แนะนำหนังสือไทยที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ : วรรณกรรมไทยสู่ตลาดโลก

แนะนำหนังสือไทยที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ

แนะนำหนังสือไทยที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ

 

A ARRIVAL OF DAWN แปลมาจากเรื่อง ฟ้าสางที่กลางใจ เขียนโดย คุณเพ็ญศรี เคียงศิริ

     เป็นนิยายสะท้อนสังคมที่มีตัวละครหลักเป็นผู้เล่าถึงเรื่องราวของตัวเธอเอง ผู้เขียนพรรณนาถึงชีวิตของแม่ซึ่งเป็นผู้นำครอบครัวที่ได้ตัดสินที่จะให้ลูกสาวคนโตเป็นที่พึ่งพิงของพี่ๆ น้องๆ และลูกสาวเองก็ยอมทำตามความต้องการของผู้เป็นแม่ ยอมสละละทิ้งความสุขส่วนตัว แบกรับแรงกดดันทั้งกายและใจ เป็นลูกที่เชื่อฟังและรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างยิ่งยวดตลอดชีวิตของแม่โดยไม่ย่อท้อ อย่างไรก็ตาม ในบั้นปลายของชีวิต ผู้เป็นแม่ก็ได้พบกับแสงธรรมนำทางและนำความกระจ่างมาสู่จิตใจ ด้วยพระธรรมคำสอนเรื่อง “ทางสายกลาง” ได้นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตของเธอเองในที่สุด

 

 

THE SKY SO NEAR แปลมาจากหนังสือเรื่อง ฟ้ากว้างทะเลใกล้ เขียนโดย คุณเพ็ญศรี เคียงศิริ

     เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5-6 ของสยามประเทศ ในช่วงที่คาบสมุทรมาเลย์ยังเป็นของเราอยู่ และถูกยึดครองโดยประเทศอังกฤษในภายหลัง ฉากหลังของเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ในบันทึกประวัติศาสตร์ที่เชื่อถือได้โดยผู้เขียนเอง นวนิยายเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางสัญชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมของชาวสยาม ชาวจีน และชาวมาเลย์ รวมไปถึงความคิดและสังคม การอยู่ร่วมกัน ตั้งแต่ช่วงก่อนที่คาบสมุทรจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และในภายหลังที่พวกเขาต้องกลายเป็นคนละชาติกัน เราจะเห็นได้จากงานเขียนนี้ว่า พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ต่อไปและทำงานร่วมกันเป็นชุมชน ความผูกพันของครอบครัวและญาติพี่น้อง รวมทั้งความผูกพันระหว่างมิตรแท้ การแสดงความห่วงใย ความเป็นมิตรและความเคารพต่อทุกคน ทั้งหมดนี้นำพวกเขาไปสู่วิถีชีวิตที่มีความสงบและความสุข และพัฒนาไปสู่ความสำเร็จ

 

 

POON PID THONG: GOLD-PASTED CEMENT แปลจากหนังสือ "ปูนปิดทอง" ผลงานของ คุณกฤษณา อโศกสิน นักเขียนอมตะของไทย

      นวนิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ในปี พ.ศ. 2528 เป็นวรรณกรรมริเริ่มสร้างสรรค์ เกี่ยวกับความรักหนุ่มสาวที่มีปัญหาครอบครัวบ้านเเตกสาเเหรกขาด ซึ่งสะท้อนความเข้าใจของชีวิต ชี้ให้เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ในหน้าที่ของพ่อเเม่ ทำให้เกิดความเข้าใจกัน และยังเสนอแนวคิดอันเป็นประโยชน์สร้างสรรค์ให้กับชีวิตครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยผ่านสองตัวละครเอกในเรื่องได้แก่ สองเมือง และ บาลี ทั้งคู่เกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้าง เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ บาลีศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก และชักจูงให้สองเมืองลืมความข่มขื่นใจที่เคยเกิดขึ้น ทำให้สองเมืองรักบาลี และมั่นใจว่าชีวิตคู่ของเขาและเธอจะไม่เป็นอย่างพ่อกับแม่ และจะเป็นพ่อแม่ที่เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่เป็นเพียงรูปหล่อปูนที่ปิดด้วยทอง ซึ่งไม่มีค่าอะไร

 

 

A WALKING THROUGH THE SPRING แปลจากหนังสือรางวัลชมนาดครั้งที่ 1 "รอยวสันต์" ผลงานเขียนโดยคุณยุวดี ต้นสกุลรุ่งเรือง

     เป็นเรื่องราวของผู้หญิงทำงานที่อยู่เบื้องหลังความความสุขสบายของบ้านใหญ่ทั้งหลาย เพราะผู้หญิงจีนอพยพมักไม่ได้รับการกล่าวถึงอย่างเป็นเอกเทศในบริบทของสังคมไทย นอกจากว่าเธอจะเป็นเมียของเจ้าสัวหรือนายห้างสักคน อาจเพราะเธอไม่รู้หนังสือหรืออาจเพราะเธอเป็นช้างเท้าหลัง หรือเพราะคนเขียนหนังสือจำนวนมากเป็นผู้ชาย และนานเหลือเกินกว่าเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่า “อาสำ” จะได้รับการพูดถึง พวกเธอต้องรอจนกว่าเลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเธอจะอ่านออกเขียนได้ เพราะมีแต่การอ่านออกเขียนได้เท่านั้นที่เรื่องราวของพวกเธอจะได้รับการส่งต่อผ่านไปยังคนรุ่นต่อๆ มา

 

 

I AM ERI: MY EXPERIENCE OVERSEAS แปลจากหนังสือรางวัลชมนาดครั้งที่ 2 "ฉันคือเอรี่กับประสบการณ์ข้ามแดน" เขียนโดย คุณธนัดดา สว่างเดือน 

      เรื่องจริงของโสเภณีไทยคนหนึ่งที่ถูกความยากจนบีบบังคับให้จำต้องไปขายตัวแลกเงินในต่างแดน ก็ด้วยความหวังว่าครอบครัวจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และการไปผจญชีวิตครั้งนี้ก็ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับความสุข ความเศร้า ความเหงา ความรัก และบทพิสูจน์หลายอย่างที่ท้าทายความเป็นมนุษย์สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ท่ามกลางโลกที่โหดร้ายเหลือ ซึ่งผู้เขียนถ่ายทอดออกมาได้ด้วยลีลาชวนติดตาม ทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกรันทดท้อไปกับชีวิต แต่กลับเฝ้าลุ้นไปกับเรื่องราวแต่ละหน้า แต่ละตอนด้วยความอัศจรรย์ใจ

 

 

PREUKSA MATA: Suffering Mother แปลจากหนังสือรางวัลชมนาดครั้งที่ 3 "พฤกษามาตา" ผลงานเขียนโดญ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข 

     เขียนขึ้นจากประสบการณ์โดยตรง ด้วยหวังว่า...แม่ผู้มีชีวิตที่อัศจรรย์สร้างคุณูปการต่อโลก ประดุจต้นไม้เติบโต หยั่งรากลงลึก ยึดผืนดินมั่น ชูลำต้นกิ่งใบ สร้างร่มเงาให้โลกร่มเย็น เป็นแหล่งผลิตออกซิเจน เป็นแหล่งน้ำ เป็นแหล่งอาหาร แหล่งทรัพยากร สร้างความอุดมสมบูรณ์ สร้างความสวยงาม สร้างร่มเงาให้ความร่มเย็น แก่ทุกมวลชีวิต...ควรจะได้เป็นตัวอย่างให้ผู้คนเดินรอยตาม หรืออนุโมทนาในความดี ความรัก ความเมตตา ความเสียสละ ที่แม่ได้กระทำต่อลูกและต่อโลกฉันใด แม่ผู้มีชีวิตหล่นลงไปในเงามืดดำ จาก โลภ โกรธ หลง หรือ อื่นใด จากเงื่อนไขชีวิตที่บังคับ เฉกเช่นต้นไม้ที่ไม่อาจเติบโต เปราะบางหักง่าย จนอาจเกิดอันตรายแก่ผู้คนที่อาศัยร่มเงา...ก็ควรได้รับการช่วยเหลือ ทั้งเป็นตัวอย่างที่สอนใจ ไม่ให้แม่คนอื่นๆ เดินตามรอยไปฉันนั้น

 

 

ONE LIFE BEFORE SUNSET แปลจากหนังสือรางวัลชมนาดครั้งที่ 3 เช่นกัน เรื่อง "ก่อนสิ้นรุ่งอรุณแห่งฝัน" ผลงานโดย คุณสิริญรำไพ ประพันธุ์ทวี

      บอกเล่าเรื่องราวความใฝ่ฝันความหวังการรอคอยการมุ่งแสวงหารวมถึงการคาดหวังของเด็กหญิงคนหนึ่งที่เกิดในแผ่นดินอีสานของประเทศไทยที่ต้องใช้ทั้งความอดกลั้นอดทนต่อสู้และให้กำลังใจตัวเองมากกว่าหลายคนบนโลกใบนี้ เส้นทางเดินชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหามีทุกข์มีสุขมีสมหวังและผิดหวังเปรียบเหมือนท่วงทำนองของดนตรีหลายชนิดผสมผสานกันไปมาทั้งลูกทุ่งลูกกรุงบลูส์แจ๊สเรกเก้จนถึงฮาร์ดคอร์พังค์ครบรสก็ว่าได้ มองแง่บวกก็อาจคิดได้ว่าเป็นความโชคดีของชีวิตหนึ่งที่ได้เต้นรำไปกับจังหวะของดนตรีหลายแบบหลายแนวมันไม่ซ้ำซากจำเจดีแล้วมันยังทำให้มีความตื่นเต้นเร้าใจพร้อมการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลานั่นหมายถึงการเพิ่มความแข็งแกร่งให้ชีวิตและจิตวิญญาณของตนให้รอดพ้นจากสิ่งเร้าต่างๆที่ก่อกวนอยู่รอบๆตัวเราทุกเมื่อเชื่อวัน หากก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะหลุดพ้นจากท่วงทำนองเหล่านั้นได้ถ้าจิตใจไม่แข็งแรงพอ... "ก่อนสิ้นรุ่งอรุณแห่งฝัน" เสมือนเป็นบันทึกชีวิตของคนคนหนึ่งที่ได้เดินทางผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายทั้งร้ายทั้งดีมีหลายมุมที่น่าเรียนรู้สามารถหยิบบางส่วนหรืออาจจะหยิบมาทั้งหมดแล้วนำมาประกอบและปรับใช้ในชีวิตประจำวันประจำเดือนประจำปีกระทั่งประจำใจของตัวเองก็ได้ไม่ผิดกฎกติกาแต่ประการใด

 

 

A PHYSICIAN WAS BRANDED A MURDERER  แปลจากหนังสือ "เขาตราหน้าว่าหมอฆ่าคน" เขียนโดย อู๋ฮุ่ยเซียง นามปากกาของ พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร ซึ่งได้รับรางวัลชมนาดครั้งที่ 4 

      เรื่องราวของแพทย์ที่ถูกฟ้องร้องการปฏิบัติหน้าที่เกิดขึ้นจริงเมื่อปี2550 โดยฝ่ายโจทก์ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า เธอละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้คนไข้ถึงแก่ความตาย ตลอดการต่อสู้คดี เธอพยายามพิสูจน์ตนให้คู่กรณีและทุกคนได้เข้าใจข้อเท็จจริง โดยหวังว่าความบริสุทธิ์ใจและความตั้งใจในการทำหน้าที่จะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาได้ 

 

 

CAGED: Woman's Voice from a Bangkok Prison ผลงานของคุณธนัดดา สว่างเดือน ชื่อไทยว่า "ขังหญิง" หนังสือชนะเลิศรางวัลชมนาดครั้งที่ 5

     เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในทัณฑสถานเป็นเวลากว่า 3 ปีเธอได้เรียนรู้สัจธรรมชีวิตจากการใช้ชีวิตภายใต้กฎระเบียบที่รัดกุมท่ามกลางเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก หลายร้อยชีวิตที่ต่างคนต่างก็ต้องต่อสู้ชีวิต และหาทางเอาตัวรอดจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ หรือแม้ กระทั่งเรื่องราวชีวิตคนรอบข้าง ก็ได้สร้างมุมมองความคิดเกี่ยวกับชีวิตจริงของมนุษย์แก่เธอได้เป็นอย่างดี ...ขังหญิง เล่มนี้ สะท้อนให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงความยากลำบากของชีวิตผู้ต้องขังที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอา ตัวรอดอยู่ทุกเมื่อ แม้โลกหลังกำแพงนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ถ้าหากวันหนึ่ง คุณทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบก็ตาม ความผิดพลาดนั้นก็อาจทำให้คุณต้องก้าวเข้าสู่โลกมืดแห่งนี้ เป็นเดือน เป็นปี หรือร้ายที่สุด...อาจจะต้องอยู่ไปตลอดชีวิต

 

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ