ปราบดา หยุ่น : คว้ารางวัลซีไรท์ประจำปี 45

ปราบดา หยุ่น

แล้วเด็กที่ชอบวาดรูปและเขียนหนังสือก็เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถในการเขียนจนสามารถคว้ารางวัลซีไรท์ประจำปี 45 นี้ไปครอบครองไว้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังมีความสามารถในการสร้างสรรค์งานอีกหลากหลายรูปแบบ ประกอบกับบุคคลิกที่แสดงออกด้วยความมั่นใจ จึงถูกจับตามองให้เป็นแบบฉบับของคนยุคใหม่ในปัจจุบันนี้ …ปราบดา หยุ่น

ปัจจุบันเห็นทำงานหลายอย่างมากเลย ถ้าตั้งคำถามว่า ปราบดาเป็นอะไร
จะตอบอย่างมั่นใจได้เลยไหมคะว่า เป็นนักเขียน ในบรรดางานทั้งหมดที่ทำ จะรู้สึกว่างานเขียนเป็นงานที่ให้ความสุขได้เต็มที่ที่สุด คืองานอื่นก็ชอบ แต่ว่าบางอย่างเป็นแค่ชอบเพราะความสนุก แต่ว่างานเขียน ผมรู้สึกว่าผมได้ประโยชน์จากมันมากกว่านั้น และเมื่อได้คุยกับคนอ่านหรือรู้ว่าการสื่อสารของเราไปถึงคน มันยิ่งทำให้มีความอิ่มเอมมากกว่างานอื่น ๆ งานอื่น ๆ ที่ทำเพราะว่าเป็นสิ่งที่ชอบและก็ถนัดแต่ไม่ทำก็ได้ ไม่ทำก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องเกิดอาการคันที่จะทำ แต่ว่าในขณะที่งานเขียนถ้าไม่ได้ทำแล้วสักพักหนึ่งก็จะรู้สึกว่าอยากจะทำ

เรียกได้ว่าเป็นงานหลักหรือเปล่าคะ
คือถ้าจะนับเวลามันก็เท่า ๆ กันนะครับ ผมทำงานอื่น ๆ ก็ให้เวลาพอ ๆ กันเพียงแต่ว่างานเขียนจะมีความผูกพันมากที่สุด

ทราบว่ากำลังจะมีผลงานนิยายออกมา แล้วไม่ทราบว่างานเขียนแนวอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยเขียนเลย มีแนวโน้มว่าจะเขียนอะไรออกมาอีกบ้างไหม เช่น สารคดี วรรณกรรมเยาวชน ฯลฯ
ไม่มีงานไหนที่ไม่ถึงกับว่าไม่เคยเขียนเลยนะครับ แต่ว่าอาจจะเคยเขียนในลักษณะที่ไม่ได้รวมออกมาเป็นเล่ม สารคดีท่องเที่ยวก็เคยเขียน วรรณกรรมเยาวชนที่จริงก็คิดจะเขียนอยู่และก็อาจจะเขียนได้ในเร็ว ๆ นี้ คือในความเป็นจริงแล้วผมเขียนเกี่ยวกับทุกแนวอยู่แล้ว แต่ว่ามันกระจัดกระจาย เขียนเป็นคอลัมน์บ้าง เขียนเป็นเฉพาะกิจบ้าง ยังไม่ได้รวมออกมาเป็นเล่มเท่านั้นเอง ก็จะมีงานกวีที่อาจจะมีน้อยหน่อยและก็ยังไม่ได้ทำจริงจัง

ชอบไหมคะ
ชอบมากแต่ว่ายังหาเนื้อหาหรือว่าสาระที่คิดว่าเหมาะกับการเป็นกวีในยุคสมัยนี้ เหมาะที่จะเขียนออกมาเป็นกลอน ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ก็เลยยังไม่ได้เขียนจริงจัง จะพยายามแทรกอยู่บ้างในเรื่องสั้นหรือว่าในบทความที่เราเขียน

แล้วความเป็นไปได้ในการจะเขียนวรรณกรรมเยาวชนแบบแฮร์รี่ พ็อตเตอร์
ถ้าจะเขียนวรรณกรรมเยาวชนคิดว่าอันดับหนึ่งเลย ต้องคำนึงถึงความสนุกและความบันเทิงของเยาวชนที่จะได้อ่านจริง ๆ ไม่ใช่วรรณกรรมเยาวชนเพื่อให้ผู้ใหญ่อ่าน เพราะฉะนั้นผมคิดว่าในแนวทางอย่างแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ซึ่งเน้นความสนุกในการดำเนินเรื่องและก็เน้นตัวละครที่เป็นเด็กก็เป็นแนวทางที่เหมาะสมแล้วสำหรับวรรณกรรมเยาวชน แต่ว่าในด้านเนื้อหาหรือว่าสาระก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้

ในฐานะที่ปีนี้ได้เป็นนักเขียนรางวัลซีไรท์ ถ้าอยากจะให้รณรงค์เกี่ยวกับเรื่องวรรณกรรมไทยพี่คิดว่าอยากจะทำอะไรมากที่สุด
ความจริงปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับการอ่านหนังสือของบ้านเราก็คือเรื่องห้องสมุด ผมคิดว่าเรายังมีค่อนข้างน้อย หรือที่มีก็ไม่เหมาะสมหรือว่าไม่ดึงดูดคนอ่านเท่าที่ควร คนนึกถึงห้องสมุดก็ยังนึกถึงภาพหนังสือเก่า ๆ ที่อยู่ในบรรยากาศอึมครึมและก็เคร่งเครียด หรือว่าหายากอะไรทำนองนี้นะครับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในห้องสมุดไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น และผมก็เคยใช้ช่วงชีวิตในสมัยที่เป็นนักศึกษาเข้าห้องสมุดทุกวันและก็สนุกมากกับการที่ได้นั่งในห้องสมุดเมื่อมีเวลาว่าง ฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ถ้ามีผู้สนับสนุนอย่างจริงจังในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาล หรือว่าผู้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการศึกษานะครับ เราควรจะมีห้องสมุดเล็ก ๆ คือไม่จำเป็นต้องเป็นห้องสมุดใหญ่โต ไม่ต้องถึงกับว่าปรับเปลี่ยนหรือปฏิวัติหอสมุดแห่งชาติ เพียงแต่ว่ามีห้องสมุดเล็ก ๆ ที่มีขนาดคล้าย ๆ ร้านหนังสือแต่ว่ามีอยู่ทั่ว ๆ ไปครับ ในเมืองจุดที่สำคัญ ๆ หรือว่ากระจายออกไปอยู่ต่างจังหวัดในเมืองใหญ่ ๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่น่าจะทำให้คนมีทางเลือกมากขึ้นที่จะได้อ่านหนังสือโดยไม่ต้องซื้อหรือว่าไม่ยากลำบากจนเกินไป

ปกติชอบเดินทางท่องเที่ยวไปที่ไหนเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าคะ
เวลามีโอกาสได้ไปคุยกับนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดผมจะชอบมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ไม่จำกัด แต่ถ้าไปเที่ยวก็จะไปเพื่อพักผ่อนจริง ๆ ไม่ใช่ไปตะลุยเที่ยว จะเลือกไปทะเลหรือว่าไปทางเหนือก็ได้ แต่จะอยู่เฉย ๆ อ่านหนังสือมากกว่า

ไม่มีที่ไหนเป็นพิเศษสักที่หรือคะ
ที่ไปบ่อย ๆ ก็จะเป็นแถวหัวหิน แต่ก็จะชอบทะเลทางใต้ด้วยเพียงแต่ว่าไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปบ่อย

ชอบเที่ยวทะเลมากกว่าหรือคะ
ไม่เชิงว่าชอบมากกว่าครับ แต่ว่าสบายตากว่าและก็เป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการอ่านหนังสือมากกว่า เหมาะกับการอยู่นิ่ง ๆ มากว่า อยู่ภูเขาเรารู้สึกเหมือนกับต้องมีกิจกรรม คือไปเพื่อสนุกสนาน เพื่อลุย เพื่อเข้าป่าหรือปีนเขาอะไรอย่างนี้ แต่ว่าทะเลเราอยู่นิ่ง ๆ ก็ได้ไม่ต้องทำอะไรมองทะเลไปไกล ๆ

แล้วปรกติเวลาว่าง ๆ พี่จะทำอะไรบ้าง
อ่านหนังสือครับ จริง ๆ ถ้าว่างก็จะขออ่านหนังสือเลย เพราะว่ามีเวลาอ่านหนังสือน้อยมาก

ตอนนี้มีโครงการเรียนต่อบ้างหรือเปล่าคะ
ยังไม่มีเลยครับ…พอแล้ว ผมเป็นคนไม่ติดกับการเรียน คือไม่คิดว่าจำเป็นต้องเรียนสูง ๆ สิ่งที่ผมสนใจผมสามารถศึกษาเองหรือว่าศึกษาจากแหล่งโดยตรง จากผู้รู้โดยตรง หรือจากหนังสือได้ การจะกลับไปอยู่ในบรรยากาศของการไปโรงเรียนอีกครั้ง ไม่นึกอยากเลยครับ ตอนเรียนจบออกมาก็ดีใจมากครับแล้ว

วางโครงการการทำงานในอนาคตไว้อย่างไรบ้างคะ
เรื่องธุรกิจไม่ค่อยคิดหรอกครับ คิดอะไรแบบนั้นไม่เป็น อะไรที่เกี่ยวกับตัวเลขคิดไม่เป็น แต่ถ้าจะพูดถึงงานที่มั่นคงกว่านี้มันก็คงเกิดขึ้นเองตามสภาพชีวิตหรือว่าตามวัยมากกว่า ตอนนี้ก็แค่สนุกกับสิ่งที่ทำอยู่และเวลาว่างก็น้อยมากอยู่แล้ว รู้สึกว่าตอนนี้ก็ทำงานเยอะมากแล้วครับ

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ