หนังสือขายดียังอยู่ในประเภทสารคดีที่เรียกกันว่า ฮาวทู และข้อเขียนของคนดัง รองลงมาเป็นนวนิยาย เรื่องสั้น และรั้งท้ายด้วยบทกวีเหมือนเดิม บทกวีที่ขายยากแม้บางเล่มจะประทับตรารางวัลนั้น สาเหตุมาจากหลายประการด้วยกัน อาทิ ลักษณะการอ่านของคนรุ่นใหม่วัยโจ๋ไม่ค่อยชอบชนิดต้องตีความกันหลายตลบ ยังโชคดีที่หนังสือบทกวีมีคนกลุ่มหนึ่งตามอ่าน แม้จะเป็นกลุ่มที่ไม่ใหญ่นัก

ภาพรวมการอ่านหนังสือคนไทย เสียงสะท้อนมาจากบัญชา อ่อนดี เขียนบทกวีชื่อ เหตุเกิดที่มหานครแห่งการอ่าน มีบทจบน่าสะเทือนใจว่า “ที่เนืองแน่นในมหานครแห่งการอ่าน คือ ‘งบประมาณ’กับ ‘สังคมก้มหน้า’ จินตนาการภาพฝันและปัญญา จึงเลือนหายไร้ค่า...มหานคร”

จริงหรือไม่ ใช่หรือเปล่าก็ตาม คนที่ยังไม่ได้หนังสือถูกใจ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ยังมีงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ จนถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2557 เปิดงานระหว่างเวลา 10.00- 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้สนใจผลงานนักเขียนศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์อย่าง ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ไม่ว่าจะเป็น มาเฟียก้นซอย มาดเกี้ยว ปีนตลิ่ง สนิมสร้อย และเรื่องราวของ เฉ่ มะเขือพวง แจ้ง ใบตอง ทิม กะทกรกและผองเพื่อนใน เสเพลบอยชาวไร่ ตรงไปได้เลยที่บูธของอมรินทร์อยู่โซน C2 บูธ Q26 อีกศิลปินสาขาวรรณศิลป์ อาจินต์ ปัญจพรรค์ งานนี้ สนพ.มติชนจัดให้ชุดใหญ่ แฟนเรื่องสั้นอาจินต์ตั้งแต่ยุคโอเลี้ยง 5 แก้ว หากตามหา

เรื่องสั้นบางเรื่องอยู่ หรือต้องการอ่านเรื่องโดยรวม สานฝันได้ที่ บูธมติชน อยู่โซน Plaza บูธ V10 งานนี้ สนพ.มติชนได้รวมเรื่องสั้นของอาจินต์ไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องสั้นเหมืองแร่ฉบับสมบูรณ์ เรื่องสั้นนอกเหมืองแร่ และไม่ลืมที่จะนำ ปรัชญาไส้ฉบับสมบูรณ์ มาให้อ่านด้วย ผลงานแต่ละเล่มแม้จะหนาและหนัก แต่ที่เหนือกว่านั้นคือคุณภาพงานเขียนชั้นครู

นอกจากเรื่องสั้น อาจินต์ ปัญจพรรค์ แล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ อย่าง I am malala สารคดีชีวิตของ มาลาลา ยูซัฟไซ สตรีผู้กล้าแห่งปากีสถาน เธอผู้เห็นค่าของการศึกษา แม้จะถูกยิงเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่กระสุนบาปไม่สามารถหยุดยั้งเธอได้ เธอยังต่อสู้เพื่อให้คนในประเทศของเธอพ้นจากความรุนแรง

บรรยากาศซื้อขายหนังสือช่วงเสาร์ อาทิตย์ ต้องยอมรับว่าหนาและแน่นเอามากๆ บริเวณหน้าไปรษณีย์ และช่องทางเดินระหว่างโซนต่างๆ บางช่วงตอนแทบไม่ต้องเดิน เพราะคลื่นผู้คนช่วยดันให้ขยับไปได้เอง งานอย่างนี้คนจัดปลื้ม แต่คนเดินเปลี้ย

ค่อยชื่นใจขึ้นมา เมื่อเห็นหน้านักเขียนอย่าง ทิพย์เกษร เจ้าของผลงาน ไฟล้างไฟ ผลงานของเธออยู่บูธ H17 เธอบอกว่างานนี้หนังสือออกมามากเหลือเกิน แย่งส่วนแบ่งการตลาดกันหนัก ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะนอกจากลดราคากันแล้ว ยังมีการแจกคูปองแลกซื้อกันอีกด้วย เธอควงแขนมากับโสภี พรรณราย นักเขียนนวนิยายมือเก๋า งานนี้ออกนวนิยายใหม่ชื่อ อัญมณีทะเลทราย สนใจพบโสภีไปที่บูธ M31

แฟนหนังสือของ ขจรฤทธิ์ รักษา สนพ.บ้านหนังสือ อยู่โซน C1 บูธ O25 มีหนังสือพรานไพร ของ วัธนา บุญยัง ยังมีผลงานของบุหลัน รันตี สนองความต้องการนักอ่านเรื่องเกี่ยวกับพรานไพรชื่อ แรดที่เมียว–มอลาขะ สนุกสนานอย่างไรต้องพิสูจน์กันเอง เห็นการันตีด้วยข้อความว่า ขายดีอันดับหนึ่งของบูธเลยทีเดียว

สนใจเส้นทางธรรม สนพ.สุขภาพใจ อยู่โซน C1 บูธ P22 นอกจากผลงานของท่านพุทธทาสแล้ว ยังมีผลงานสารคดีเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ลาว และอื่นๆ ให้ศึกษากันก่อนที่เราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สารคดีชีวิตมีหลายเล่มที่ ประพันธ์สาส์น อยู่โซน C1 บูธ O16 นอกจากพิมพ์สารคดีที่ได้รับรางวัลชมนาด อย่าง พฤกษามาตา ของชัญวลี ศรีสุโข เป็นการนำเอาลักษณะของต้นไม้ต่างๆ มาเปรียบเทียบกับแม่ที่ดูแลลูกๆ นับเป็นวิธีการที่น่าสนใจ ขณะเดียวกันผู้อ่านก็ได้รับความรู้ไปพร้อมๆกัน

แม้ คำพูน บุญทวี จะจากไปหลายปีแล้ว แต่เจ้าของเจ๊กบ้านนอก กิมหลั่น คู่ชีวิต ก็ยังปักหลักสู้อยู่ในวงการหนังสือ สนพ.โป๊ยเซียนของเธออยู่โซน C1 บูธ N35 สนใจงานของ คำพูน บุญทวี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นวนิยายรางวัลซีไรต์เล่มแรกของประเทศไทย ลูกอีสาน ดิ่งไปบูธนี้ไม่ผิดหวัง

แฟนๆของ พี.วาทิน พับลีเคชั่น หรือหนังสือเครือต่วย’ตูน อยู่โซน C1 บูธ O12 นอกจากนิตยสารต่วย’ตูนแล้ว ยังมีหนังสือเล่มให้เลือกซื้อหา คนที่พลาดอ่านนิตยสารทั้งเล่มเล็กและใหญ่ งานนี้ วาทิน ปิ่นเฉลียว สั่งให้ลูกน้องนำมาเสิร์ฟให้ถึงมือในราคามิตรภาพ

หนังสืออ้างอิงได้อย่างมีมาตรฐานต้องราชบัณฑิตยสถาน อยู่โซน C2 บูธ R33 มีหนังสือวรรณคดี สุภาษิต สำนวนไทย และหนังสืออ้างอิงต่างๆ เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป หนังสือแนวนี้ปกติจะไม่ค่อยลดราคา ดังนั้น ช่วงนี้ถือว่าเป็นโอกาสทอง

สนใจงานเขียนของ ประชาคม ลุนาชัย นอกจากเรื่องสั้น นวนิยายแล้ว ยังมีสารคดี เวียดนามแผ่นดินหลังสงคราม เป็นสารคดีเล่มล่าสุด เพิ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆ มีแง่งามของการมองโลก ชีวิต และประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างน่าสนใจ ตรงไปที่นานมีบุ๊คส์ อยู่ใน Plenary บูธ A12

สถาพรบุ๊คส์ อยู่ใน Plenary บูธ B02 มีหนังสือหลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้น นวนิยาย หนังสือวัยรุ่น สารคดี ธรรมะ และยังมีหนังสือ ชีวิตมีไว้ก้าวเดิน ผลงานของ วรพันธ์ โลกิสถาพร เจ้าสำนักอีกด้วย และไม่ห่างกันนัก วินทร์ เลียววารินทร์ นำผลงานซีไรต์ทั้ง 2 เล่ม และผลงานอื่นๆอีกเพียบ มาอยู่ใน Plenary บูธ I18 สำนักพิมพ์ Monopoet ของ เอก อัคคี มีนวนิยายที่ไม่น่าพลาดคือ หมอผีเอ็กซ์ซอร์ซิสต์ นวนิยายสยองขวัญคลาสสิก ถ่ายทอดเป็นภาษาไทย ด้วยสำนวนพิณ ผาคอ และมีหนังสืออื่นๆอีกเพียบ

ภาพรวมของงานหนังสือก่อนปิดฉากวันที่ 26 ตุลาคมนี้ นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ บอกว่า ครึ่งทางของงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ในแง่ของผู้ร่วมงาน เพราะแค่ 6 วันแรก ก็มีผู้เข้าชมงานประมาณ 1.2 ล้านคนแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและเยาวชน รองลงมาคือวัยทำงาน แม้ว่ายอดซื้อหนังสือต่อคนจะลดลงบ้างก็ตาม

และบอกว่า ปกติงานหนังสือจะมีหนังสือใหม่ออกราว 300 ปก แต่งานนี้ออกมาราว 500 ปก และมีการออกหนังสือเป็นบ็อกซ์เซ็ตมากกว่าปีก่อนๆ และบอกว่า ยอดการซื้อหนังสือต่อคนลดลงอย่างค่อนข้างเห็นได้ชัด จากที่เคยซื้อกันคนละประมาณ 5-10 เล่ม เหลือประมาณคนละ 3-6 เล่ม

ส่วนเทรนด์หนังสือที่มาแรงในครั้งนี้ คือหนังสือที่นักเขียนต่อยอดผลงานของตัวเองจากโลกออนไลน์ การที่มีคนมางานหนังสือมาก นายกสะกิดรัฐบาลว่า น่าจะเป็นตัวเลขที่ทำให้รัฐบาลมองบ้างว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร คนต้องการอะไรจากประเทศนี้ และน่าจะเป็นความเห็นหนึ่งที่ส่งถึงรัฐบาลได้ว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเหลียวมามองอุตสาหกรรมหนังสือบ้าง เพราะว่า “รัฐมีหน้าที่สร้างคนให้เป็นคนคุณภาพ” นายจรัญทิ้งท้าย.

ขอบคุณที่มา : http://www.thairath.co.th/content/458661