Howard Marks นักลงทุนแนววีไอชื่อดังและผู้ก่อตั้ง Oaktree Capital Management บริษัทยักษ์ใหญ่ในการลงทุนระดับโลก
โฮเวิล์ด มาร์ค เป็นชาวอเมริกา เกิดในครอบครัวอบอุ่นและมีฐานะทางการเงินที่ดีระดับหนึ่ง พ่อแม่ของเขาค้นพบว่าเด็กชายคนนี้มีความโดดเด่นในวิชาคณิตศาสตร์ เขาคำนวนได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งได้มีโอกาสเข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง และมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอย่างโรงเรียนธุรกิจวอร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิวาเนีย เขาเลือกเรียนเอกวิชาไฟแนนซ์การเงิน และวิชาโทเป็นภาษาญี่ปุ่น หลังจากนั้นเขาก็เรียนต่อปริญญาโทสายการบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยชิคาโก้
โฮเวิร์ด มาร์คส (Howard Marks) เริ่มต้นตำนานของเขาด้วยการก่อตั้งบริษัทจัดการกองทุนและที่ปรึกษาทางการลงทุน Oaktree Capital Management เมื่อปี 1995 ซึ่งแต่เดิมนั้น คุณมาร์คสเคยทำงานอยู่ใน Citicorp และ TCW ในสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเรื่องหนี้สินด้อยคุณภาพ และหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เมื่อก่อตั้งกองทุนขึ้นมา เขาจึงเน้นลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ด้วย
ลองไปเปิดหนังสือเล่มโปรดของชายผู้นี้ว่า เขามีแนวคิดอย่างไร หรือได้รับอิทธิพล จากหนังสือเล่มไหนที่ส่งผลให้เขาประสบความสำเร็จ
The Innovator's Dilemma: When New Technologies Cause Great Firms to Fail เขียนโดย Clayton Christensen
เมื่อการบริหารจัดการที่ดี คือ การรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทที่มีขนาดใหญ่ซึ่งอยู่จุดสูงสุดในแต่ละวงการธุรกิจ..เกิดความล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า เมื่อต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ไม่ใช่ว่าบริษัทเหล่านั้นจะไม่มีบุคลากรหรือทรัพยากรในการเตรียมพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น ในทางตรงข้ามบริษัทเหล่านั้นมีพร้อมทุกอย่าง มีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่ตลอด มีความสามารถในการแข่งขันสูง แต่พวกเขากลับถูกบริษัทหน้าใหม่เข้ามาแย่งชิงพื้นที่ทางการตลาด และทำให้บริษัทล้มเหลวและต้องปิดตัวไปในที่สุด ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
The Innovator’s dilemma วิกฤตนักนวัตกรรม เล่มนี้ จะบอกถึงเหตุและผล และวิธีการรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาในวงจรธุรกิจของคุณ
สรุปคือ หนังสือเล่มนี้ยกธุรกิจที่ถูก Disrupt เป็นประจำในอดีตมาเล่าให้ดูเป็นตัวอย่าง อธิบายให้เราเห็นเป็นแนวทาง จากนั้นก็เอามาแมพกับอุตสาหกรรมอื่นๆที่มีรูปแบบการเกิดและตายขององค์กรที่แทบไม่ต่างกันเลย
Elon Musk: Tesla, SpaceX, and the Quest for a Fantastic Future เขียนโดย Ashlee Vance
“อีลอน มัสก์คือหนึ่งในผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคเรา การหลอมรวมความฉลาดสุดขั้วแรงขับไม่วางวาย และความเชื่อแน่วแน่เข้าไปในไอเดียกล้าได้กล้าเสียของเขา หนังสือเล่มนี้คือภาพเบื้องหลังให้ได้เห็นอย่างใกล้ชิดชวนตะลึงว่าเทสลา สเปซเอกซ์ และโซลาร์ซิตีก่อตั้งขึ้นมาได้อย่างไร และอีลอนทำงานอย่างไรถึงนำพาความปรารถนาให้บรรลุผลได้ เขาคือบุคคลพิเศษไม่เหมือนใครที่กำลังเปลี่ยนโลก และหนังสือของแอชลีย์ แวนซ์ก็คือหลักฐานตอกย้ำว่าไอเดียพลิกเกมของอีลอนริเริ่ม ถือกำเนิด และตอนนี้เจริญงอกงามได้อย่างไร” – ดร.เจ. เครก เวนเทอร์ ผู้ลำดับจีโนมนุษย์คนแรกและผู้สร้างชีวิตสังเคราะห์
“หนังสือน่าตื่นใจเล่มนี้จะทำให้คุณอยากเริ่มตั้งบริษัท สร้างยานอวกาศ และไปเยือนดาวอังคาร เสียอย่างเดียวก็คือสุดท้ายแล้วคุณจะระลึกได้ว่าคุณไม่ใช่อีลอน มัสก์” – แอรอน เลวีย์ ซีอีโอแห่งบริษัทบ็อกซ์
"Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future" เขียนโดย Peter Thiel
คนส่วนใหญ่สร้างธุรกิจด้วยการเลียนแบบและต่อยอดจากธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอย่างมากก็จะประสบความสำเร็จ "พอประมาณ" และ "เพียงชั่วคราว" แต่ถ้าคุณอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จแบบ "สั่นสะเทือนวงการ" และ "ทำกำไรไปอีกหลายสิบปี" คุณควรสร้างธุรกิจจาก 0 เป็น 1 ซึ่งหมายถึงการสร้างสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
"ปีเตอร์ ธีล" ผู้ก่อตั้งเพย์พาลและนักลงทุนระดับตำนานของซิลิคอนวัลเลย์ จะเปิดเผยความลับและแนะนำหลักการในการสร้างธุรกิจจาก 0 เป็น 1 ที่จะสร้างผลตอบแทนอย่างงดงามให้กับคุณเป็นสิบหรือเป็นร้อยปีโดยที่ไม่ต้องแข่งขันกับใครอีกต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางที่กูเกิล แอปเปิล อะเมซอน เพย์พาล และเฟซบุ๊กนำไปใช้จนก้าวจากศูนย์ขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ชนิดไม่มีใครตามทัน!
Thinking, Fast and Slow เขียนโดย Daniel Kahneman
ว่ากันว่าเป็นหนังสือที่สามารถอธิบายกระบวนการทำงานของสมองมนุษย์ได้อย่างละเอียดและเข้าใจง่าย
สมองของเราใช้ Heuristic (system 1) ระบบการคิดแก้ปัญหาหรือตัดสินใจ ซึ่งมักคิดอย่างรวดเร็ว รวบรัด แต่ไม่น่าเชื่อถือ และมีความอคติ (bias) เพื่อสังเคราะห์ข้อมูลมหาศาลที่ผ่านเข้ามาอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆซึ่งมีประสิทธิภาพในหลายกรณี แต่ก็เกิดความผิดพลาดได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม Kahneman ได้กล่าวไว้ว่า system 2 (ระบบคิดช้า) ไม่ได้เหนือกว่า system 1 เสมอไป เพราะคนที่ใช้เพียง system 2 จะไม่ได้ลงมือทำอะไรซักที สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่การตัดสินใจนั้นเป็นเรื่องใหญ่ และใช้ system 2 ช่วยในการวิเคราะห์
อ้างอิงจาก https://www.salika.co/2018/05/23/thinking-fast-and-slow
"The Lean Startup: How Today's Entrepreneurs Use Continuous Innovation to Create Radically Successful Businesses" เขียนโดย Eric Ries
มีคนจำนวนมากอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองและมองเห็นโอกาสที่ผ่านเข้ามา แต่สุดท้ายกลับไม่ลงมือทำด้วยเหตุผลว่า "ยังไม่พร้อม" หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้ว "ความไม่พร้อม" นั่นแหละที่เป็นข้อได้เปรียบ หนังสือ "สร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ต้องเริ่มตอนที่ไม่พร้อม" เล่มนี้ เป็นผลงานของ "เอริค รีส" ซึ่งจะเปิดเผยวิธีใช้ประโยชน์จากความไม่พร้อม และเปลี่ยนมันให้เป็นจุดแข็งของคุณ โดยถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ในการปลุกปั้นบริษัทของตัวเอง รวมถึงเรื่องราวของธุรกิจที่เริ่มต้นทั้งที่ยังไม่พร้อมแต่กลับเติบโตจนก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ถ้าการรอให้พร้อมยังไม่ทำให้คุณมีธุรกิจเป็นของตัวเองสักที...จะดีกว่าไหมถ้าคุณหันมาใช้ประโยชน์จาก "ความไม่พร้อม" แล้วลงมือสร้างธุรกิจที่มั่นคงและทำกำไรตั้งแต่วันนี้เลย!