วันที่ 2 เมษายน ของทุกปี คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เป็นวันหนังสือเด็กแห่งชาติและวันรักการอ่าน ด้วยพระจริยวัตรและความสนพระทัยในการอ่าน การจดบันทึก การเขียนและการเรียนรู้ ขององค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จนบังเกิดเป็นพระราชนิพนธ์จำนวนมาก อีกทั้งพระองค์ยังทรงส่งเสริม สนับสนุน เป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการอ่านและการเรียนรู้
สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินโครงการ “read thailand: อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2558 นี้
read thailand : อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน โครงการกระตุ้นการส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้ให้เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้งระดับชั้นของโรงเรียนในทุกสังกัด เป็นการประกวดสุดยอดโรงเรียนรักการอ่าน ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวมถึงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ในต่างประเทศ พร้อมเกียรติบัตรและเงินรางวัลมอบให้กับโรงเรียน โดยการประกวดจะดูจากผลงานในทุก ๆ ด้าน อาทิ ด้านบริหารจัดการส่งเสริมการอ่าน ด้านมาตรฐานการส่งเสริมการอ่าน ด้านประสิทธิภาพของแหล่งเรียนรู้ห้องสมุดมีชีวิต ด้านผลที่เกิดกับผู้เรียน และด้านคุณภาพเชิงประจักษ์ เพื่อให้ครอบคลุมและส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอ่านของนักเรียนอย่างแท้จริง
จากผลการประเมินของ pisa ด้านการอ่านในปี 2543 - 2552 และ imd world competitiveness yearbook ปี 2554 พบว่า เด็กและเยาวชนไทยยังอ่านหนังสือค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับนานาประเทศ ความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติด้านการศึกษาของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 51 จากประเทศทั้งหมด 59 ประเทศ การพัฒนาด้านความฉลาดทางอารมณ์(eq)ลดลง ซึ่งความสามารถด้านการอ่านมีผลต่อการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนไทยอย่างมาก
ดร. สิริกร มณีรินทร์ ประธานคณะอนุกรรมการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) และกรรมการบริหารสำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หรือ tk park ได้จัด โครงการ reading thailand : อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน เป็นโครงการส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้ให้กับเด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทั้งระดับชั้น โดยใช้การประกวดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจ และดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้ในโรงเรียนอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ โครงการมุ่งเน้นกระบวนการจัดการของผู้บริหารและครู ในอันที่จะส่งเสริมให้นักเรียนที่ไม่สนใจอ่านหนังสือหันมารักการอ่าน ทั้งนี้ แบ่งการประกวดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ โรงเรียนขนาดเล็ก (มีนักเรียนไม่เกิน 150 คน) ขนาดกลาง (มีนักเรียน 150-300 คน) ขนาดใหญ่ (มีนักเรียน 300คนขึ้นไป)”
“และที่สำคัญ โครงการนี้จัดขึ้นมา เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เราคนไทยอยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาณของพระองค์ท่าน จึงอยากเชิญชวนครูบาอาจารย์ผู้ปกครอง ร่วมมือกันปลุกเด็กไทยให้มารักการอ่านหนังสือ เพื่อ ถวายพระองค์ท่าน” ดร. สิริกร มณีรินทร์ กล่าวต่อ ดร เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อการศึกษาไทย ที่พระองค์ได้ทรงงานหนักมาอย่างต่อเนื่อง ท่านทรงให้ความสำคัญกับคุณภาพของโรงเรียน ทั้งด้านการเรียนการสอน ห้องสมุด สภาพแวดล้อมของทั้งเด็ก และครูผู้สอน รวมทั้งด้านโภชนาการ โดยเฉพาะโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร สำหรับโครงการนี้ สพฐ ซึ่งมีเครือข่ายของโรงเรียนทั่วประเทศ จะจัดคณะทำงานเพื่อช่วยในการเผยแพร่ข้อมูลรายละเอียดการประกวดส่งไปยังโรงเรียนทั่วประเทศ รวมถึงร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวด”
นอกจากนี้ ยังมีภาคีเครือข่ายสำคัญต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้เป็นอย่างดี อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ที่ให้การสนับสนุนเงินทุนในการจัดหาหนังสือแนะนำในโครงการ ส่งให้กับ 183 เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อใช้หมุนเวียนให้โรงเรียนที่ขาดแคลนหนังสือแต่มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้นักเรียนรักการอ่านได้มายืมไปใช้ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ และการประชาสัมพันธ์ อีกหนึ่งเครือข่ายที่สำคัญได้แก่ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย รวมถึงสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันลดราคาหนังสือที่จะจัดหาเข้ามาในโครงการ โดยจะจำหน่ายให้ในราคาพิเศษ และจะบริจาคหนังสือบางส่วนเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งทางโครงการได้คัดเลือกหนังสือประกอบด้วย หนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หนังสือตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ บทกวี บทอาขยาน ฯลฯ กว่า 400 รายชื่อ
ขอบคุณที่มา : http://scoop.mthai.com/specialdays/5657.html
