นามแฝง หรือ นามปากกาของนักเขียน เหตุผลที่นักเขียนไม่ใช้ชื่อจริงในการเผยแผ่ผลงาน อาจมีหลายสาเหตุแตกต่างกันออกไป เช่น ไม่อยากเปิดเผนตัวจริง นามปากกาจำง่ายชื่อเพราะกว่าชื่อจริง หรือแยกประเภทของงานเขียนของตนเอง เช่น นามปากกาที่ใช้เขียนนิยาย และนามปากกาที่ใช้เขียนเรื่องสั้น อาจเป็นคนละชื่อกัน หรือเพื่อไม่อยากให้ชื่อเสียงเดิมของตนมาวัดที่ตัวผลงานใหม่ ลองไปดูกันว่านามปากกา ของนักเขียนชื่อดังระดับโลก ชื่อจริงและตัวจริงของเขาคือใคร
Boris Akunin นามปากกาของ Grigori Chkhartishvili
นักเขียนชาวรัสเซีย ที่มีต้นกำเนิดในจอร์เจียและยิว เขาเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะนักเขียนนิยายนักสืบและประวัติศาสตร์ เขายังเป็นนักเขียนเรียงความและนักประพันธ์ Grigory Chkhartishvili เขายังเขียนภายใต้นามปากกา Anatoly Brusnikin, Anna Borisova และ Akunin-Chkhartishvili และหนังสือ Erast Fandorin ของเขามียอดขายมากกว่าสิบแปดล้านเล่มในรัสเซีย
Richard Bachman และ John Swithen เป็นนามปากกาของ สตีเฟน เอ็ดวิน คิง ( Stephen Edwin King)
นักเขียนนิยายเขย่าขวัญ ชาวอเมริกัน เขาเคยใช้นามปากกา Richard Bachman เขียนเรื่อง
-
Rage (พ.ศ. 2520
-
The Long Walk (พ.ศ. 2522
-
Roadwork (พ.ศ. 2524)
-
The Running Man (พ.ศ. 2525
-
Thinner' (พ.ศ. 2527
-
The Regulators (พ.ศ. 2539)
-
Blaze (พ.ศ. 2550)
Joe Hill นามปากกา Joseph Hillstrom King
ลูกชายของ สตีเฟน เอ็ดวิน คิง แต่ที่เขาต้องใช้นามแฝง เผื่อไม่อยากให้ชื่อเสียงของพ่อมีผลต่อผลงานของเขา เขาจึงสร้างผลงานด้วยตนเอง เขาเรียบจบทางด้านวรรณกรรมอังกฤษ ผลงานของเขาเป็นแนวแฟนตาซี สยองขวัญ เช่น Heart-Shape Box หรือ เปิดกล่องอาฆาต และมีบางเรื่องที่ได้รับการดัดแปลงเป็นซีรี่ย์ เช่น เรื่อง Locke & Key
Robert Galbraith นามปากกาของ เจ เค โรว์ลิ่ง
ปี 2013 มีนวนิยายแนวอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนเล่มหนึ่งออกมาชื่อว่า The Cuckoo’s Calling โดยผู้เขียนชื่อ โรเบิร์ต กัลเบรธ (Robert Galbraith) มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักสืบเอกชนชื่อ คอร์มอรัน สไตรก์ ผู้สูญเสียขาไปจากสงครามที่อัฟกานิสถาน เขาได้รับการว่าจ้างให้สืบสวนเรื่องการฆ่าตัวตายของนางแบบ นักเขียนผู้อยู่ภายใต้หน้ากากของโรเบิร์ต กัลเบรธ ก็คือคนที่นักอ่านทั่วโลกรู้จักกันดี เธอคือ เจ เค โรว์ลิ่ง เจ้าของผลงานยิ่งใหญ่อย่างแฮร์รี่ พ็อตเตอร์...
เจ เค โรว์ลิ่ง กล่าวถึงการใช้นามปากกาโรเบิร์ต กัลเบรธว่า เธออยากได้รับการตอบสนองอย่างบริสุทธิ์ใจจากสำนักพิมพ์และผู้อ่านในฐานะที่เป็นนิยายเรื่องหนึ่ง โดยไม่ต้องคิดว่าผู้เขียนหนังสือเรื่องนี้คือคนเขียนเรื่องแฮร์รี่ พ็อตเตอร์
George Eliot นามปากกาของ Mary Ann Evans
ยอร์ช เอเลียต เป็นนักประพันธ์หญิงในประเทศอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงที่สุด เธอได้เริ่มแต่งหนังสือเป็นงานชิ้นแรกของตนเองเมื่ออายุ 37 ปี เมื่อมีเล่มแรก ก็ตามมาด้วยเล่มที่ 2 ที่ 3 จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงขึ้น หนังสือเรื่องสำคัญที่ยอร์ช เอเลียต แต่งไว้มีดังนี้
1. The Sad fortune of Rev, Amos barton แต่งในปี พ.ศ. 2400
2. Mr. Gilfil’s Love Story แต่งในปี พ.ศ. 2400
3. Jane’s Repentance แต่งในปี พ.ศ. 2400
4. Adam Bede แต่งในปี พ.ศ. 2402
5. The Mill on the Floss แต่งในปี พ.ศ. 2403
6. Silas Marner แต่งในปี พ.ศ. 2404
7. Romola แต่งในปี พ.ศ. 2406
8. Felix Holt แต่งในปี พ.ศ. 2409
9. The Spanish Gypsy แต่งในปี พ.ศ. 2411
10. Agatha แต่งในปี พ.ศ. 2411
11. The Legend of Jubal แต่งในปี พ.ศ. 2411
12. Armgart แต่งในปี พ.ศ. 2411
13. Middlemarch แต่งในปี พ.ศ. 2414
14. Daniel Deronda แต่งในปี พ.ศ. 2419
15. Impressions of Theophrastus Such, แต่งในปี พ.ศ. 2422
หนังสือที่เป็นนิยายชีวิตจริงคือ 3 เรื่องแรก นอกนั้นเป็นนวนิยาย เรื่องที่ทำชื่อเสียงและขายดีมากที่สุดคือเรื่องที่ 4 กับเรื่องที่ 13
Kir Bulychev นามปากกาของ Igor Vsevolodovich Mozheiko
หนังสือของเขาที่สร้างชุด "Guest from the Future" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 และเขาได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง "The Mystery of the Third Planet" และภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์เรื่อง "Through thorns to the stars" ซึ่งเขาได้ปิดบังความจริงนี้อยู่นาน นอกจากนี้เขายังใช้นามปากกาว่า Lev Khristoforovich Mints, Igor Vsevolodovich Vsevolodov, Nikolai Lozhkin
Teffi เป็นนามปากกาของ Nadezhda Alexandrovna Lokhvitskaya
นักเขียนชาวรัสเซียกวีนักแปลและ memoirist หลายคนรู้จักเธอจากเรื่องราวที่โด่งดัง“ Demonic Woman” และ“ Kefer”
Mark Twain (มาร์ค ทเวน) นามปากกาของ Samuel Langhorne Clemens
นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน เป็นนักเขียน นักบรรยาย และนักเขียนเรื่องขบขันชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง และยังเป็นคนขับเรือกลไอน้ำ นักขุดทอง และนักหนังสือพิมพ์อีกด้วย ในช่วงสูงสุดของชีวิตเขานั้น เรียกได้ว่า เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้นเลยทีเดียว เกิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1835 ที่ ฟลอริดา, มิสซูรี, สหรัฐอเมริกา
หลังจากสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกา มาร์ค ทเวน ประสบความสำเร็จครั้งแรกของเขาในฐานะนักเขียน อารมณ์ขัน ในเรื่อง ความไม่เดียงสาในต่างประเทศ (The Innocents Abroad) เป็นเรื่องการผจญภัยของคณะท่องเที่ยวยุโรป
โอ.เฮนรี่ (O. Henry) นามปากกาของ วิลเลียม ซิดนีย์ พอร์เตอร์ (William Sydney Porter)
เป็นนักเขียนชาวอเมริกันที่มีเรื่องสั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับโลก โดยผลงานส่วนใหญ่ของเขานั้น จะเป็นแนวหักมุมที่ชวนให้ติดตาม แม้นักวิจารณ์ส่วนใหญ่จะยกย่องโอ.เฮนรี ถึงการเขียนบทสรุปที่ชาญฉลาด
เขาออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 และเริ่มชีวิตการทำงานทันที เด็กหนุ่มผ่านงานมากมาย รวมทั้งการเป็นพนักงานธนาคาร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 1896 ก็ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินของธนาคาร เขาจึงหนีไปกบดานยังฮอนดูรัส ทว่าเมื่อรู้ว่าภรรยาป่วยหนักและกำลังจะตาย เพื่อที่จะดูใจเมียเป็นครั้งสุดท้ายเขาจึงกลับอเมริกาและต้องถูกตำรวจจับกุมในที่สุด แม้ว่าต่อมาจะมีการถกเถียงเรื่องความผิดของเขา ทว่าที่สุดแล้วก็ถูกตัดสินจำคุกถึง 5 ปี ในเรือนจำที่โคลัมบัส,โอไฮโอ
ขณะอยู่ในคุกเขาเริ่มเขียนเรื่องสั้น เรื่องที่ตีพิมพ์ครั้งแรกคือ "Whistling Dick's Christmas Stocking" (1899) โดยใช้นามแฝงว่า ‘โอลิเวีย เฮนรี’ แต่นามปากกานี้ก็ใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะจากนั้นเขาได้เปลี่ยนไปเป็น ‘โอ.เฮนรี่’
และจากนามปากกา โอ.เฮนรี่ นี่เอง ที่ทำให้เขาได้เผยแพร่เรื่องราว 12 เรื่องขณะอยู่ในคุก และนั่นเป็นดั่งใบเบิกทางสู่วงการวรรณกรรม เพราะเมื่อหลังจากพ้นโทษ เขาได้ย้ายไปอยู่นิวยอร์ก และได้งานเป็นนักเขียนประจำที่หนังสือพิมพ์ ‘นิวยอร์กเวิลด์’ จนกระทั่งในปี1904 จึงได้มีผลงานรวมเล่มครั้งแรกในชื่อ "Cabbages and Kings"
ผลงานชุดแรกนับว่าประสบความสำเร็จตามสมควร จนต่อมาในปี 1906 จึงตามด้วย "The Four Million" รวมถึงเรื่องสั้นอันเป็นที่รู้จักกันดีอีกหลายเรื่องเช่น "Gift of the Magi", "The Skylight Room" และ "The Green Door"
George Orwell (จอร์จ ออร์เวล) นามปากกาของ อีริค อาเธอร์ แบลร์ (Eric Arthur Blair)
เป็นนักเขียนและนักวิจารณ์ ผลงานหนังสือแนวสังคมนิยมเล่มแรกของ Orwell คือ The Road to Wigan Pier เขามีชื่อเสียงจากงาน Animal Farm(1945) และ Nineteen Eighty-four(1949) ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นนิยายอันลุ่มลึก ซึ่งชี้ให้เห็นถึงภัยของระบอบการปกครองแบบเผด็จการ