บ็อบ ดิลลัน (Bob Dylan) หรือชื่อจริง โรเบิร์ต อัลเลน ซิมเมอร์แมน ( Robert Allen Zimmerman) เกิด 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1941) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ศิลปิน จิตรกร นักประพันธ์ และกวีชาวอเมริกัน ที่มีผลงานในวงการดนตรีมาตลอดกว่า 5 ทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษ 1960 จนได้รับฉายาให้เป็น "ราชาแห่งโฟล์ก เนื้อเพลงของดิลลันยุคแรก จะเกี่ยวกับการเมือง สังคม ปรัชญา และอิทธิพลจากวรรณคดี ดนตรีของเขาได้ต่อต้านกระแสนิยมทางดนตรีป็อปและนำโฟล์กเข้ามามีบทบาทในกระแสสังคม ดิลลันได้ขยายสาแหรกแนวย่อยดนตรีเป็นจำนวนมาก ได้เป็นผู้บุกเบิกวงการเพลงโฟล์กในอเมริกันสู่โฟล์กในอังกฤษ สกอตแลนด์และไอร์แลนด์ และผลักดันดนตรีโฟล์กให้กลับมาได้รับความนิยม รวมไปถึงบลูส์, คันทรี, กอสเปล, ร็อกอะบิลลี และแจ๊ส ดิลลัน เป็นที่รู้จักจากศิลปินที่ทั้งแต่งและร้องเอง จนได้รับการยกย่องให้เป็นนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ดิลลันได้ออกผลงานวาดรูปและลงสีมาแล้วกว่า 6 เล่ม และได้รับการจัดแสดงในเวทีใหญ่หลายครั้ง ในด้านงานดนตรี ดิลลันได้จำหน่ายอัลบั้มไปแล้วกว่า 100 ล้านชุด ทำให้เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มโดยรวมสูงที่สุดตลอดกาล และเขายังได้รับรางวัลมากมายอีกด้วย และในปี ค.ศ. 2016 ดิลลันได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
ไหนๆ แล้ว เราลองไปเปิดเล่มโปรดของเจ้าพ่อแห่งรางวัล ท่านนี้กันค่ะ
The Grapes of Wrath เขียนโดย John Steinbeck
นี่คือหนังสือดีเล่มโดดเด่นในศตวรรษ ซึ่งได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 1940 และรางวัลโนเบลในปี 1962 "ผลพวงแห่งความคับแค้น" เป็นสุ้มเสียงอันคับแค้นของชาวไร่ผู้สูญเสียที่ทำกิน กลายเป็นผู้อพยพอันทุรนทุรายเพราะความแห้งแล้งของธรรมชาติ และระบบทุนนิยมในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ เป็นความแค้นของพลเมืองผู้ไร้โอกาสที่ทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ การต่อสู้แย่งชิงความอยู่รอดเพื่อครอบครัวระหว่างคนจนด้วยกัน จึงเสมือนอะไรสักอย่างที่ต้องกัดกินกันเองอยู่ภายในกติกาแห่งกลุ่มทุน เป็นหนังสือต้องห้ามในหลายประเทศที่กลายเป็นวรรณคดีซึ่งเยาวชนชาวอเมริกันทุกคนต้องอ่าน และเป็นวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่ของโลกที่นักอ่านไม่ควรพลาด
Tropic of Cancer เขียนโดย Henry Miller
กว่าสามสิบปีของการดำเนินการตามกฎหมายเพศตรงไปตรงมาของความคิดของ Henry Miller เกี่ยวกับสภาพมนุษย์ที่ทำ ร้อนของมะเร็ง หนังสือที่โด่งดังอย่างเหลือเชื่อแม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ได้อ่านหนังสือ หลังจากที่ทุกคนที่จะไม่อยากรู้เกี่ยวกับหนังสือที่อธิบายโดยผู้พิพากษาเพนซิลเป็นท่อระบายน้ำที่เปิดหลุมของการเน่าเสียการชุมนุมปลิ้นปล่อยของทั้งหมดที่ถูกเน่าเสียในเศษซากมนุษย์เลวทราม '? ชื่อเสียงนี้และสิ่งตีพิมพ์ทางกฎหมายใน 1960s ของหนังสือเล่มนี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญที่หนังสือทางเพศทั้งหมดที่ตีพิมพ์เผยแพร่โดยไม่ได้มีอยู่จริง
On the Road เขียนโดย Jack Kerouac
On the Road งานเขียนจากยุคฮิปปี้ที่เป็นเหมือนภาษาร่วมของชาวบุปผาชน งานเขียนของนักเขียนชาวอเมริกันที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงหลังจากออกเดินทาง Road Trip ทั่วอเมริกา
Howl and Other Poems เขียนโดย Allen Ginsberg
ผลงานกวีนิพนธ์เล่มแรกของกินสเบิร์ก Howl (หอน,1955) ฉบับที่พิมพ์ครั้งแรกทั้งหมดถูกทางการจับยึดด้วยข้อหาใช้คำหยาบโลน ภายหลังเสร็จสิ้นคดีฟ้องร้องต่อศาลเทศบาลเมืองซานฟรานซิสโก ผลงานดังกล่าวจึงได้วางจำหน่ายอีกครั้ง และถือเป็นปฐมถ้อยแถลงการณ์ Manefestation ของกลุ่ม Beat ต่อแวดวงกวีนิพนธ์อเมริกัน และกลายเป็นกวีนิพนธ์ที่มีการอ่านอย่างแพร่หลายที่สุดในรอบศตวรรษ มีการแปลมากกว่า 22 ภาษา
กินสเบิร์กมีบทบาทสำคัญในการทำให้กวีนิพนธ์ขัดกับขนบดั้งเดิมทั้งในด้านเนื้อหาและรูปแบบการใช้คำ ตลอดจนการนำเสนอจินตภาพ ผลงานของเขากลายเป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้นในกลุ่มนักอ่าน เนื้อหาว่าด้วยการต่อต้านสังคม การเมือง การวิพากษ์วิจารณ์โครงสร้างและกฎเกณฑ์ของสังคมและการเมืองอย่างรุนแรง ขณะสงครามเวียดนามกำลังคุกรุ่น เขาเคยถูกจับในฐานะผู้นำการประท้วงต่อต้านนโยบายเข้าร่วมสงครามของรัฐบาลอเมริกัน โดยสนับสนุนการให้อิสรภาพไร้ขอบเขต ทั้งในเรื่องการแต่งกายและความประพฤติ เขาเคยเปลื้องผ้าอ่านกวีนิพนธ์ต่อหน้าสาธารณชน และแม้เขาจะสนับสนุนการใช้ยาเสพติดอย่างเสรีก็ตาม แต่เขานับเป็นกวีคนแรกๆ ที่แสดงความห่วงใยในเรื่องนิเวศวิทยา ดังกล่าวเขายอมรับว่ากวีนิพนธ์บางบทใน Howl ถูกเขียนขึ้น ขณะเขาตกอยู่ใต้อิทธิพลของยาเสพติด