ทุกครั้งที่สิ้นสุดงานหนังสือเรามักจะได้ยินคำพูดทิ้งท้ายว่า “ไว้พบกันใหม่ในงานหนังสือครั้งหน้า” จากบรรดาสำนักพิมพ์และร้านหนังสือที่ไปออกบูธ แต่สำนักพิมพ์ที่ประพันธ์สาส์นกำลังจะไปพูดคุยด้วยในครั้งนี้กลับบอกกับนักอ่านว่า 'มาพบกันได้ทุกวัน' ที่ 'ร้านหนังสือสมมติ'
ตอนนี้เราก็ได้พบกันแล้ว ที่ร้าน ‘สมมติ & the Object’ ประพันธ์สาส์นจะพาไปพูดคุยกับ 2 หนุ่มผู้ช่วยบรรณาธิการ คุณเอกสิทธิ์ เทียมธรรม และคุณสิทธิวัฒน์ เรืองพงศธร ถึงที่มาที่ไปของร้านนี้ ทั้ง 2 ท่านเล่าให้เราฟังว่า ย้อนกลับไปคือตัวคุณเอกเองได้มีโอกาสเข้ามาฝึกงานที่นี่ ได้เรียนรู้กระบวนการทำหนังสือทั้งหมด และคุณต้อง ปิยะวิทย์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์สมมติได้เกริ่นไว้ว่า เราต้องมีร้านหนังสือของเราเอง ทำให้ทุกคนในสำนักพิมพ์เห็นภาพร่วมกัน ภาพทั้งหมดเริ่มชัดขึ้นในช่วงที่สำนักพิมพ์ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ได้เจอกับนักอ่าน ได้แลกเปลี่ยน ถือว่าเป็นความฝัน ความฝันหนึ่งของคนทำหนังสือ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย คุณสิทธิ์เสริมว่าบวกกับจำนวนหนังสือที่มากขึ้น คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีหน้าร้านของตนเองเพื่อเป็นช่องให้หนังสือได้พบกับผู้อ่าน
ส่วนเหตุผลที่เลือกสถานที่ตั้งร้านในโครงการชวนชื่นการ์เด้น ถนนกาญจนาภิเษก เพราะคิดว่าเป็นจุดกึ่งกลาง ระหว่างกรุงเทพและนครปฐม และแม้ว่าจะเป็นถนนสายใหญ่ แต่ที่ตั้งร้านก็ถัดเข้ามาจากถนนพอสมควร ทำให้ไม่ได้ยินเสียงรบกวนจากรถบนถนน ประกอบกับมีที่จอดรถเพียงพอ และอีกเหตุผลคือด้วยต้นทุนทางธุรกิจทำให้เป็นเรื่องยากที่จะเปิดร้านในเขตเมือง
เสน่ห์ของร้าน คุณสิทธิ์บอกว่า เสน่ห์ คือสิ่งที่เรานำเสนอออกไป หลักๆ คือคิดว่าเราชอบอ่านหนังสือแบบไหน ทำไมถึงอยากให้หนังสือเล่มนี้พบปะกับผู้อ่าน เหมือนเป็นสถานที่หนึ่งให้เราได้แนะนำให้คนสองคนได้รู้จักกัน แต่จะชอบไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คุณเอกคิดว่าร้านหนังสืออิสระทุกร้านมีเสน่ห์และลักษณะเฉพาะของตนเอง และเนื่องจากเป็นสำนักพิมพ์ ทำให้เห็นตั้งแต่ตัวอักษรของต้นฉบับที่ส่งเข้ามา มันคืออาชีพ คือสิ่งที่สำนักพิมพ์ตั้งใจทำออกไป
กลุ่มลูกค้าที่มา จากที่ทำสำนักพิมพ์ ผลิตหนังสือ ผู้อ่านหลักๆ ทราบกันดีว่าสำนักพิมพ์สมมติจะทำหนังสือแนววรรณกรรม วิชาการ ปรัชญา ทั้งนอกกระแสและในกระแส ผู้อ่านไม่ได้ถูกจำกัดทั้งเพศและวัย แต่เป็นกลุ่มหนึ่งที่สนใจอยากลองอ่านอะไรใหม่ๆ
พูดถึงการปรับตัวกระแสอีบุ๊คที่เข้ามา โดยส่วนตัว คุณเอกได้ยินคำนี้มานาน แต่คิดว่ายังคงเดินหน้าทำหนังสือกระดาษต่อไปให้ดีที่สุด เชื่อว่ายังมีผู้อ่านที่ชอบสัมผัสหนังสือแบบรูปเล่มมากกว่า คุณสิทธิ์เสริมอีกด้วยว่าด้วยตัวเนื้อหาคงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ตัวอีบุ๊คช่วยในเรื่องความสะดวกสบายมากกว่า แต่เสน่ห์ตัวอักษรบนกระดาษกับหน้าจอนั้นแตกต่างกัน เชื่อว่าในบ้านเรายังต้องการอ่านแบบกระดาษมากกว่า ส่วนการปรับตัวก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในอนาคต
อยากให้ฝากอะไรถึงนักอ่าน คุณเอกบอกว่าจริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้อ่าน ร้านหนังสืออิสระนั้นทำขึ้นเพื่อรองรับสำนักพิมพ์ขนาดเล็กที่หนังสือยากต่อการไปถึงมือผู้อ่าน เหมือนกับเป็นการมอบพื้นที่ให้กับหนังสือเล่มหนึ่งที่ยังรอคอยนักอ่านอยู่ ขึ้นชื่อว่าร้านหนังสืออิสระทุกร้านมีบรรยากาศมีประสบการณ์ของร้านนั้นๆ ที่แตกต่างกัน ส่วนคุณเอกบอกว่า อยากให้ผู้อ่านลองไปเลือก ไปสัมผัส ลองไปใช้เวลา แล้วดูว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเอง
นอกจากหนังสือแล้ว ภายในร้านยังมีเครื่องเขียน ของใช้ แบรนด์ the Object ที่แฝงไปด้วยเรื่องราว ในโลกวรรณกรรม ทั้งภาพ ลายเซ็น คำคม ของนักเขียน ที่ให้นักอ่านได้เลือกสะสม
มาทำให้เรื่องของการอ่าน ไม่ใช่เรื่องสมมติ ได้ที่ ร้านหนังสือสมมติ & the Object รอพบปะทุกท่าน อยู่ที่ โครงการชวนชื่นการ์เด้น ถนนกาญจนาภิเษก
ที่ตั้ง : โครงการชวนชื่นการ์เด้น 55/1 หมู่ 7 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน
Fanpage : http://www.facebook.com/sommadhibooks.page
เรื่องและภาพ : ศิริรัตน์ สุ่นสกุล
เรียบเรียง : โชติรวี โสภณสิริ