วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น : ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

 

ลว.สุดท้าย เขียนโดย โก้ บางกอก (วสิษฐ เดชกุญชร)

     นวนิยายคลาสิกของนักเขียนอาชญนิยาย เรื่องราวของวีร์ บุญแต่ง ตำรวจตระเวนชายแดนในอุดมคติ ผู้ยึดมั่นในหลักการและความถูกต้อง

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

รอยวสันต์  เขียนโดย ยุวดี ต้นสกุลรุ่งเรือง 

     รอยวสันต์ เรื่องราวในอดีตของสี่สาวจีนโพ้นทะเล เข่ง เก๋ง โหว ไกว ที่อพยพเข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยทั้งสี่ได้เข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านให้กับผู้มีฐานะ จนกระทั่งเวลาผ่านไประยะหนึ่งต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตตามเส้นทางของตัวเอง เข่งและเก๋งยังอยู่ที่เมืองไทย ไกวไปอยู่ที่แคนาดา โหวไปอยู่ที่สิงคโปร์ เมื่อวันเวลาผ่านไปหลายสิบปีทั้งสี่คนก็อยู่ในวัยสูงอายุ และมีลูกมีหลานมากมายหลายคน วันหนึ่งทั้งสี่คนก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ความสนุกสนานและเรื่องเก่าๆ ในอดีตก็เริ่มมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านการบอกเล่าของทั้งสี่คนให้คนรุ่นหลานฟัง และได้รับรู้ถึงมิตรภาพ ความรัก ความผูกพันที่ยังคงอยู่ในหัวใจของย่าทั้งสี่คน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

สั่งซื้อรอยวสันต์ : http://bookonline.praphansarn.com/home/detail/161

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

อยู่กับก๋ง โดย หยก บูรพา

     พิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2519 “อยู่กับก๋ง” จะพาคุณไปสัมผัสกับวรรณกรรมเรื่องเยี่ยมอีกเล่มหนึ่งของ “หยก บูรพา” ซึ่งเป็นนามปากกาหนึ่งของ “เฉลิมศักดิ์ รงคผลิน” เป็นเรื่องราวที่ผู้แต่งเขียนขึ้นจากประสบการณ์จริง โดยมีตัวเองของเรื่องคือเด็กผู้ชายที่ชื่อ “หยก” ได้เล่าถึงชีวิตในสมัยเยาว์อยู่กับก๋งชาวจีนผู้อพยพจากผืนแผ่นดินบ้านเกิดมาอยู่เมืองไทย เป็นนวนิยายที่ให้ข้อคิด แนวคิดและวีถีการดำเนินชีวิตที่ดีงาม พร้อมทั้งเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตและอาชีพของคนจีน ถ่ายทอดด้วยสำนวนภาษาสละสลวย ชวนอ่าน ชวนติดตาม การันตีด้วยรางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

จะหลับตาลงได้อย่างไร  โดย เสาวรี

     รวมเรื่องสั้นที่คอยย้ำเตือนว่าเราทุกคนล้วนเป็นเพียงมนุษย์ที่ยังลุ่มหลงความมัวเมาในอารมณ์ความรู้สึกและความคิด เราทุกผู้ทุกนามล้วนติดในบ่วงแห่งตัณหาอันน่าร้อยรัด อย่างไรก็ตาม ตัณหาอาจไม่ใช่เรื่องผิดบาปร้ายแรง เพราะมันเป็นคุณสมบัติหลักอย่างหนึ่งที่มนุษย์ทั่วไปพึงมี แต่บ่อยครั้งเราจะพบว่าขณะที่เรากำลังลุ่มหลงกับความเป็นมนุษย์อยู่นั้น เรามักจะหลงลืม หรือพยายามไม่ใส่ใจต่อผลที่เราย่อมรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น ซึ่งที่สุดแล้วผลของความลุ่มหลงนั้นก็กลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรคอยตามไล่ล่าชะตาชีวิตของเราในภายหลัง

สั่งซื้อจะหลับตาลงได้อย่างไร : http://bookonline.praphansarn.com/home/detail/157

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

ซาเก๊าะและรวมเรื่องเอก โดย มนัส จรรยงค์

     พิมพ์ครั้งแรก สนพ.ประพันธ์สาส์น พ.ศ.2511 โดยในเล่มรวม 23 เรื่องสั้น อาทิ เสือเก่า, ค่าไถ่, เปลป่า, ติดขวาก, จาลี, ศพในชีวิต, รักที่เผาใจ, วาระสุดท้ายของโสภณ ฯลฯ

     "ซาเก๊าะ" เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นของ มนัส จรรยงค์ อีกเล่มหนึ่ง ซึ่งสำนักพิมพ์สามารถกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า เรื่องสั้นประดามีที่ได้รับการเลือกสรรรวมเข้าอยู่ในเล่มนี้ ล้วนแต่อยู่ในจำนวนเรื่อง "อันเป็นที่รัก" ของ มนัส จรรยงค์ นักประพันธ์ใหญ่ของเมืองไทยผู้จากไปทั้งสิ้น

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

เพียงความเคลื่อนไหว  โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ 

     พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2517 เป็นกวีนิพนธ์ของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ตีพิมพ์ในนิตยสารต่าง ๆ ในช่วงปี พ.ศ. 2516 - 2522 และพิมพ์รวมเล่มครั้งแรก พ.ศ. 2517 เนื้อหากล่าวถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ซึ่งขบวนการนักศึกษาประชาชนได้เรียกร้องรัฐธรรมนูญ และขยายตัวเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมด้านต่าง ๆ ของสังคม

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

อัญมณีแห่งชีวิต โดย อัญชัน                                    

     พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2523 และเป็นหนังสือรางวัลซีไรต์ปี 2533 รวม 11 เรื่องสั้นคัดสรร เสนอปัญหาต่างๆ ของชีวิต ตั้งแต่ปัญหาส่วนบุคคล ปัญหาครอบครัว สังคม จนถึงปัญหาที่กล่าวถึงวัฏจักรแห่งชีวิตอันเป็นสัจธรรม   ผู้เขียนเสนอแนวคิดได้อย่างแยบยล ละเอียด ประณีต ลึกซึ้ง ละเมียดละไม ช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์อย่างหลากหลาย ทั้งอ่อนหวาน เศร้า กร้าว แกร่ง โหดร้ายและแม้กระทั่งสยองขวัญ จนคุณวางไม่ลงเลยทีเดียว

สั่งซื้ออัญมณีแห่งชีวิต :  http://bookonline.praphansarn.com/home/detail/449

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

กูเป็นนิสิตนักศึกษา โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ-ขรรค์ชัย บุญปาน       

     พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2512 รวมบทกวีนิพนธ์ของสุจิตต์ วงษ์เทศ – ขรรค์ชัย หากแต่ทว่ามันกลับสะท้อนภาพลักษณ์ของสังคมไทยในปัจจุบันได้ดี

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

ขอบกรุง  โดย ราช รังรอง (รัตนะ ยาวะประภาษ)       

     ตีพิมพ์เมื่อปี พ.ศ. 2514  “ขอบกรุง” เป็นต้นแบบของกวีนิพนธ์ ที่หลุดพ้นจากกฎเกณฑ์ฉันทลักษณ์ ที่คงไว้ทั้งความคิดและความงามอย่างยากที่ใครจะทำได้เทียบเคียง ราช รังรอง คือกวีร้อยแก้วที่มุ่งหาแนวทางเฉพาะตนเองมากกว่าน้ำเสียงร้อยกรอง หาก “สัมผัสอารมณ์” และเป็นคนแรกๆ ของเมืองไทยที่นำเสนอด้วยวิธีการเช่นนี้“ข้าพเจ้าไม่ทราบ ไม่ทราบด้วยซ้ำว่ามันเป็นอะไรรู้อยู่อย่างเดียวนี่คือวิธีการเขียนที่ข้าพเจ้ารัก”

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

อยุธยาวสาน โดย จินตนา ปิ่นเฉลียว                                

     ร้อยกรองเล่มนี้ได้รับรางวัลเคนดี้ทางวรรณคดีของมูลนิธิ จอห์น  เอฟ.  เคนดี้  แห่งประเทศไทย  สำหรับปี พ.ศ. 2516

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

คนเขียนหนังสือ โดย เสถียร จันทิมาธร

     พิมพ์ครั้งแรก ธ.ค.2517 วรรณกรรมไม่เพียงแต่จะเป็นผลิตผลที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนถ่ายความจัดเจนที่ได้รับจากการต่อสู้ของชีวิตทั้งในทางธรรมชาติและสังคม หากยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมเพื่อรับใช้ผลประโยชน์ของกลุ่มความคิดที่ตนสังกัดอยู่ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณกรรมกับสังคมมีต่อกันและกันอย่างลึกซึ้งถึงกับมีผู้กล่าวว่า (เรา) ดูวรรณกรรม (ได้) จากวรรณกรรม วรรณกรรมแต่ละเรื่องในแต่ละยุคสมัยจึงเป็นภาพสะท้อนด้านใดด้านหนึ่งของสังคม การคลี่คลายขยายตัวของวรรณกรรมย่อมเป็นไปตามการคลี่คลายของสังคม และนี่คือที่มาของ “คนเขียนหนังสือ”..จากปกหลัง..

     ว่าด้วยเรื่องราวของวรรณกรรมกับสังคม แนวคิด และประวัติของนักเขียน เช่น อ.อุดากร,หม่อมเจ้าอากาศดำเกิงฯ,และกุหลาบ สายประดิษฐ์

 

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

แม่จัน สายน้ำที่ผันเปลี่ยน  โดย เตือนใจ ดีเทศน์ 

     เรื่องเล่าผ่านจดหมายของหญิงสาวที่เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ อนาคตของเธอคงจะไปได้ไกล และคงจะมีอาชีพการงานในเมืองหลวงอันศิวิไลซ์ แต่เธอกลับเลือกที่จะไปทำงานเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนการศึกษาสำหรับผู้ใหญ่ที่ชุมชนชาวไทยภูเขาในชนบทห่างไกลและทุรกันดารบริเวณลุ่มน้ำแม่จัน ทางตอนเหนือของประเทศไทย ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศพม่า ปัจจุบัน เธอได้ชื่อว่าเป็นสตรีนักสู้เพื่อสิทธิของชนกลุ่มน้อยอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และยังเคยได้รับรางวัล 1 ใน 25 นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่นของโลก โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nation Environment Program: UNEP) ทั้งยังได้รับตำแหน่งในฐานะสมาชิกวุฒิสภา และเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทั้งยังผลักดันเพื่อเรียกร้องให้ชาวไทยภูเขาได้รับสัญชาติและสิทธิคุ้มครองตามกฎหมายอีกด้วย

สั่งซื้อแม่จัน สายน้ำที่ผันเปลี่ยน : http://bookonline.praphansarn.com/home/detail/29

 

วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยร.9 ที่เคยตีพิมพ์โดย ประพันธ์สาส์น

 

งู โดย วิมล ไทรนิ่มนวล 

       นวนิยายเปิดเผยพฤติกรรม "เอาสวรรค์มาฉก เอานรกมาขู่" เป็นเรื่องราวการวิพากษ์วิจารณ์พฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ..ที่นับวันจะยิ่งออกนอกลู่นอกทางวัตรปฏิบัติมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันก็สะท้อนสภาพชีวิต ความเชื่อของคนในสังคมไทยอย่างถึงแก่น ด้วยลักษณ์การเขียนแบบอุปมา เนื้อหาเข้มข้น การดำเนินเรื่องเร้าใจจนยากที่ใครอ่านแล้วจะวางลงก่อนจบ

 

 

 

หนังสือ พล นิกร กิมหงวน โดย ป.อินทรปาลิต  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482-2511

โดยชุดศาลาโกหกนี้ ตีพิมพ์ขึ้นราวปี พ.ศ. 2511 เรื่องราวความสนุกสนาน หลากหลายรูปแบบที่จะทำให้คุณ ทั้งหัวเราะ โกรธ เศร้า เหงา ตลก ด้วยภาษาที่อ่านง่าย ๆ พร้อมกันนั้นก็ได้สอดแทรกเรื่องราวของประวัติศาสตร์ไว้ด้วย ซึ่งเรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้ว่าก่อนว่าจะมีในประเทศ ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในสมัยนั้นๆ นอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินแล้วยังได้ความรู้ไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

สั่งซื้อชุดศาลาโกหก: http://bookonline.praphansarn.com/home/detail/467

 

และยังมีเรื่อง "อุดมคติแย้ง"  โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2522

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ