สโนไวท์ : เมื่ออยากเขียนก็ต้องลงมือเขียนเลย

สโนไวท์

เล่าเรื่องส่วนตัวสักนิดค่ะ
ชื่อจริง พยอม พุทธวงค์ เป็นลูกครึ่งอิสาน-เหนือ พ่อชาวแพร่แม่ชาวเลย บ้านเกิดริมฝั่งแม่น้ำเหือง ตำบลอาฮีอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย ชีวิตไม่ได้คาบช้อนทองมาเกิดแต่ผ่าไปคาบเคียวเกี่ยวข้าวอันเป็นอาวุธประจำตระกูลชาวนาไทยแต่ทางบ้านอยากให้คว้าปริญญามาประดับฝาบ้านสักใบ จึงต้องทำให้พ่ออุยกับแม่เป้หน้าบานเป็นจานเรดาร์ได้สมใจในวันที่ไปยืนขนาบข้างลูกสาวคนนี้ถ่ายรูปในวันรับปริญญา แม้ว่าจะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยก็ยังอุตส่าห์จบกับเขาด้วย ทำงานมาหลายที่ แต่ละที่อยู่ไม่นาน ครั้นพอคิดจะลงหลักปักฐานทำงานด้านสินเชื่อ ที่ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ(บีบีซี.) ก็ถูกรัฐบาลสั่งปิด จากสาวแบงก์จึงกลายเป็นสาวเบลอ เพราะเบลออยู่ตั้งเจ็ดปี ชีวิตหลังแบงก์เจ๊งก็เลยล้มลุกคลุกคลานปานคนเมา(ชีวิต) ..ครบทุกรสโหด มันส์ ฮา.มาถึงวันนี้..

 

สโนไวท์ เมื่ออยากเขียนก็ต้องลงมือเขียนเลย

 

ก้าวแรกกับการเขียนหนังสือ
คุณแม่คือครูคนแรกในชีวิตที่จุดประกายให้เป็นคนที่มีจินตนาการ เนื่องมาจากช่วงวัยเด็กพ่อกับแม่มักจะพาลูก ๆ นอนชมดาวบนท้องฟ้าอยู่ชานหลังบ้าน แล้วแม่ก็จะเล่านิทานให้ฟัง ดิฉันก็จะคอยนึกภาพตามไปด้วย เรื่องที่แม่เล่าก็เอามาจากรอบตัวทั้งนั้น เช่น เห็นดาวเต็มท้องฟ้าก็จับเอามาผูกเล่าเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ตบท้ายด้วยการสอน เช่น ใครเถียงพ่อแม่ ใครขี้เกียจไม่ช่วยงานบ้านก็จะไปเกิดเป็นดาวลูกไก่ อะไรประมาณนี้

มื่อโตขึ้นพอที่จะอ่านหนังสือได้แล้ว แม่ก็จะเริ่มมีเงื่อนไขมากขึ้นถ้าอยากฟังนิทานก็ต้องนวดให้แม่ไปด้วย แต่แม่เป้เล่นโกงซะดื้อ ๆ เล่าไม่ถึงห้านาทีก็หลับคามือลูกซะงั้น พอดิฉันขอร้องให้เล่าต่อแม่เป้ก็ขอผลัดเป็นวันต่อไปช่างไม่รู้เลยว่าทำให้คนฟังอารมณ์ค้างแค่ไหน พอรบเร้าให้เล่าต่อแม่ก็บอกว่าดิฉันโตแล้วอ่านหนังสือออกแล้วให้ไปอ่านเอาเอง

ดิฉันก็เลยหันไปอ่านหนังสือการ์ตูน ตอนหลังก็อ่านนิยายรักจนติดงอมแงม จำได้ว่าทุกวันศุกร์จะตระเวนหายืมนิยายไปนอนอ่านทั้งคืน พ่อกับแม่ดีใจว่าลูกตัวเองช่างขยันอ่านตำราเรียนเหลือเกินท่าทางมันคงจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงซะละมั๊ง แต่หารู้ไม่ที่ยัยลูกสาว(ตัวดี)อ่านน่ะมันหนังสือนิยายล้วน ๆ พออ่านมากก็ชักอยากจะเขียนบ้าง โดยจับเอาเรื่องที่แม่เคยเล่าให้ฟังแล้วเล่าไม่จบมาผสมกับนิยายที่อ่านนำมาสร้างเป็นนิยายส่วนตัวไว้อ่านเอง แต่ตอนหลังลองส่งไปตามนิตยสารต่าง ๆ จนได้ลงเรื่องสั้นครั้งแรกที่นิตยสารสาวสวย จำชื่อเรื่องได้แม่นยำเพราะเป็นเรื่องแรกชื่อ “วิญญาณน้าจี” โอ้ย..ดีใจมาก ได้เงินค่าต้นฉบับเป็นครั้งแรกในชีวิตจากนั้นก็ได้ลงเรื่องสั้นประปรายตามนิตยสารต่าง ๆ แต่เพิ่งจะมาลงมือเขียนอย่างจริงจังช่วงที่มีเวลาว่างมากเกินควร (ก็ตกงานนี่คะ) กระทั่งได้มีผลงานตีพิมพ์ทุกวันนี้

ชอบเขียนหนังสือแนวไหนคะ
เขียนเอาไว้หลายแนว แต่ที่ได้พิมพ์คือเรื่องสั้น เรื่องเม้าท์ ๆ นิยาย แล้วก็ประเภทสุขภาพความสวยงาม

ผลงานด้านงานเขียนที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
ใช้อยู่ 4 นามปากกา ได้แก่
พิมพ์จันทร์
- นิยายเรื่อง “ภาพมนตรา” สำนักพิมพ์สมาร์ทบุ๊ค
กิ่งพยอม
- นิยายเรื่อง “รักสุดป่วนกวนใจยัยตัวแสบ” สำนักพิมพ์นกฮูก
- นิยายเรื่อง “รักก้นขวิดพิชิตใจเธอ”
- นิยายเรื่อง “นิยายรักนักเขียน”
พญาผึ้ง
- คอลัมน์ “สถานีชีวิต” นิตยสารกุลสตรี
- พ็อกเก็ตบุ๊ก “เรื่องสั้นซาหนุกอย่าบอกใคร” สำนักพิมพ์อนิเมทกรุ๊ป
- พ็อกเก็ตบุ๊ก “เม้าท์แหลกแหกอกผัว”
- พ็อกเก็ตบุ๊ก “เม้าสลบเดี๋ยวตบแหลก,ไม่รักก็ช่างแม่ง
สโนไวท์
- คอลัมน์ “แต่งเสริมเติมเสน่ห์” นิตยสารกุลสตรี
- พ็อกเก็ตบุ๊ก “สวยสดซะอย่างจ้างก็ไม่แคร์”
- พ็อกเก็ตบุ๊ก “อ่านก่อนสวยก่อน” สำนักพิมพ์วูเมนพับลิชเชอร์(ในเครือประพันธ์สาส์น)

 

สโนไวท์ เมื่ออยากเขียนก็ต้องลงมือเขียนเลย

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ