตะโกนเรียกลูกจ้างทำนาของเขาซึ่งแอบซ่อนอยู่ทางหลังบ้านให้ขึ้นมาพบทั้ง ๓ คน และสั่งให้ช่วยเหลือนำศพเจ้าเทิ้มไปฝังที่ป่าละเมาะหลังบ้าน ซึ่งคนหนึ่งในจำนวนลูกจ้างของทิดฟองนั้นเป็นคนของเสือดำนั่นเอง

         การกินเลี้ยงตอนพลบค่ำวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา เสือมเหศวรได้ดื่มเหล้าผิดปกติ เป็นการดื่มเพื่อปลุกปลอบขวัญของตนเองเตรียมไว้รับมือกับเสือดำในวันขึ้น ๑๒ ค่ำเดือนนี้ อันเป็นวันมงคลสมรสระหว่างเขากับเรียมแม่สาวงาม

         ทิดฟอง บิดาของเรียมได้รับเป็นภาระเป็นผู้จัดทำพิธีมงคลสมรสระหว่างเรียมกับเสือมเหศวรอย่างเต็มใจ

         บริเวณด้านขวาของลานนวดข้าว มีเรือนหอปรากฏขึ้นแล้ว ทิดฟองได้ระดมช่างหลายคนให้เร่งรีบทำ สิ้นเงินค่าปลูกสร้างเกือบหมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินของเสือมเหศวรนั่นเอง

         ในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างในงานมงคลสมรสก็จัดเตรียมไว้พร้อมสรรพ มันอาจจะเป็นงานแต่งงานที่ใหญ่ยิ่งงานหนึ่ง บัตรเชิญถูกส่งไปตามบรรดาพ่อค้าคหบดีทั้งหลายเกือบทั่วสุพรรณบุรี และหมายถึงพวกนายโจรชั้นอ้ายเสืออีกหลายคน

         ระหว่างนี้ข่าวคราวของเสือดำเงียบกริบ ไม่มีข่าวสารเคลื่อนไหวของขุนโจรผู้นี้เลย แต่ทิดฟองกับเสือมเหศวรเชื่อว่าในวันขึ้น ๑๒ ค่ำ ซึ่งเป็นวันแต่งงานระหว่างเสือมเหศวรกับเรียม อย่างไรเสียเสือดำก็จะต้องระดมกำลังทั้งหมดยกเข้าปล้นเพื่อทำลายพิธีและแสดงอิทธิพลของเขา

         ดังนั้นพอถึงกำหนดวันสำคัญ บริวารของเสือมเหศวรและเสือฝ้ายร่วม ๑๐๐ คน ก็เดินทางมุ่งตรงมายังบ้านทิดฟองแต่เช้า เสือมเหศวรได้จัดวางแนวต้านอย่างแข็งแรง มอบหมายหน้าที่ให้บริวารของเขาโดยทั่วหน้า รังปืนอันมั่นคงถูกสร้างขึ้นหน้าบันไดบ้านใช้กระสอบทรายรองซ้อนกัน มีช่องว่างสำหรับตั้งยิงปืนกล ซึ่งเป็นปืนกลอากาศที่ใช้ประจำเครื่องบินรบ

         ด้วยอิทธิพลของเสือมเหศวร งานนี้จึงมีผู้คนมาช่วยเหลือเต็มบ้าน เงินและของขวัญถูกส่งมาตลอดวัน ที่ครัวของทิดฟองวุ่นวายกันตั้งแต่เช้า เสียงขูดมะพร้าว ตำน้ำพริก เสียงหัวเราะเสียงพูดสรรพยอกหยอกล้อกันได้ดังอยู่ตลอดเวลา การรับประทานอาหารค่ำวันนี้จะมีแขกไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ คน

         พอตะวันบ่าย บริวารของเสือมเหศวรก็เข้าประจำที่มั่นโดยรอบบริเวณบ้านของทิดฟอง

         “พวกเจ้าทุกคนต้องสู้ตาย สู้เพื่อนเกียรติของข้า” เสือมเหศวรกล่าวกับลูกน้องของเขา “อย่าลืมว่าข้าได้เชิญนายโจรมาในงานของข้าหลายคน ถ้าเสือดำบุกเข้ามาทำลายล้างพิธีได้ ข้าจะต้องอับอายขายหน้าเขาสักเพียงไร อย่าให้อ้ายดำมันเหยียบจมูกพวกเราเป็นอันขาด เราจะต้องฟาดกับมันให้ย่อยยับกันไปข้างหนึ่ง พวกเราจำนวนมากกว่ามันตั้ง ๒ เท่า อาวุธก็ดีๆ ทั้งนั้น อ้ายดำจะหาญเข้าบุกเรามันก็เก่งเกินเสือละวะ เพราะมันจะต้องรู้ว่าอย่างไรเสียเราจะต้องเตรียมตัวรับมือพวกมันอย่างเต็มที่”

         หลังจาก ๑๖.๐๐ น. บรรดาแขกที่ได้รับเชิญมาในงานก็ย่อยๆ กันมาตามลำดับ ขุนโจรจากท้องถิ่นต่างๆ หลายคนได้มาพบหน้ากันในวันนี้ซึ่งล้วนเคารพนับถือเสือมเหศวร ทั้งๆ ที่นายโจรบางคนไม่เคยเห็นหน้าเสือมเหศวรมาแต่ก่อน เมื่อได้รับบัตรเชิญซึ่งเป็นการให้เกียรติยศแก่เขา พวกนายโจรก็มาในงานนี้ด้วยความเต็มใจ และจัดหาของขวัญอันมีค่ามาให้ ซึ่งเสือมเหศวรก็ได้ปฏิสันถารต้อนรับขับสู้ด้วยอัธยาศัยไมตรี

         พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ได้เริ่มต้นเมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. ตรง โดยพ่อค้าสำคัญยิ่งคนหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นผู้ที่อาวุโสมากกว่าเพื่อน

         เสือมเหศวรหมอบเคียงคู่กับเจ้าสาวของเขาอยู่บนตั่งเท้าสิงห์ มีมงคลแผดสรวมศีร์ษะติดกัน มันเป็นพิธีมงคลสมรสที่ทันสมัย เรียมเจ้าสาวของขุนโจรสรวมเสื้อกระโปรงวิวาห์ชุดขาว มีดอกไม้คาดหน้าผาก ตกแต่งใบหน้าและเรือนผมอย่างวิจิตรประณีต ทำให้ใครๆ ชมเปาะว่าวันนี้เรียมสวยสะอาดบาดตายิ่งนัก

         ส่วนเสือมเหศวรแต่งกายแบบประเพณีไทย นุ่งผ้าม่วงสีฟ้าหม่น สรวมเสื้อนอกแพรสีนวล คอปิดกลัดกระดุมทองลงยา ๕ เม็ด ลักษณะท่าทางของเขาราวกับข้าราชการหนุ่มคนหนึ่ง

         ใบหน้าของเจ้าสาวผุดผ่อง และบางครั้งเมื่อสบตากับเจ้าบ่าว แก้มของหล่อนก็กลายเป็นสีชมพูอ่อน ทำให้น่ารักยิ่งขึ้น ส่วนใบหน้าของเจ้าบ่าว ถึงแม้จะยิ้มแย้มแจ่มใส แววตาของเขาก็บอกความวิตก เพราะยังไม่แน่ใจว่าพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์จะผ่านไปด้วยดีหรือไม่

 

เสือดำ : เสือดำชิงนาง

 

         ณ บัดนี้ หนุ่มฉกรรจ์คนหนึ่งได้พาตัวเดินเข้ามาในห้อง เขาคือเสือพริ้งที่กำลังขึ้นชื่อไม่ยิ่งหย่อนกว่าเสืออื่นๆ ในดินแดนสุพรรณบุรี

         เสื้อพริ้งหยุดยืนเบื้องหน้าคู่บ่าวสาว รับสังข์จากเพื่อนเจ้าบ่าวที่ส่งมาให้เขา แล้วหยดน้ำพระพุทธมนต์ลงบนฝ่ามือเรียมและเสือมเหศวร

         “ผมขออวยพรด้วยใจจริง”

         ยังไม่ทันพูดจบประโยค เสียงปืนยิงเร็วก็ดังระรัวขึ้นทางท้ายสวน ๒ ชุด ครั้นแล้วปืนอีกหลายกระบอกก็ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ทำความโกลาหลอลมหม่านให้เกิดขึ้นแก่บ้านงาน

         เสือมเหศวรเผ่นแผล็วลงมาจากตั่งทันที คว้าท็อมสันบนหลังตู่ขึ้นมาถือ พยายามทำใจให้เป็นปกติ พูดกับเสือพริ้งเบาๆ

         “ไม่มีอะไรที่น่าวิตกหรอกน้องชาย อ้ายดำมันจะหักกับพี่ ทำลายพิธีของพี่ แต่ว่าพรรคพวกของพี่ได้ประจำที่มั่นรอบบริเวณบ้านนี้แล้ว ถึงอย่างไรอ้ายดำก็หักเข้ามาไม่ได้”

         เสือพริ้งล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบปืนพกออกมา

         “พี่มเหศวร ผมยินดีช่วยเหลือพี่ เสือดำทำอย่างนี้ไม่ได้ เราต่างก็เป็นโจรด้วยกัน ควรจะเห็นแก่กันบ้าง นี่เขาเจตนาจะหักโค่นพี่แท้ๆ ผมเป็นแขกของพี่ ผมจะต้องช่วยพี่เอง”

         ท่ามกลางความสับสนอลหม่าน เสือมเหศวรพาเสือพริ้งออกมาจากห้อง ทิดฟองถือปืนลูกซองวิ่งกะหืดกะหอบเข้ามาหา

         “มเหศวร อ้ายดำเล่นงานเราแล้วลูก มันแอบยิงพวกเราอยู่ทางป่าละเมาะข้างสวน เข้าใจว่าคงไม่มีคน พวกเรากำลังแยกย้ายกันค้นหาอ้ายเสือดำกับพรรคพวกของมัน”

         เสียงปืนสงบลงแล้ว แต่ความรักตัวกลัวตายของผู้ที่มาในงานนี้ยังไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะพวกผู้หญิงที่มาช่วยทำครัวอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆ กัน เสือมเหศวรชูมือทั้ง ๒ ขึ้น แล้วร้องตะโกนขึ้นดังๆ

         “พี่น้องที่รักทั้งหลาย เสือดำได้ยกพวกเข้ามาเพื่อจะทำลายพิธีแต่งงานนี้ แต่ไม่ต้องตกใจ ผมขอรับรองว่าผมได้จัดพวกผมซุ่มไว้เรียงรายรอบบ้านแล้ว และขณะนี้เสือดำกับพรรคพวกของมันคงจะถูกพวกผมไล่ตะเพิดไป เชิญนั่งครับ ผมขอรับรอง อย่างไรเสีย อ้ายดำก็หักด่านเข้ามาไม่ได้”

         เสียงจ้อกแจ้กจอแจเบาบางลง พวกแขกต่างนั่งลงและวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องความอาจหาญของเสือดำ

         ทิดฟองต้อนเสือมเหศวรกลับเข้าไปในห้อง และเชิญแขกให้เข้าไปรดน้ำอวยพรต่อไป

         ขณะนี้ ภายในอาณาเขตต์บ้านของทิดฟองเต็มไปด้วยพรรคพวกของเสือมเหศวร ปืนยิงเร็วและปืนกลตามที่มั่นต่างๆ อยู่ในสภาพเตรียมพร้อม แต่...

         เสือดำเป็นขุนโจรที่เฉลียวฉลาดลึกซึ้ง เขารู้ดีว่าเสือมเหศวรได้จัดวางกำลังป้องกันอย่างแข็งแรง และจำนวนพลรบของเขาก็น้อยตัวกว่าทางฝ่ายเสือมเหศวร เสือดำจึงไม่โง่พอที่จะยกเข้าจู่โจมเพื่อผลแตกหัก

         ดังนั้นเสือดำจึงเคลื่อนพลเข้ามาในบริเวณป่าละเมาะทิศตะวันตกของบ้านทิดฟองและซุ่มซ่อนบริวารของเขาไว้ ส่วนตัวเขาเองเล็ดรอดเข้ามาจนถึงสวนผลไม้ พยายามสังเกตการณ์ในระยะใกล้ชิด และสามารถมองเห็นแนวต้านทานของเสือกมเหศวรหลายแห่ง

         เสือดำรู้ว่าเสือมเหศวรกับเรียมกำลังอยู่ในพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์ ก็ยกสะเต็นคู่มือประทับยิงขึ้นไปบนฟ้า ๑ ชุด เพื่อต้องการทำลายขวัญคู่บ่าวสาวและแขกที่มาในงาน พรรคพวกของเสือมเหศวรได้ยินเสียงปืนก็ยิงขึ้นบ้าง ทั้งๆ ที่ไม่เห็นเป้าที่หมายอะไร

         เสือดำพาตัวกลับมาหาบริวารของเขา สั่งให้สมุนโจร ๔ คนแยกย้ายกันไปคนละทิศ มุ่งหน้าเข้าสู่บ้านทิดฟอง และให้ใช้ปืนยิงเร็วยิงกราด ลวงล่อให้สมุนของเสือมเหศวรติดตาม

         อีกสักครู่หนึ่ง

         เมื่อพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์สิ้นสุดลง เสียงปืนยิงเร็วก็ดึงกึกก้องขึ้นอีกด้วยฝีมือบริวารของเสือดำ พรรคพวกของเสือมเหศวรต่างถือปืนวิ่งเข้าไปในป่าละเมาะ แต่ภูมิประเทศที่กล่าวนี้เต็มไปด้วยกอไผ่ต้นไม้ใหญ่น้อย และหญ้าคาขึ้นรกรุงรังไปทั่ว การค้นหาจึงไม่บังเกิดผลอะไร มิหนำซ้ำบริวารของเสือมเหศรวยังล่วงล้ำเข้าไปเกือบถึงตัวไพร่พลของเสือดำซึ่งซุ่มซ่อนตัวอยู่ในที่อันมิดชิด

 

เสือดำ : เสือดำชิงนาง

 

         สะเต็นในมือขุนโจรแผดเสียงคำรามขึ้นอีก ลูกน้องเสือมเหศวร ๓ คนผงะหงายล้มฮวบลงทันที อีก ๒-๓ คน วิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต

         เสือดำกล่าวกับบริวารของเขา

         “พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะพยายามแอบเข้าไปในบ้านทิดฟองให้จงได้ เพื่อทำลายเรือนหอของอ้ายมเหศวรเสีย”

         สมุนโจรคนหนึ่งได้เอ่ยขึ้นแก่เขาด้วยความเป็นห่วง

         “การทำลายเรือนหอของเสือมเหศวรไม่ใช่งานที่ยากลำบากอะไรเลยครับพี่ดำ ใช้พวกผมคนหนึ่งคนใดไปทำก็ได้”

         ขุนโจรยิ้มให้ลูกน้องของเขา

         “อ้ายน้องชายไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอก วิสัยเสือร้ายอย่างข้าย่อมเต็มไปด้วยการระมัดระวังตัวทุกฝีก้าว ข้าต้องการให้เสือมเหศวรและพรรคพวกของมันได้เห็นอิทธิพลอันใหญ่ยิ่งของข้า ทุกๆ คนรอข้าอยู่ที่นี่ ข้าเชื่อว่าคงไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นแก่ข้า”

         ครั้นแล้วเสือดำก็ปลดสะเต็นคู่มือออกมาจากบ่า พาตัวเดินไปจากที่นั้นโดยเร็ว ขุนโจรแฝงตัวมาตามป่าละเมาะอันหนาทึบ ค่อยๆ ก้มตัวเดินมุ่งหน้าไปยังเขตต์สวนของบ้านทิดฟอง ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เอง บริวารของเสือมเหศวรส่วนหนึ่งกำลังแยกย้ายกระจายกำลังกันเข้าค้นหาเสือดำกับพรรคพวกเพื่อมุ่งหวังจะสังหารให้สิ้นชีวิต

         ด้วยไหวพริบและปฏิภาณอันเฉียบแหลม เสือดำได้เข้ามายังบริเวณสวนผลไม้ของทิดฟองโดยไม่มีใครเห็นเขา กิ่งไม้และใบไม้ช่วยกำบังตัวเขาไว้ ขุนโจรถือสะเต็นเตรียมพร้อมที่จะปล่อยกระสุนออกจากลำกล้องได้ทุกขณะ และเมื่อเขาได้นั่งซุ่มซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังต้นส้มโอสักครู่ เสือดำก็ลุกขึ้นวิ่งปราดไปทางหมู่ต้นมะพร้าวซึ่งห่างจากเรือนหอไม่เกิน ๓๐ เมตร

         โดยฉับพลัน เสือดำได้ล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงข้างขวา หยิบวัตถุก้อนกลมสีดำอันหนึ่งออกมาถือ สายตาจ้องมองดูเรือนหอของสาวรักด้วยความแค้นสุดแสนแค้น ในมือของเขาคือลูกระเบิดมือของทหารสหประชาชาติ เสือดำกระชากสลักนิรภัยออกเงื้อลูกระเบิดมือขึ้นสุดแขนแล้วขว้างไปเต็มเหนี่ยว รีบทรุดตัวหมอบราบกับพื้นดินทันที

 

เสือดำ : เสือดำชิงนาง

 

         ระเบิดมือตกลงกลางเรือนหอพอดี เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ส่วนหนึ่งของเรือนหอพังทลายราบ ชีวิตของคน ๓-๔ คน ซึ่งกำลังช่วยกันตกแต่งเครื่องใช้ไม้สอยอยู่ในเรือนหอต้องสิ้นสุดลงทันที ความโกลาหลอลหม่านเกิดขึ้นแก่ทุกๆ คนที่มาช่วยงานมงคลสมรสของเสือมเหศวร แม้กระทั่งทิดฟองและเสือมเหศวรก็อดที่จะเสียขวัญไม่ได้

         เสือดำผลุดลุกขึ้น ขยับตัวจะวิ่งหนี ทันใดนั้นเองสมุนของเสือมเหศวรคนหนึ่งก็วิ่งปราดเข้ามายกคาไบน์ขึ้นประทับ แต่เสือดำตาไวมองแลเห็นศัตรูของเขาก่อน จึงยกสะเต็นขึ้นปล่อยกระสุนออกไป ๑ ชุด บริวารของเสือมเหศวรถูกกระสุนปืนของเสือดำผงะหงายล้มลงสิ้นชีวิต ขุนโจรยิ้มออกมาได้ วิ่งออกไปจากสวนผลไม้ แต่แล้วเขาก็ปะทะกับชายฉกรรจ์อีก ๒ คน ซึ่งวิ่งสวนทางเข้ามา เสือดำกระโดดแผล็วเข้าไปนั่งคุกเข่ากำบังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ยกสะเต็นขึ้นประทับและปล่อยกระสุนออกไปอีก เหยื่อของขุนโจรทั้ง ๓ คน ไม่ทันแลเห็นเสือดำก็ถูกปืนล้มกลิ้งไปตามกัน เขาผลุดลุกขึ้นพาตัวออกไปจากเขตต์บ้านของทิดฟองโดยเร็วที่สุด และอีกครู่เดียวเขาก็มาถึงหมู่บริวารของเขา ทุกๆ คนถอนหายใจโล่งอกเมื่อเสือดำกลับมาด้วยความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เสือดำต้องเหน็ดเหนื่อยถึงกับหายใจหอบเพราะต้องวิ่งมาเป็นระยะอันไกลพอดูทีเดียว

         “ข้าได้ทำลายเรือนหอของอ้ายมเหศวรแล้ว” ขุนโจรพูดยิ้มๆ “พรรคพวกมเหศวร ๓-๔ คน ถูกข้าสังหารนอนตายอยู่ในสวนอ้ายฟอง วันนี้ข้าจะยั่วเสือมเหศวรให้แทบเป็นบ้าทีเดียว จะพยายามลวงล่อมันให้คิดว่าเราจะเข้าปล้น มันจะได้วุ่นวายหมดความสุข และคืนวันนี้ขาจะพาพวกเจ้าเข้าบุก ทรัพย์สมบัติเงินทองของทิดฟองและของเสือมเหศวรข้าไม่ต้องการ ข้าต้องการแต่จะลูบคมมันเล่นเท่านั้น และข้าจะฉุดเจ้าสาวของเสือมเหศวรไปกับข้าให้ได้ สนุกกันสักวันเถอะวะพวกเรา”

         สมุนโจรยิ้มแย้มแจ่มใสไปตามกัน และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

 

Writer

Ampaporn Borworn