หนังสือเล่มโปรด วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง : ผู้กำกับภาพยนตร์และนักเขียนบทภาพยนตร์

หนังสือเล่มโปรด วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง

      วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เป็นผู้กำกับภาพยนตร์และนักเขียนบทภาพยนตร์  สไตล์การกำกับภาพยนตร์ของคุณวิศิษฎ์จะเป็นแนวจินตนาการเหนือจริงและใช้สีสันฉูดฉาด และในหลายฉากที่เขากำกับมักจะยกย่องความคลาสสิกของหนังไทยในยุคเก่าอยู่เสมอๆ อย่างเช่นในเรื่อง ฟ้าทะลายโจร , อินทรีแดง และ 2499 อันธพาลครองเมือง

 

ป.อินทรปาลิต

 

      หนังสือดีที่หล่อหลอมคน บางครั้งอาจไม่ใช่หนังสือยิ่งใหญ่อะไรแต่เป็นหนังสือที่เคยแบ่งปันชีวิตวัยเด็ก อย่างเช่น หัสนิยายชุด “สามเกลอ” ของ ป.อินทรปาลิต

 

ภาพจากร้านหนังสือริมขอบฟ้า

 

      “รวมเรื่องชุดสามเกลอ” เป็นเรื่องที่เด็ก ๆ อ่านได้ง่าย นักเขียนหลายคนกับนักอ่านเป็นจำนวนมากยอมรับกันแล้วว่า งานของ ป.อินทรปาลิตนั้นคลาสสิก มีเหตุการณ์ในอดีตไว้หมด และอ่านสนุกกว่าอ่านตำราประวิติศาสตร์ เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึก เรื่องของคน บางตอนก็เกี่ยวกับรัฐนิยมในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เรื่องห้ามคนกินหมาก เรื่องต้องนุ่งกระโปรง ใส่หมวก เรื่องต้องเชื่อผู้นำแล้วชาติพ้นภัย ป.อินทรปาลิตเล่าเรื่องบบตลก สนุก ประชดบ้าง ทำให้เห็นบรรยากาศบ้านเมืองในยุคนั้น เห็นการพัฒนาของตัวละคร ตัวละครมีเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ จนถึงรุ่นลูก รู้สึกเหมือนเหล่าตัวละครเป็นเหมือนญาติขิงเรา เพราะรู้จักกันตั้งแต่เด็ก

 

สามเกลอ ชุดศาลาโกหก

 

     เรื่องของพระเอก เป็นพวกคนรวยที่จะดูใช้ชีวิตเหลวไหลไร้สาระ เรื่องของเจ้าขุนมูลนายอย่างเจ้าคุณปัจจนึกฯ ยังมีคุณหญิงคุณนายยุคเก่ากับคนใช้อย่างไอ้แห้ง ที่ชอบพูดว่า “น่ารับประทานเสมอ” น่ารับประทานโน่น น่ารับประทานนี่ ซึ่งการเขียนด้วยภาษาง่าย ๆ แบบนี้ ทำให้เด็กรู้สึกอยากเขียนบ้าง ทำให้เริ่มต้นในการรักการอ่าน เพราะเรื่องอ่านง่าย ภาษาง่าย ๆ ที่ป.อินทรปาลิตใช้ และเรื่องที่ดูไร้สาระ ตลกโปกฮาไปวันๆ แต่จริง ๆ แล้วแฝงด้วยสาระ มีแง่มุมรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้เราจดจำ สมัยนั้นสถานที่ใดฮิต ร้านอะไรดัง ค่าเงินเป็นอย่างไร ชุดสามเกลอมีอิทธิพลต่อผม ทำให้ผมเขียนนู่นเขียนนี่

 

               

 

      อีกชุดหนึ่งของ ป.อินทรปาลิตเหมือนกันคือ เสือดำ”  “เสือใบ” และ ดาวโจร” ยุคนั้นจะมีโจรดังๆ อยู่จริงๆ แต่ ป.อินทรปาลิต เอามาเขียนให้สนุกสนาน แต่งเติมจากอิทธิพลของหนังคาวบอย ทุกคนพยายามเป็นฮีโร่กัน ฮีโร่เป็นโจร ป.อินทรปาลิตแกทันสมัยมาก เขียนเป็นสิบ ๆ เล่ม เริ่มที่เสือใบ ฮิตมากในสมัยนั้น เสร็จแล้วสร้างเสือดำ ฮิตอีก ทีนี้เสือดำกับเสือใบมาพบกันในดาวโจร ต่อมาเป็นรุ่นลูก ๆ ของดาวโจร สนุก อ่านแล้วติดแหงกเลย

 

       เรื่องพวกนี้ ถ้าอ่านในสมัยนี้อาจไม่สนุกก็ได้ แต่สมัยผมเป็นเด็กมันสนุก อ่านแล้วรู้เลยว่าเป็นเรื่องทำดีได้ดี ไม่ต้องตีความ เพราะโลกมันซื่อ ๆ ตรง ๆ ไม่เหมือนนิยายสมัยนี้ ที่ตัวละครมีบุคลิกเหมือนคนจริง มีด้านดีและด้านชั่ว ต่างกับยุคเสือใบ เสือดำ ที่โจรเป็นฮีโร่ในอุดมคติ โจรที่ปล้นคนรวยช่วยคนจน โจรที่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ทำร้ายผู้หญิง คนยุคนี้ อาจเถียงว่าเป็นโจร ไม่เคยทำอะไรผู้หญิงได้ไงวะ

 

       เด็กสมัยนี้มาอ่านอาจไม่ชอบ เพราะเชย แต่ความเป็นคลาสสิกสำหรับผม มันอยู่ในหัวเรา เป็นความรู้สึกที่ไม่ตาย งานหนังของผมได้รับอิทธิพลจากงานเขียนของคุณ ป.อินทรปาลิต ซึ่งเป็นเรื่องตลก ๆ ไม่ใช่เรื่องของปัญญาชนหรือนักวรรณกรรม แต่งานเขียนของคุณ ป.อินทรปาลิต แต่งานเขียนของคุณ ป.อินทรปาลิต มันเป็นเหมือนบ้านทรายทองของ ก. สุรางคนางค์ที่ข้นหิ้ง กลายเป็นอะกาลิโกไปแล้ว

 

        ผมว่าคุณค่าของหนังสืออยู่ที่ตัวของหนังสือ อยู่ที่ตัวของคนอ่านว่ารู้สึกกับมันอย่างไร มันมีบุคลิคบางอย่างที่เป็นตัวเรา เราที่เป็นเราอยู่ทุกวันนี้ มันมีรากเหง้า บางครั้งเราเสพหนังสือดีของฝรั่งมาก ๆ มันไม่ค่อยดี เพราะเข้าไม่ถึง เพราะไม่ได้มาจากรากเหง้าของเรามาพัฒนา ทำให้เป็นโมเดิร์นแบบของเรา เหมือนวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น เขาจะไม่ทิ้งของดั้งเดิม แต่เขาศึกษาทั้งเก่าและใหม่ เขาจึงมีวรรณกรรมที่น่าทึ่งออกมา พวกฝรั่งก็เหมือนกัน

 

      ผมคิดว่า ทุกวันนี้คนส่วนน้อยที่อ่านหนังสือเพื่อรสชาติวรรณคดีและเราก็โทษคนส่วนใหญ่ไม่ได้ เพราะเขาเป็นผลผลิตของสังคม สังคมมันกลวง  เราเสพของดี ๆ น้อยไป หนังสือดี ๆ เปลี่ยนชีวิตเราได้ หนังสือเพียงเล่มเดียวสามารถเปลี่ยนการมองโลกของเราได้ หนังสือบางเล่มคนเขียนใช้เวลาทั้งชีวิตเขียน  คั้นกลั่นเป็นหัวกะทิให้เราอ่านภายในสองวัน เราจะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเรียนรู้ชีวิตคนทั้งชีวิต     

 

ที่มา : หนังสือ คนดังกับหนังสือดี                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                   

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ