ช่างชุ่ย เป็นสถานที่ที่เกิดจากศิลปินที่รู้จักการทำธุรกิจโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ นำของที่เคยถูกทิ้งมาสร้างมูลค่าเพิ่ม จนได้สถานที่เก๋ ๆ มีสถาปัตยกรรมแปลกใหม่ กล้าทำลายกฎเกณฑ์ให้บางสิ่งมาอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจอย่างมากเพราะบอกเลยว่าที่นี่สร้างไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนแน่นอน ความแปลกใหม่ที่ผสมผสานอย่างดี ภายใต้คอนเซบที่ว่า “ไม่มีสิ่งใด ไร้ค่า ถ้าใช้ปัญญา สร้างสรรค์”

         พูดถึงที่มากันไปแล้วแต่ทุกคนรู้ไหมว่า “ช่างชุ่ย” ไม่ใช่เป็นแค่สถานที่เก๋ ๆ เท่านั้น ช่างชุ่ยยังรวบรวมสารพัดเมนูหลากหลายจากทั่วทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารฝรั่ง ของทานเล่น ของหวาน เครื่องดื่ม เบียร์คราฟท์ ชาชั้นดีจากฝรั่งเศส กาแฟหอมกรุ่น ล้วนแต่ได้ระดับตัวแม่มาสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มรสกันกว่า 70 ร้าน

ต้องบอกก่อนนะว่าช่างชุ่ยจะมี 2 โซนหลัก คือ กรีนโซน และ ไนท์โซน ซึ่งเราไปวันธรรมดาและจอดรถที่ประตู 3  มันก็จะเป็นแถบกรีนโซน จะเปิดตั้งแต่ 11:00 – 21:00 เราตั้งใจมาที่ร้านกาแฟ One Ounce for Onion จริง ๆ แอบเสียดายก่อนหน้าที่เราไปหนึ่งวันเค้ามีจัดนิทรรศการภาพถ่าย แต่ที่เราไปเค้าก็ยังมีให้เราได้ชมกัน ร้านนี้จะมีทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่คิดค้นสูตรโดยเฉพาะของทางร้าน ซึ่งมีหลายหลายเมนูด้วยกันแต่เราสั่งแค่เครื่องดื่มที่ทางร้านก็แนะนำมาและเราก็เห็นว่าเป็นเมนูที่แปลกใหม่สำหรับเรา ต้องบอกก่อนนะเราอาจจะไม่ใช่คอกาแฟเท่าไหร่ แต่กินได้นะ ^^

เมนูนี้มีชื่อว่า Jelly Rocket เป็นน้ำเลม่อน กาแฟและด้านล่างสุดเป็นเจลลี่ที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้าน มันก็จะมีรสชาติเปรี้ยว ๆ ขม ๆ ตัวเจลลี่ก็จะออกแนวนิ่ม ๆ สำหรับแก้วนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ลงตัว

และนี่ก็คืออีกหนึ่งเมนู จำชื่อไม่ได้ แหะๆ ^^” แต่เราจำรสชาติได้นะมันคือช็อกโกแลตเย็นที่หอมหวาน ด้านล่างจะมีเจลลี่เบอร์รี่ ด้านบนท็อบด้วยมาสคาโปนหอมและสตอเบอร์รี่สด ถ้าใครเป็นสายหวานชอบเครื่องดื่มแนวนี้รับรองฟินจนอยากสั่งมาทานเพิ่มอีกแก้วแน่นอน

นอกจากที่ร้านจะมีเครื่องดื่มและอาหารแล้วยังมีหนังสือมากมายภายในร้านที่มีทั้งแบบขายและนั่งอ่าน กัน หนังสือก็จะมีหลายแบบที่มาจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ และนอกจากหนังสือแล้วที่ร้านยังรวมเครื่องเขียนแบรนด์ดี ไม่ว่าจะเป็น สมุดโน้ต กระเป๋าดินสอ ปากกา กระเป๋าผ้า และของจุกจิกน่ารักอีกมากมายให้ได้เลือกซื้อกัน ^^

เรานั่งในร้านกาแฟสักพักก็เดินออกมาดูร้านต่าง ๆ ในช่างชุ่ยกัน ซึ่งร้านในช่างชุ่ยแต่ละร้านมีไอเดีย เจ๋ง ๆ อยู่หลายร้านเลยทุกร้านมีคอนเซบ มีที่มาในการเปิดร้านของแต่ละคนซึ่งบอกเลยว่าเดินทั้งวันยังไม่ครบทุกร้านเลยจ้าเพราะมันเยอะมากจริง ๆ แต่ละร้านที่แวะเดินเข้าไปคือน่าสนใจมาก เจ้าของร้านที่นั่นก็อัธยาศัยน่ารัก บางร้านก็ออกแนวติส เราเป็นสายถ่ายรูป เราก็ชอบเกือบทุกร้านเลยนะ ><เดินออกมาก็เจอกับร้านหนังสือ Happening ร้านไม่ใหญ่โตมาก กระทัดลัด แต่อุดมไปด้วยหนังสือและของน่ารัก ๆ เป็นร้านเล็ก ๆ ที่อบอุ่น

เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอเป็นตรอก ซอก ซอย ของโซนร้านอาหาร ซึ่งเยอะมากเราก็ไม่ได้เอามาลงให้ดูทั้งหมดนะเพราะเยอะมากจริง ๆ 55+ อันนี้ก็เก็บร้านที่น่ารัก  เก๋ ๆ มาให้ชมกันจ้า ร้านแรกก็คือ Let’s fry by เมียจ๋า ก็จะเป็นข้าวเมนูง่าย ๆ แบบไก่ทอด มีซอสให้เลือกสารพัดมากมาย ใครชอบเมนูเร่งรีบก็แวะทานกันได้นะ ^^

ถัดมาก็ตามชื่อร้าน “ยำ มัน เลย” เป็นร้านขายอาหารแซ่บ ๆ เมนูแนะนำของทางร้านก็จะมี ส้มตำหลวงพระบาง, ต้มแซ่บกุ้ง , น้ำตกคอหมูย่าง, ไก่ย่างจิ้มแจ่ว, ยำทะเล, ปลากะพง 3 รส, ไส้กรอกอีสาน และเมนูอื่นอีกมากายใครชอบอาหารรสจัดมาเลยจ้า

แดกดิ้น ก็คือร้านอาหารที่รวบรวมสตรีทฟู๊ดเจ้าเด็กกว่าร้อยเมนู บรรยากาศภายในก็จะใช้ของเก่ามาตกแต่งย้อนวันวาน ซึ่งพอเข้าไปแล้วก็ชอบกับการตกแต่งในร้าน และเราอยากกินของอร่อยเจ้าไหนก็มีมา เช่นอยากกินขนมหวานก็ร้าน เซ็งซิมอี๊ ,ผัดไทเตาถ่าน, ขาหมูแม่เช็งก็มีนะจ๊ะ , นี่ร้านเด็ดอย่างก๋วยจั๊บวังหลังไม่ต้องไปถึงวังหลังก็ได้กิน นี่ส่วนน้อยนะที่พูดถึงยังมีอีกหลายร้านให้เลือกรับประทานกัน

ตอนเดินจะกลับเราก็เจอ “เด็กชุ่ย” วันที่เราไปเค้าก็มีกิจกรรม Workshop for kids ซึ่งเป็นอีกร้านที่น่ารักมีเด็ก ๆ ด้วยนะเราไปนั่งดูน้อง ๆ ทำกิจกรรมวาดรูป ระบายสีกันอยู่นาน น่ารักมากจริง ๆ สำหรับกิจกรรมนี้ ภายในร้านก็ยังมีของขายเป็นงานทำมือ เสื้อยืดลายเพ้นต่าง ๆ กระเป๋าผ้าสุดแนว คนที่ชื่นชอบงานศิลปะก็แวะเข้ามาดูกันได้

สุดท้ายนี้การมาช่างชุ่ย ได้มาเห็นไอเดียการสร้างสรรค์สถานที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครแล้วบริเวณภายในยังมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะแยะมากมายให้ได้มาลองสัมผัสกับบรรยากาศกัน รับรองเลยว่าใครที่ชื่นชอบแนวนี้จะต้องมาแล้วมาอีกอย่างแน่นอน ใครที่สะดวกเดินทางโดยการขับรถมาก็มีบริการที่จอด และทางช่างชุ่ยเค้าก็จะมีแผนที่ภายในแจกให้ด้วยนะว่าเราอยู่จุดไหนสำหรับคนที่ไม่เคยมาก็จะได้รู้ตำแหน่งว่าร้านค้าต่าง ๆ อยู่ในโซนไหน ใครอยากมาเราก็แนะนำเป็นวันศุกร์ เสาร์หรืออาทิตย์ เพราะร้านค้าจะเปิดกันเยอะและมีกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าวันธรรมดาที่เราไปใครสนใจก็ตามมากันเลยยยยย ^^

------------------------------------------------------------------------------

พิกัด

462 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเพทฯ 10700

ช่างชุ่ยจะมี 3 ประตู และมีเวลาเปิดปิดหลัก ๆ 2 โซนด้วยกัน

กรีนโซน / 11:00 – 12:00 ไนท์โซน / 16:00 – 23:00 (หยุดทุกวันพุธ)

Facebook : ChangChuiBKK

IG: ChangChuiBKK

Tel: 081 817 2888 / www.changchuibangkok.com

ภาพ/เรื่อง สุกัญญา สุวิธานโธ