ท่ามกลางธุรกิจยุคแข่งขัน ที่ต้องฟาดฟันกันด้วยความสามารถ ประสบการณ์ รวมไปถึงความอดทน ใครที่ประสบความสำเร็จได้ในยุคนี้ สมควรแล้วที่จะเป็นผู้ที่ได้รับการคาราวะสักหนึ่งจอก เพราะเขาคนนั้นคงไม่กระจอกเลยจริง ๆ ยิ่งในธุรกิจของคนกลางคืน นอกจากจะยากด้วยปัจจัยทั้งปวงแล้ว ยังยากต่อการยอมรับนับถือของคนในสังคม เพราะเป็นอาชีพที่หลายต่อหลายคนยังรู้สึกเดียดฉัน ใครจะรู้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จกับธุรกิจกลางคืนได้เขาทำอย่างไร อีกแง่มุมหนึ่งจากคนเหล่านั้น อาจไม่เหมือนกับที่อีกหลายคนคิด สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นจึงขอเป็นตัวแทน ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ดิ้นรน อดทน และพยายามกับสิ่งที่ตัวเองมุ่งมั่นจนได้ก้าวไปสู่การเป็นนักบริหารอย่างเต็มรูปแบบ ในโลกของธุรกิจกลางคืน ที่ผู้คนไม่ค่อยสนับสนุนแต่ให้การตอบสนอง
งานเปิดตัวหนังสือ CEO แห่งโลกกลางคืน ถูกจัดขึ้นโดยสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นร่วมกับร้าน SHERBET เพื่อเปิด Portfolio… เรื่องราวของผู้ชายชื่อ สมศักดิ์ อ่อนศรี หรือที่รู้จักกันในนาม “พี่จ่า” ผู้ที่เดินตามความฝันของตัวเองอย่างมุ่งมั่นบนเส้นทางของคนกลางคืน จนประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม บรรยากาศภายในงานมีทั้งเหล่ามวลมิตรศิลปินและมิตรน้ำหมึกหลายคนมาให้กำลังใจกับพี่จ่า อาทิ เพื่อนซี้อย่าง ชาติ ชูวงศ์ เพื่อนแท้อย่าง ติ๊ก พีรพัฒน์ วงศ์สิงห์ (ผู้จัดการร้าน The piano และ sherbet) มิตรน้ำหมึกผู้เขียนคำนิยมอย่าง ณรงค์ จันทร์เรือง เพื่อนนักแสดงอย่าง แพท พัสสน ศรินทุ และดำเนินรายการโดย ปิง ฟรุตตี้ (ผู้จัดการร้าน The pant) นอกจากนี้ยังมีการแสดงต่าง ๆ มากมายจากร้าน sherbet
จากลูกชาวบ้านคนหนึ่งที่พ่อแม่ต้องหาเช้ากินค่ำ แต่สนับสนุนให้ลูกได้รับการศึกษา และสั่งสมคำสั่งสอนที่ดีเอาไว้ให้ลูกมากมาย จนกระทั่ง สมศักดิ์ อ่อนศรี ได้เข้ารับราชการเป็นทหารเรือ สุดท้ายด้วยชีวิตที่ผกผันจนเกือบเสียผู้เสียคน กลับลุกขึ้นมายืนได้เพราะไม่ยอมแพ้ ไม่ปล่อยให้ความอ่อนแอมาทำลายชีวิต เขาจึงหันมาทำงานกลางคืนเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยประเดิมงานแรกเป็นบาร์เทนเดอร์ที่บาร์ญี่ปุ่น ความสุขของการทำงานกลางคืนควบคู่กับการทำงานกลางวันก็เกิดขึ้น จนได้มาพบกับอีกหนึ่งอาชีพที่โดนใจ คือการเป็นนักขายประกัน ซึ่งเขาก็ทำมันได้ดีอีกเช่นกัน แต่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ก็กลับผกผันอีกครั้ง เมื่อมีอุปสรรคเข้ามา ทั้งเรื่องความรัก การงาน รวมไปถึงคุณภาพชีวิต ทุกอย่างย่ำแย่ลงไปพร้อมกัน สิ่งเดียวที่เหลือคืองานกลางคืน เขาจึงหันมามุ่งมั่นกับมัน จากพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ และก้าวหน้าขึ้นมาตามลำดับจนกระทั่งได้เป็นเจ้าของกิจการสถานบันเทิงสุดหรูสำหรับนักธุรกิจ นักบริหาร ทุกระดับของกรุงเทพฯ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในขณะนี้
พีรพัฒน์ วงศ์สิงห์(ติ๊ก) ผู้จัดการร้าน The piano และ Sherbet ผู้ร่วมงานกับพี่จ่ามากว่า 10 ปี กล่าวถึงผู้ชายคนนี้ว่า จากที่ผมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่จ่ามา พี่จ่าเป็นคนที่ทันต่อเหตุการณ์ทุกเรื่อง และเขาเป็นคนที่สามารถจะรู้ว่าเศรษฐกิจการเมือง หรือที่เราเรียกว่าปัจจัยภายนอกเป็นอย่างไร และสามารถจะพัฒนาหรือบริหารธุรกิจเราให้ตามไปกับระบบเศรษฐกิจ เพราะบอกได้เลยว่าการที่เราประกอบธุรกิจแบบนี้ อันดับหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือ เรื่องเศรษฐกิจของบ้านเมือง และนโยบายของรัฐบาล ต้องคำนึงถึงการค้าระหว่างประเทศบ้าง ถามว่าพวกเราทำไมจะต้องคำนึงถึงตรงนั้น ก็เพราะว่าเรามีการตั้งเทรนด์ลูกค้าไว้ อย่างน้อยๆ ลูกค้าที่มาใช้บริการของเราก็จะเป็นระดับนักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการ หรือระดับที่จะเลี้ยงรับรอง เอนเตอร์เทนลูกค้าได้ เพราะฉะนั้นเราได้ตอบสนองตรงนี้ นี่เป็นจุดดีของพี่จ่าอีกอย่างหนึ่ง แล้วเขาก็สามารถที่จะพลิกวิกฤตต่างๆ ให้เป็นโอกาสได้ สามารถที่จะหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้พนักงานได้ปฏิบัติ ซึ่งบางทีพนักงานก็ไม่ทราบหรอกว่า ทำไมต้องปฏิบัติ ทำไมจะต้องทำ ทำแล้วได้อะไร หลายๆ คนจะคิดแบบนี้ แต่พี่จ่าก็จะให้เคล็ดลับในการปกครองลูกน้องไว้ว่า ไว้วางใจเถอะ เชื่อใจเถอะ แล้วคุณจะรู้เองว่าทำไปแล้วจะได้อะไร เรื่องการแทรกแซงการทำงานของลูกน้อง พี่จ่าก็ไม่เคย เมื่อมอบหมายงานให้ทำแล้ว พี่จ่าจะให้อิสระในการทำงานเต็มที่ อย่างดีก็แค่คอยแนะนำ แต่ไม่เคยแทรกแซง
ณรงค์ จันทร์เรือง มิตรน้ำหมึกผู้เขียนคำนิยมให้กับหนังสือ CEO แห่งโลกกลางคืน กล่าวว่า ผมรู้จักสมศักดิ์ อ่อนศรี ในนาม “เสี่ยจ่า” แล้วผมก็เรียกเขาอย่างนั้นตลอดมา 20 กว่าปีมาแล้ว ที่ผมเห็นเขายิ้มร่าเริงอยู่ในแวดวงสาวสวย ในยามค่ำคืน มองเห็นการพัฒนา ตั้งแต่ร้าน Spec’s Club, Porches Club จนมาถึง The piano, The Forte, The Pent และ Sherbet เขามีวิวัฒนาการทางความคิด สามารถทำให้ธุรกิจแบบนี้ อยู่มาได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ และนอกจากเสี่ยจ่าคนนี้ จะประสบความสำเร็จในธุรกิจที่เขาทำแล้ว แต่เขาก็ยังมีความฝันหนึ่งที่รุมเร้า คือการอยากมี “เธียเตอร์” ของตัวเอง ถึงขนาดบินไปดูโชว์มาแล้วเกือบทั่วโลก ผมคิดว่าถ้ามีคนกล้าลงทุน รัฐบาลให้การสนับสนุน ความฝันของเสียจ่าจะเป็นจริงขึ้นมาได้ และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของไทยที่สำคัญในยุคนี้เลยทีเดียว
หนังสือ CEO แห่งโลกกลางคืน เป็นหนังสือที่จะเล่าความเป็นมาเป็นไปของผู้ชายชื่อสมศักดิ์ อ่อนศรี ได้อย่างลึกซึ้ง หลากหลายแง่มุม และยังบอกได้ว่าความสำเร็จของเขาเกิดจากอะไร เขาอยู่อย่างไรในสังคมแบบนี้ สู้อย่างไรกับอุปสรรคที่ผ่านมา และที่สำคัญเขาได้เรียนรู้อะไรมาบ้างจากการประกอบธุรกิจนี้ หากคุณยังเป็นอีกคนหนึ่งที่มองว่าธุรกิจนี้ไม่ยั่งยืน หรือเป็นธุรกิจมอมเมาประชาชน อยากให้ลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน แล้วจะรู้ว่า ยังมีอีกหลายต่อหลายอย่างที่คุณมองข้ามมันไป
...เราเป็นคนกลางวัน แต่ทำงานกลางคืน อย่าให้เขาว่าเราได้ ว่าเราได้แต่เต้นกินรำกิน จงแสดงความสามารถของตัวเองออกมาให้เขาเห็น (จาก...สมศักดิ์ อ่อนศรี)