1. สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองให้ได้
การเรียนสิ่งใด โดยไม่มีแรงบันดาลใจนั้น ไม่มีทางที่จะทนอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งนั้นได้นาน เพราะเราจะไม่รู้สึกว่าเนื้อหานั้นมันดึงดูด น่าสนใจ หรือน่าติดตาม ทำให้เมื่ออ่านเนื้อหาเหล่านั้น อ่านได้แปปเดียวก็เบื่อ ง่วง และเลิกอ่าน ทางแก้คือต้องสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งอาจทำได้โดยจินตนาการถึงเป้าหมายของตัวเองในอนาคต เช่น ถ้าอยากเป็นวิศวกร ก็จินตนาการถึงการที่ตนเองสามารถสอบเข้าคณะวิศวะที่มุ่งหวังได้ ถ้าอยากเข้าเตรียมอุดม ก็จินตนาการว่าถ้าตนเองสามารถสอบเข้าเตรียมอุดมได้ มันจะเป็นเรื่องที่ดีขนาดไหน เพียงแค่คิดถึงเป้าหมายที่เราต้องทำให้ได้แล้วนั้น ก็จะทำให้เรามีแรงฮึดในการอ่านหนังสือขึ้นมาก
2. มองคนที่เหนือกว่า
มองคนที่เหนือกว่าหมายความว่าให้เปรียบเทียบตัวเองกับคนที่เก่งกว่า เปรียบเทียบให้เราได้คิดว่า เราเองยังเก่งน้อยกว่าเขามาก ถ้าเรายังเก่งได้แค่นี้ แล้วเราจะสอบแข่งขันสู้กับคนอื่นๆในการสอบเข้าได้อย่างไร แล้วความฝันที่เคยหวังไว้จะเป็นจริงได้อย่างไรกันละ การเปรียบเทียบแล้วคิด จะทำให้เรามีกำลังใจในการอ่านหนังสือต่อไปได้
3. อ่านกับเพื่อน
ถ้าอ่านคนเดียวแล้วมันขี้เกียจอ่าน ไม่มีสมาธิ ก็ชวนเพื่อนๆมาอ่านด้วยกันดูสิ แต่เพื่อนๆที่ชวนมาควรจะเป็นเพื่อนๆที่ขยันนะ เอาแบบที่ว่า เมื่อมานั่งอ่านกับเราแล้วทำให้เรารู้สึกว่า “ยังเลิกอ่านไม่ได้ เพราะเพื่อนมันยังไม่เลิกอ่านเลย ทั้งๆที่มันรู้มากกว่าเราด้วยซ้ำ” หาเพื่อนแบบนี้มานั่งอ่านด้วย เพื่อเพิ่มความกดดัน ลดความขี้เกียจอ่านหนังสือ
4. อย่าอ่านตอนบ่าย
ถ้าเป็นไปได้ อย่าอ่านหนังสือช่วงบ่าย เพราะจะง่วงมาก พอง่วงแล้วต้องอ่านหนังสือ ก็จะทำให้ไม่มีสมาธิ ในสมองก็คิดแต่ว่า “หรือเราจะพักแปปนึงดีนะ” ก็พานขี้เกียจอ่านหนังสือ อยากนอนพัก สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรจากการอ่านหนังสือไปเลย เพราะฉะนั้นอย่าอ่านหนังสือตอนบ่าย แต่ควรอ่านช่วงเช้าจะดีที่สุด เพราะช่วงเช้าสมองเราจะโล่ง และแล่นมากที่สุด ทำให้อ่านหนังสือแล้วมีสมาธิ ไม่หลุดเนื้อหา มีประสิทธิภาพการอ่านที่ดีที่สุดแล้ว
5. อาจจะต้องหาความท้าทาย
กรณีที่ต้องใช้วิธีนี้คือกรณีที่สิ่งที่น้องๆอ่านนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายเกินไป รู้เรื่องหมดแล้ว ทำให้รู้สึกเบื่อ ขี้เกียจอ่านหนังสือ วิธีแก้ไขคือหาความท้าทาย เช่น ถ้าหากว่าโจทย์คณิตศาสตร์นั้นง่ายเกินไปสำหรับเราจนน่าเบื่อ ก็ลองหาโจทย์ที่ยากกว่ามาทำ อาจจะนำโจทย์ สสวท.มาทำเลยก็ได้ ถ้าเนื้อหาฟิสิกส์ที่อ่านนั้นง่ายเกินไป ก็หาสิ่งที่ยากขึ้นมาอ่าน อาจจะหาหนังสือฟิสิกส์ระดับมหาวิทยาลัยที่เขียนในเรื่องเดียวกันแต่ลึกกว่ามาอ่านก็ดีนะ
6. อย่าอยู่ในท่าที่สบายเกินไป
หลายๆคนเมื่ออ่านหนังสือก็จะไปนอนอ่านบนเตียง หรือบนโซฟา อ่านไปสักพักก็เริ่มสบายตัว เริ่มง่วง เริ่มหลับ แล้วสุดท้ายก็ขี้เกียจจะอ่าน อยากนอน ซึ่งทางแก้ของปัญหานี้ง่ายมาก คือไม่นอนอ่าน หรือนั่งอ่านบนโซฟาที่เอนตัวพิงจนเกือบนอนได้ แต่ให้อ่านบนโต๊ะทั่วไปนี่แหละ การอ่านบนโต๊ะนั้นจะช่วยให้มีสมาธิ ไม่ง่วง และไม่ขี้เกียจจะอ่านหนังสือได้
7. อย่าลืม ให้กำลังใจตัวเอง
แม้หลายๆครั้งการที่จะขยันได้ เราจำเป็นต้องสร้างสถานการณ์มากดดันตัวเองเพื่อสร้างแรงฮึดต่อไป แต่อย่างไรก็ตามกำลังใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เราอ่านต่อไปได้เช่นเดียวกับแรงกดดัน เพราะฉะนั้นให้กำลังใจตัวเอง คิดว่าเราต้องทำได้ คิดว่าอดทนอีกนิดมันก็จะสำเร็จแล้วนะ ทำอย่างนี้เสมอก็จะมีแรงอ่านหนังสือขึ้นเยอะเลยล่ะ
ขอบคุณที่มา : http://www.top-atutor.com/15126918/7-วิธีแก้นิสัยขี้เกียจอ่านหนังสือ