ในวินาทีแรกที่ข้าพเจ้าเห็นปกของนิยายเรื่อง Cupid Valentine ต้องมนต์รักนายคิวปิดข้าพเจ้ารำพึงรำพันในใจว่านิยายเล่มนี้คงเป็นนิยายรักหวานแหววอ่านแล้วชวนจั๊กจี้หัวใจเป็นแน่แท้ มิหนำซ้ำข้าพเจ้ายังอดไม่ได้ที่จะริษยาผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวบนหน้าปกหนังสือเล่มนี้ สาเหตุเพราะรอบกายของเธอรายล้อมไปด้วยผู้ชายถึงสามคน ข้าพเจ้าเดาว่า B.pearl ผู้เขียนคงจะสร้างสถานการณ์บีบบังคับให้เธอผู้นี้ต้องเลือกชายคนใดคนหนึ่งเข้าในสักวันแน่นอน
ทว่าข้าพเจ้าคิดผิดมหันต์ เรื่องราวในนิยายเล่มนี้ไม่มีฉากให้เธอหรือวาเลนไทน์ต้องตัดสินใจเลือกใคร แต่กลับกลายเป็นว่ามีแต่ฉากที่เธอถูกชายผู้เป็นที่รักผลักไสไล่ส่งให้ไปกับผู้ชายอีกคนแทนโดยเนื้อหาในนิยายเล่มนี้ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครเอกฝ่ายหญิงชื่อวาเลนไทน์ หญิงสาวผู้น่าสงสารที่ชีวิตทั้งดีและร้ายมักจะผูกติดกับวันวาเลนไทน์เสมอ เธอต้องหาเงินส่งเสียตัวเองให้ได้ร่ำเรียนหนังสือไปพร้อมกับต้องหาเงินใช้หนี้แทนพ่อซึ่งติดเหล้าและการพนันงอมแงม ส่วนแม่ของเธอหนีไปกับผู้ชายข้างบ้านเพราะทนให้พ่อตบตีไม่ไหว
จุดสำคัญของตัวละครตัวนี้คือสถาบันครอบครัวของเธอแตกแยก...ไม่อบอุ่น จนถึงตอนนี้ข้าพเจ้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวาเลนไทน์จึงเติบโตเพียงลำพังได้อย่างแข็งแกร่งจนกลายเป็นแข็งกระด้างและค่อนข้างจะก้าวร้าวพอสมควร โดยข้าพเจ้าสังเกตและวิเคราะห์จากบทสนทนาของเธอและพ่อในหน้า 128
“พ่อสัญญา พ่อจะไม่ทำให้ลูกเดือดร้อนอีก แล้วนี่เมื่อไหร่ไทน์จะย้ายกลับมาอยู่กับพ่อล่ะ”
“ติดเหล้า ติดการพนัน ติดผู้หญิง”
“...”
“พ่อทำตามที่คำสัญญานั่นให้ได้ก่อนเถอะ ไทน์ขอพูดตรงๆนะ ไทน์ไม่เชื่อว่าพ่อจะดีได้นาน”
“...”
“นี่เป็นเงินสำหรับเดือนนี้ พ่อรับไปสิ ไทน์จะได้ไปจากบ้านหลังนี้เสียที”
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่วาเลนไทน์ก็ยังถือได้ว่าเป็นคนที่มีความกตัญญูคนหนึ่ง หนำซ้ำเธอยังเป็นตัวละครที่โหยหาความรักถึงขนาดได้พบเจอกับคิวปิด หนุ่มดวงตาสีเทาผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีและอ้อมกอดแสนอบอุ่นเพียงครั้งเดียว เธอก็เอาแต่คิดถึงเขาทุกห้วงคำนึงจนต้องออกตามหาและสร้างสถานการณ์ว่าจ้างคิวปิดให้มาเป็นกามเทพสื่อรักให้กับเธอและผู้ชายที่เธอชี้ส่งไปมั่วๆ เพียงเพื่อจะได้พบเจอกับคิวปิดต่อไป
ในขณะที่วาเลนไทน์เอาแต่ไล่ตามความรักและซื่อตรงต่อความรู้สึกได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย คิวปิดกลับหวาดกลัวความรักและปิดกั้นตัวเอง ทั้งนี้ความเป็นมาของคิวปิดที่ผู้เขียนสร้างปมไว้ทำให้ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าสะเทือนใจเพราะสงสารชายหนุ่มผู้มีหัวใจอบอุ่นยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ในยามเช้าคนนี้
“พ่อแม่ของผมหย่ากันแล้วตกลงเรื่องการเลี้ยงดูกันไม่ได้ จึงเอาผมมาทิ้งไว้ที่นี่ แต่ผมไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจพวกท่านดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เลี้ยงดูผมเองแต่พวกท่านก็มาฝากผมไว้ให้คนที่นี่เลี้ยง” (หน้า197)
‘ความรัก’ เพราะเจ้าสิ่งนี้ทำให้เขาเกิดมา และเพราะเจ้าสิ่งนี้ทำให้เขาต้องมาตกระกำลำบาก ดังนั้น เขาจึงกลัวมัน (หน้า224)
ไม่เพียงแต่ปมหลังของตัวละครเอกทั้งสองตัวที่ทำให้ข้าพเจ้าคอยลุ้นว่าเรื่องราวของคนทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร แต่ยังมีเอ็มเจ ชายหนุ่มที่วาเลนไทน์เคยชี้ส่งให้คิวปิดจับคู่ให้ แต่กลายเป็นว่าเอ็มเจชอบวาเลนไทน์จริงๆในภายหลังเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปร ไหนจะอีรอสวีนัสซีกเกอร์และแบล็กแจ็คสมาชิกของVOLUNTEER CLUBอีกสี่คนที่จะเข้ามาปั่นป่วนช่วยคิวปิดคิดแผนการต่างๆนาๆเพื่อสร้างสถานการณ์ให้วาเลนไทน์กับเอ็มเจได้ใกล้ชิดกัน
นอกจากบุคคลที่ข้าพเจ้ากล่าวมาก็ยังมีตัวละครอื่นโผล่มาสร้างสีสันให้แก่เนื้อเรื่องเรื่อยๆ แม้ว่าตัวละครในนิยายจะมีค่อนข้างเยอะ แต่ผู้เขียนก็ทำให้ข้าพเจ้าแยกแยะความสำคัญของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างง่ายดาย โดยสังเกตจากชื่อของตัวละคร หากชื่อมาจากคำในภาษาอังกฤษก็จะเป็นตัวละครสำคัญ แต่ถ้าหากชื่อมาจากคำในภาษาไทยก็จะเป็นตัวละครประกอบ (เช่น ป้าแก้ว เจ้าของต้นแก้ว อพาร์ทเมนท์ ป้าเพ็ญ คนดูแลเรื่องพนักงานที่โรงแรมของอีรอส)
ไม่เพียงตัวละครคับคั่งที่มาสร้างความหรรษาเท่านั้น แต่ยังมีการใช้ภาษาและการดำเนินเรื่องที่ผู้เขียนจัดวางไว้อย่างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนทว่าน่าติดตามเสียจนข้าพเจ้าต้องคอยลุ้นอยู่บ่อยครั้งว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางใด ตัวละครแต่ละตัวจะคิดแก้ปัญหาหรือแสดงออกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละเหตุการณ์
แล้วข้าพเจ้าแทบไม่อยากเชื่อว่าข้าพเจ้ากำลังอ่านนิยายรักหวานแหววของวัยรุ่นอยู่เพราะตัวละครหลายตัว โดยเฉพาะวาเลนไทน์ซึ่งมีความหนักแน่น ตรงไปตรงมา มีคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่และมีการตัดสินใจที่จริงจังมั่นคงอย่างน่าประหลาด นอกจากความสนุกสนานเพลินเพลินที่ได้จากนิยายเรื่องนี้แล้วยังมีข้อคิดเกี่ยวกับชีวิตและความรัก ซึ่งข้าพเจ้าประทับใจฉากที่อีรอสสนทนากับคิวปิดในหน้า223เป็นพิเศษ
“ความสุขของเธอคืออะไรเหรอ”
“...”
“คือการที่มีเงิน มีข้าวกิน ซื้อของดีๆ ใส่ มีบ้านหรูๆ สักหลัง แล้วก็มีคนที่รักเธออย่างนั้นใช่ไหม”
“...”
“ใช่ นั่นคือความสุขของเธอ แต่ความสุขของพี่คือการได้อยู่กับวีนัส การที่ได้เห็นพวกเธอ คิวปิด แบล็กแจ็ค ซีกเกอร์ เติบโตขึ้นอย่างงดงาม การที่ได้อยู่กับคนที่พี่รักและเห็นพวกเขายิ้มแย้มอย่างมีความสุข นั่นคือความสุขของพี่ เห็นไหมว่าความสุขของคนเราน่ะ มันแตกต่างกัน แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าการที่เธอทำแบบนี้แล้ววาเลนไทน์จะมีความสุข”
อย่างไรก็ดี นิยายเรื่องนี้ยังมีคำผิดให้พอได้สังเกตเห็นอยู่บ้าง ข้าพเจ้าจึงจะขอยกมาเป็นตัวอย่างเพียงสักหน่อย เช่น ยันไม่ทัน ควรแก้เป็น ยังไม่ทัน เสื้อเชื้ตควรแก้เป็น เสื้อเชิ้ต
หากแต่โดยรวมแล้วคำผิดเพียงเล็กน้อยที่นานๆทีจะโผล่มาให้เห็นไม่ได้บั่นทอนความน่าติดตามหรือพลอยทำให้นิยายเสียอรรถรสแต่ประการใด ดังนั้นหากผู้อ่านท่านใดที่กำลังมองหานิยายวัยรุ่นวุ่นรักที่ไม่ได้มีแต่ฉากหวานแหววชวนจั๊กจี้หัวใจเพียงอย่างเดียว Cupid Valentine ต้องมนต์รักนายคิวปิด ก็นับเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย แล้วท่านผู้อ่านจะได้พบกับความรักอีกรูปแบบหนึ่งของคิวปิดและวาเลนไทน์ที่น่าประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านิยายรักเรื่องใด
นางสาวปนัดดา อรรคฮาตสี (อ๋อมแอ๋ม)