เมื่อเห็นโพสต์บนเฟสบุ๊คของคุณเรืองเดช จันทรคีรี ว่ามีร้านหนังสืออิสระเปิดใหม่ ชื่อว่า PageOne Reading Space เจ้าของร้านคือ คุณคณาพร สัมฤทธิ์ล้วน ซึ่งเคยเป็นนักเขียนรางวัลชมนาด ครั้งที่ 6 จากผลงานเรื่อง "โลกคู่ขนาน" ประพันธ์สาส์นจึงขอสัมภาษณ์กับคุณคณาพร เพื่อถามถึงการเปิดร้านหนังสือในครั้งนี้
ใจบันดาลแรง
"แรงบันดาลใจมาจากความรักในตัวหนังสือ ตอนเด็ก ๆ เติบโตมากับการอ่านหนังสือ สมัยก่อนทางเลือกด้านความบันเทิงมีไม่มากนัก หนังสือเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย ราคาถูก และที่สำคัญ อ่านหนังสือแล้วสนุก… มีเรื่องสารพัดให้เลือกอ่าน ไม่ว่าจะเรื่องตลกขำขัน เรื่องผจญภัย เรื่องรักโรแมนติค เรื่องสืบสวนสอบสวนไขปริศนาคดีฆาตกรรมต่าง ๆ กระทั่งได้ไปท่องยุทธภพในนิยายจีนกำลังภายใน หรือจะท่องอวกาศ ไปโลกอนาคตกับนิยายวิทยาศาสตร์ มีให้เลือกมากมาย อ่านหนังสือไม่ได้แค่ความสนุกเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ไปด้วยโดยไม่รู้ตัว ได้เรียนรู้อารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร พฤติกรรมและแรงจูงใจ จากการอ่านนวนิยาย วรรณกรรม ที่มีตัวละครหลากหลาย ช่วยให้กลายเป็นคนเข้าใจเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ได้รู้จักวิชาชีพแปลก ๆ ที่ไม่เคยคุ้น สภาพชีวิต ความเป็นอยู่ อาหารการกิน วัฒนธรรมต่าง ๆ การเปิดหนังสือ จึงเป็นเหมือนการเปิดโลก เมื่อเปิดร้านหนังสือจึงเป็นการนำเสนอสิ่งที่ตัวเองรักเป็นอีกทางเลือกให้กับชุมชน เพระยังเชื่อมั่นว่าหนังสือเป็นความบันเทิงที่สนุก และเปี่ยมด้วยความรู้ในหลาย ๆ ศาสตร์ที่เชื่อมโยงอยู่ในนั้น"
และสาเหตุที่เลือกทำเลที่ตั้งนี้ "เปิดร้านหนังสือที่สัตหีบ เพราะเติบโตที่นี่ และมีที่ดินที่เป็นที่ดั้งเดิมของครอบครัว ที่อยู่ในทำเลที่คนเข้าถึงได้ง่ายติดกับสวนกรมหลวงชุมพร หนองตะเคียน ซึ่งเป็นสวนสาธารณะประจำอำเภอ"
ตัวตนและคนที่ใช่
" หนังสือของทางร้านมีหนังสือสามกลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มแรกเป็นหนังสือใหม่จำหน่ายตามราคาหน้าปก มีทั้งวรรณกรรมร่วมสมัยทั้งจากนักเขียนไทยและต่างชาติ วรรณกรรมเยาวชน หนังสือเด็ก สารคดีทั่วไป และท่องเที่ยว กลุ่มที่สอง หนังสือมือสองจำหน่ายในราคาที่ไม่สูง กลุ่มที่สาม หนังสือสะสมที่ให้คนมาที่ร้านหยิบนั่งอ่านได้
ส่วนกลุ่มลูกค้าของร้านจัดกลุ่มง่าย ๆ แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นนักอ่านที่เป็นนักอ่านจริง ๆ กลุ่มนี้มีทั้งที่เป็นนักเรียน คนหนุ่มสาวในวัยทำงาน และผู้ใหญ่ เข้ามาตั้งใจนั่งอ่านหนังสือ และหาเลือกซื้อหนังสือกลับไปอ่าน กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มคุณพ่อคุณแม่ที่อยากสนับสนุนให้ลูกรักการอ่าน จะพาลูกเล็ก ๆ เข้ามานั่งอ่านหนังสือกับลูก กลุ่มที่สามเป็นกลุ่มที่ชอบบรรยากาศร้าน เข้ามานั่งดื่มเครื่องดื่ม ทานขนม พบปะเพื่อนฝูง นั่งทำงาน ถ้าเป็นเด็ก ๆ ก็นัดกันมานั่งทำการบ้าน ผู้ใหญ่นัดกันมานั่งประชุม มีทุกเพศทุกวัยเช่นกัน
เสน่ห์ที่ดึงดูดให้คนเข้ามาที่ร้านคงเป็นรูปแบบของตัวร้านที่มีลักษณะของคาเฟ่ผสมอยู่ มีพื้นที่ให้เข้ามานั่งอ่านหนังสือได้ ทำให้มีนักอ่านเข้ามาทุกเพศทุกวัย มีทั้งพ่อแม่ที่พาเด็ก ๆ มานั่งอ่านหนังสือนิทานภาพ นักเรียน หนุ่มสาววัยทำงาน และผู้ใหญ่เข้ามาเลือกซื้อหนังสือ และหาพื้นที่เงียบ ๆ นั่งอ่านหนังสือ "
การอ่านยังมีเสน่ห์
ในด้านมุมมองเกี่ยวกับวัฒนธรรมการอ่านในสังคมไทย "ส่วนตัวคิดว่าพ่อแม่สมัยนี้สนับสนุนการอ่านมากกว่าแต่ก่อน มีมุมมองทัศนะที่ดีต่อการอ่านหนังสือ และเปิดกว้างที่จะให้เด็กอ่านหนังสือที่สนุก เสริมสร้างจินตนาการ ไม่ได้เน้นแต่หนังสือที่มุ่งจะสอนอย่างเดียว ซึ่งถ้าเด็ก ๆ เข้าสู่โลกของการอ่านแล้ว ติดพันแน่นอน มีหนังสือดัง ๆ ที่เป็นกระแสให้คนติดตามอ่านอยู่ตลอดเวลาไม่ขาด ของไทยก็ หัวขโมยแห่งบารามอส ความสุขของกะทิ … ของต่างประเทศ แวมไพร์ ทไวไลท์ แฮรี พอตเตอร์ Diary of a Wimpy kid…. เมื่อเข้าสู่โลกของการอ่านที่เริ่มจากความสนุก เขาจะเริ่มอ่านอะไรที่ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น เมื่อเติบโตขึ้นมาอาจมีความบันเทิงอื่นให้เลือกหลากหลายขึ้น ทำให้เว้นห่างหายจากการอ่านไปบ้าง แต่เชื่อมั่นว่าหนังสือจะยังคงเป็นทางเลือกที่ไม่หายไปไหน เพราะการอ่านยังมีเสน่ห์ เป็นความบันเทิงปลายเปิดที่คนอ่านสามารถต่อยอดทางจินตนาการ และตีความสารที่คนเขียนส่งผ่านได้อย่างไม่มีข้อจำกัด"
ร่วมผลักดันความฝัน
ข้อเสนอแนะหรืออยากให้มีนโยบายใดในประเทศไทยเพื่อเป็นการสนับสนุนร้านหนังสืออิสระหรือร้านหนังสือเล็ก " นโยบายภาครัฐที่สนับสนุนร้านหนังสืออิสระตอนนี้ที่เห็นคือโครงการวัฒนธรรมร้านหนังสือที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ มูลนิธิวิชาหนังสือ จัดกิจกรรม Book Passport หนังสือเดินทางร้านหนังสือ เพื่อกระตุ้นให้คนเข้าร้านหนังสืออิสระ ส่วนตัวเห็นว่ากิจกรรมมีความน่าสนใจ กระตุ้นให้คนรู้สึกสนุกในการเข้าร้านหนังสือ แต่อยากให้มีการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักในวงที่กว้างกว่านี้ และเพิ่มกิจกรรมอื่นเสริมเข้าไปอย่างต่อเนื่อง อาจผสมกับกิจกรรมศาสตร์อื่นที่เชื่อมโยงกับหนังสือ ไม่ว่าจะหนัง ดนตรี ละคร งานศิลปะ โดยใช้ร้านหนังสืออิสระเป็นพื้นที่จัดกิจกรรม น่าจะช่วยให้คนในชุมชนเข้าร้านหนังสือมากขึ้น "
หากท่านใดอาศัยหรือผ่านไปที่ชลบุรี อย่างลืมแวะไปซื้อหนังสือหรือผ่อนคลายกันที่ร้าน PageOne Reading Space
เวลาเปิดปิด
วันธรรมดา เปิดเวลา 11.30 -19.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
เสาร์อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เปิด 10.30 - 19.00
พิกัด :