สี่แยกตลาดเทเวศน์ที่จอแจไปด้วยรถรา ร้านขายยา โชห่วยของอาม่า และแม่ค้าที่หาบเร่ขายของ แต่หากใครได้เดินผ่าน “ร้านบุ๊คบุรี” ร้านหนังสือหนึ่งคูหาที่ซ่อนตัวอย่างเงียบเชียบในตึกแถวริมคลองผดุงฯ คงจะแปลกใจในอารมณ์ผ่อนคลายที่ขัดแย้งกับสภาพภายนอก จนเผลอก้าวเท้าเข้าไปหยิบนิตยสารมาอ่าน ไล่สายตาไปตามชั้นหนังสือที่เรียงรายอย่างเพลิดเพลิน
พิมพ์-พิมพ์สุดา วรพงศ์พิเชษฐ หญิงสาววัย 28 ปีเจ้าของร้านหนังสือชื่อคล้ายเมืองในนิทาน พร้อมเปิดประตูให้เราเข้าไปผจญภัยในโลกหนังสือที่เธอสร้างขึ้นมากับมือ
ก่อนจะมาเป็นร้านหนังสืออิสระ แต่เดิมที่นี่เป็นร้านขายยา แล้วพ่อพี่เช่าห้องแถวอีกที่ไว้ขายนิตยสาร การ์ตูน หนังสือเก่า และหนังสืออนุสรณ์งานศพ ขายดีมาก แต่ติดว่ามีค่าเช่า เราเลยจะย้ายกลับมาที่ของเราเอง ทีแรกกะจะทำร้านขายยาและขายหนังสือด้วย แต่สรุปว่าทำร้านหนังสืออย่างเดียวดีกว่าเพราะรอบๆ นี้มีร้านขายยา 2 ร้านแล้ว
เรายังต้องคงส่วนของนิตยสารไว้อยู่เพราะมีลูกค้าประจำที่ซื้อกันมาประจำ 10 ปี แต่พี่จะดูแลส่วนพ็อกเก็ตบุ๊ค เราผูกพันกับหนังสือตั้งแต่เด็ก ชอบอ่านเรื่องสั้น นวนิยาย วรรณกรรมไทยอยู่แล้ว และเคยทำงานเป็นบรรณาธิการหนังสือเด็กและวรรณกรรมเยาวชนมาก่อนด้วย
มันเป็นจังหวะชีวิตเหมือนกันที่เราพักจากทำงานประจำพอดี ตั้งใจจะเปิดให้ครอบครัวทำไปก่อนแล้วเราไปหางานทำ แต่พอเปิดร้านในช่วงงานสัปดาห์ร้านหนังสืออิสระครั้งที่ 2 ก็ต้องผลักดันไปให้สุดทางก่อน
อยากอ่านแนวไหน ที่นี่มีครบเสมอ ความตั้งใจคือเราอยากขายวรรณกรรมเด็กสำหรับช่วง Pre-Teen (8-14 ปี) ก็อาศัยคอนเนคชั่นจากที่ทำงานเก่า ไม่ได้ขายดีขนาดนั้นหรอก แต่เราอยากให้มีในร้าน ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พวกนี้จะยอมซื้อขาดมาเลย อย่าง 'เจ้าชายน้อย' ก็ต้องไปตามหามาให้ได้
แต่จะขายแนวเดียวก็อยู่ไม่ได้ ก็เพิ่มหมวดอื่นขึ้นมา เอาความชอบของตัวเองทั้งหมด อย่างวรรณกรรม-เรื่องสั้นไทย วรรณกรรมแปลคลาสสิก สังคมการเมือง ปรัชญา ไปจนถึงสืบสวนสอบสวน แต่จะไม่มีนวนิยายรักลูกกวาด ยอมรับว่าเรายังอ่านไม่ครบทุกแนวจริงๆ อย่างวิชาการเราไม่ถนัด ก็อาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมมา เราจะรู้ว่าสำนักพิมพ์นี้เด่นด้านอะไรและควรเลือกเล่มไหน เช่น มติชนเด่นด้านสารคดี อีกอย่างคือศึกษาเพิ่มเติมจากที่ลูกค้าแนะนำ
บุ๊คบุรีโดดเด่นด้วยวรรณกรรมเยาวชน
เราพยายามหาหนังสือดีๆ มีให้ทุกคนที่อยากอ่าน ถ้ามีน้อยแนวเกินไปก็เสียโอกาสในการขายด้วย อยากได้เล่มไหน เราจะไปหามา ถึงมีลูกค้าคนเดียวเราก็พยายามเปิดหมวดใหม่ให้ และหนังสือในร้านเราสั่งเองทุกเล่ม
คาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร น่าจะเป็นร้านที่ดูเป็นกันเอง เราไม่สามารถติดกระจก ติดแอร์ได้จริงๆ เพราะคนย่านนี้ยังกลัวที่จะเข้าร้านแบบนั้น ขนาดแต่งร้านอย่างนี้เขายังไม่ค่อยกล้าเข้าเลย แต่อนาคตถ้าอยู่ได้แล้วก็อาจต้องติด กันฝุ่น กันร้อน มีเวลาเลือกหนังสือนานๆ ตั้งใจว่าจะเปิดชั้นบนให้เป็นห้องจัดกิจกรรม มีขายอาหารและขนมด้วย
ย่านนี้มีข้อดีคือจริงๆ มาง่ายนะ มีสถานที่สำคัญรายรอบ และคนพลุกพล่าน แต่ข้อเสียคือเป็นชาวบ้านเสียเยอะ เขาก็จะไม่ค่อยอ่านหนังสือแนวนี้ ลูกค้าเราจริงๆ ก็มีข้าราชการ นักศึกษาบ้าง ชาวบ้านก็มีแต่จะน้อย และอยากให้วัยรุ่นเข้าร้านเรามากกว่านี้ ก็พยายามจัดร้านให้โล่งๆ มาคุยกันเฉยๆ ก็ได้ เป็นความกันเองที่เราอยากให้เขาได้ผูกพันกับหนังสือ มาหยิบจับดูว่ามีแนวนี้ด้วยนะ เผื่ออนาคตเขาจะอยากอ่านขึ้นมา
เปิดร้านหนังสือคือฝันหวาน?
ร้านเรายังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่เดือนที่ผ่านมาดีขึ้นเพราะเป็นช่วงใกล้งานสัปดาห์ร้านหนังสืออิสระ ก็อาศัยการโปรโมทจากนักเขียนที่จะมาเสวนาที่ร้าน
ปัญหาอีกอย่างคือเรายังนับสต็อกกันด้วยมือ เพราะถ้าให้ลงทุนซื้อโปรแกรมสแกนบาร์โค้ดก็ราคาสูงไป ซึ่งพี่สัมผัสแล้วว่ามันวุ่นวายมาก เราก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่ให้สำนักพิมพ์สบายใจ ส่งเงินให้ตรงเวลา การรักษาเครดิตสำคัญมากนะ ถ้าเราทำเสียร้านนึงก็เสียกันไปทั้งหมด
ส่วนเรื่องกำไร ในทีแรกเราก็มีความหวังนะ ไปแตะยอดสูงมากครั้งที่ไปออกบูธแทนก็องดิดด์ในงาน Noise Market ที่มิวเซียมสยาม เราพบว่าเด็กวัยรุ่นอ่านหนังสือเยอะมาก ดีใจมาก ตอนนั้นก็พีคสุด แต่พอเข้าปีนี้ก็นิ่งเลย ตกลงมาเรื่อยๆ ยอดขายก็อยู่ได้แค่ค่าไฟกับค่ากินอยู่นิดหน่อย แต่ร้านเราทางนิตยสารยังเป็นหลักก็พออยู่ได้แหละ และที่นี่เป็นบ้านเราก็ไม่เป็นไร ถ้ามีค่าเช่าคงไม่รอดเหมือนกัน
ร้านหนังสือเป็นความฝันของนักอ่าน แต่คุณต้องรู้ความจริงที่โหดร้ายของมันด้วยนะ เราทำมาก็รู้ซึ้งอะไรหลายๆ อย่าง แต่ใจยังอยากทำอยู่ ต้องสุดจริงๆ ถึงขั้นล้มละลายล่ะมั้งถึงจะเลิก ซึ่งเราก็พยายามเพลย์เซฟที่สุด จะไม่กู้ยืมอะไรและรับผิดชอบเท่าที่เราทำได้
พิมพ์สุดากับเมืองที่มีแมวเป็นนักอ่าน
ความสุขในร้านหนังสือของตัวเอง มันก็คงจะทุกข์สุขล่ะนะ สุขที่ได้ทำตามความฝันแต่มันก็ไม่ได้มีความสุขขนาดนั้นหรอก คนเราพอถึงจุดหนึ่งก็จะรู้สึกธรรมดากับทุกอย่าง อาจเพราะเราโตขึ้น...แต่ก่อนทำหนังสือเล่มนึง เราตื่นเต้นมาก พอจบแล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมดาน่ะ ไม่ใช่เรื่องมีความสุขมาก แต่เราโอเค คนทำงานทุกคนน่าจะมีงานในส่วนที่ชอบและไม่ชอบ แต่งานอะไรที่เราจะอยู่ไปได้ตลอดชีวิตล่ะ
FIND IT: ร้านหนังสือบุ๊คบุรี (เปิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2557) 102/3 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ (ใกล้สี่แยกเทเวศน์) Tel. 02-2824916
ขอบคุณที่มา : http://krungthep.coconuts.co/2015/06/19/indybookstoretales