แร่ที่มากกว่าธาตุ บทวิจารณ์กวีนิพนธ์ เหมืองชีวิต : บทวิจารณ์โดย นายณัฏฐนันท์ ณ ประสิทธิ์ โครงการ อ่าน เขียน เรียนรู้ สู่ งานวิจารณ์ ปีที่ 9

แร่ที่มากกว่าธาตุ บทวิจารณ์กวีนิพนธ์ เหมืองชีวิต

 แร่ที่มากกว่าธาตุ : บทวิจารณ์กวีนิพนธ์ "เหมืองชีวิต"

     เหมืองชีวิต กวีนิพนธ์ซึ่งว่าด้วยการเปรียบการใช้ชีวิตของใครหลายๆคนเป็นดั่งเหมืองสมมติแห่งหนึ่ง โดย จินตนา ในเฉลียว มีแนวคิดให้ตระหนักถึงความเสี่ยงในการชีวิต กล่อมเกลาให้รู้จักใช้ปัญญาในการหาประโยชน์ให้ ตนเองในทางที่ดี สิ่งของที่มีค่าย่อมลำบากในการแสวงหาสิ่งนั้น ซึ่งกวีเลือกใช้ ฉันทลักษณ์ของกลอนสุภาพ ให้ความรู้เห็นถึงสัจธรรม ความจริงบางอย่างในการใช้ชีวิต มีความเป็นเหตุและผลในตัวของบทประพันธ์

     การทำเหมืองแร่ โดยทั่วไปคือกรขุดหาแร่หรือธาตุซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้แผ่นดิน เพื่อสกัดเอาแร่ที่มีค่ามาใช้ประโยชน์ในการทำสิ่งของต่างๆ ภายในเนื้อความของบทที่หนึ่งมีการกล่าวถึงเหมืองสมมติแห่งหนึ่ง เพื่อชักชวนให้ ผู้อ่านเกิดความตระหนักรู้ มีความสนใจในการดำเนินเนื้อหาของบทกวี ความว่า

                                                       "เหมืองแร่ใหญ่มหึมาคนกล้าขุด       เหมืองสมมติ 'เหมืองชนม์' พิกลกว่า

                                                    เราขุดคุ้ยธรณีเหมืองชีวา                   เพื่อค้นหาสิ่งที่มีใจปอง"
 

 

    จากบทกลอนข้างต้น พึงเห็นได้ชัดว่าผู้ประพันธ์แสดงให้เห็นถึงการขุด 'เหมืองชนม์' ซึ่งเป็นการใช้ศัพท์ที่ความหมายในแนวเดียวกับคำว่า 'เหมืองชีวิต' เป็นการกล่าวเกริ่นนำในให้บทกวีนั้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งยังชวนให้ผู้อ่านเกิดความอยากที่จะทราบว่า 'สิ่งที่ใจปอง' ในบทกวีกล่าวถึงสิ่งใด

     เมื่อผู้บทกวีก่อให้เกิดความสนใจในส่วนของเนื้อหาแล้ว กวีจึงได้กล่าวถึงสาเหตุความเสี่ยงของการขุดเหมืองโดยทั่วไป โดยใช้กลวิธีในการพรรณนาให้เห็นถึงอันตรายภายในเหมือง ก่อให้เกิดความรู้สึกของผู้ที่ทำงานอันตรายได้อย่างเรียบง่ายและเด่นชัด ดังเนื้อความของบทต่อไปนี้

                                                          "การขุดแร่แท้นั้นมันเสี่ยงนัก         ขุดทะลักลึกทะลวงล้วงดินผอง

                                                     เป็นอุมงค์ตรงใต้หินทรายรอง             กว่าจะกรองแร่ได้ดังใจจินต์

                                                          อันตรายหลายอย่างล้วนขวางกั้น    ความกดดัน, อุมงค์ล่ม, จมใต้หิน

                                                     ไม่มีอากาศผ่านผลาญชีวิน                 บางคนลิ้นชีวังเพราะพลั้งไป"

 

         กลเม็ดของผู้ประพันธ์โดยการหลากคำ ในคำว่า 'ชีวิต' รูปแบบที่แตกต่างกันอย่าง 'ชีวิน' และ 'ชีวัง' ทำให้บทกลอนมีความไพเราะ ตอกย้ำและสื่อถึงภัยภายในเหมืองได้อย่างชัดเจนสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีการกล่าวเสริมถึงสาเหตุของการเสี่ยงชีวิตทำงานเหมืองไว้ในบทถัดไป ความว่า

                                                           "นี่คือภัยจากเหมืองมีเรื่องบ่อย    คนยังคอยขุดแร่แน่ไฉน

                                                        วางความหวังว่าจะชนะภัย             เพื่อจะได้แร่บ้างเป็นรางวัล"

         ผู้ประพันธ์ได้แสดงให้เห็นว่า อาชีพที่มีทั้งความกดดัน และความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ แต่ยังคงมีคนคอยทำนั้นเป็นเพราะ 'ความหวัง' ที่จะได้แร่มาเป็นของรางวัล เนื่องจากการขุดแร่นั้นสร้างรายได้อันมหาศาล ทำให้ผู้คนยอมที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้มาด้วยผลตอบแทนนั้น นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนนั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตน ทำให้ผู้อ่านสามารถเห็นภาพถึงกิเลสของมนุษย์ และเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าเนื้อหาในส่วนของการเปรียบเทียบชีวิตมนุษย์กับการขุดเหมือง ตามชื่อของบทกวีว่า 'เหมืองชีวิต'

                                                      "เหมือนเราขุดของดี 'เหมืองชีวิต'     หวังพิชิตภัยผองครองสุขสันต์

                                                       ขุดความสุข, สมหวัง, รักทั้งนั้น        บ้างก็บรรลุบ้างก็ปางตาย"

     บทนี้ได้แสดงให้เห็นถึงกิเลสของมนุษย์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น จากการยอมเสี่ยงเพื่อการขุดความสุข ความสมหวังและความรัก ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่ทั้งแร่หรือธาตุชนิดใด แต่เป็นการเปรียบเสมืนมนุษย์ที่มีความโลภจึงเลือกทำในสิ่งที่ทั้งความเสี่ยงและอันตราย เพื่อหาผลประโยชน์มาสู่ตนเอง มีความสุขในสิ่งที่ต้องการ สมหวังในสิ่งที่คาดหวัง รวมไปถึงความรักที่เข้ามาในชีวิต

                                                          "มีวิชา 'เหมืองแร่' สอนแก่ผู้-      หวังต่อสู้ขุดหินดินทั้งหลาย

                                                          แต่เหมืองชีพนี้ไร้ใครบรรยาย     ทุกคนคล้ายอาจารย์สอนมานตน

                                                            เหมืองชีวีมีทั่วหัวระแหง          แร่ก็แพง มีซุกทั่วทุกหน

                                                   แร่ความสุข, สมหวัง, รัก ฝั่งชนม์       จะขุดค้นพบมันด้วยปัญญา"

     บทสรุปซึ่งกล่าวไว้ในสองบทสุดท้ายของบทประพันธ์ ได้แสดงให้เห็นถึงมุมมองของผู้ประพันธ์ ว่าด้วยเรื่องของชีวิต การขุดหาความสุข ความสมหวัง และความรัก ล้วนขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในของแต่ละบุคคล ปราศจากการสอนหรือบรรยายให้ทราบ แต่สามารถหาได้ทั่วไปด้วย 'มานตน' หรือความพยายามไขว่คว้าหาด้วย 'ปัญญา' ของตนเท่านั้น

    เหมืองชีวิต จึงควรได้กรยกย่องในด้านการพรรณนให้เห็นถึงสัจธรรมของมนุษย์ที่มากไปด้วยปัญญาในการใช้ชีวิต มีความสมบูรณ์แบบด้วยความงามของภาษาและฉันลักษณ์ของกลอนสุภาพ ช่วยให้เกิดความตระหนักรู้ถึงกิเลสภายในจิตใจของตนเอง หากปราศจากปัญญาก็มิอาจทำสิ่งที่ตนเองต้องการหรือคาดหวังได้สำเร็จ

 

บทวิจารณ์โดย นายณัฏฐนันท์ ณ ประสิทธิ์
โครงการ อ่าน เขียน เรียนรู้ สู่ งานวิจารณ์ ปีที่ 9

 

Writer

The Reader by Praphansarn