คุณสฤณี อาชวานันทกุล นักเขียน นักแปล และกรรมการผู้จัดการ ด้านการพัฒนาความรู้ บริษัท ป่าสาละ จำกัด จบการศึกษาปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก มีประสบการณ์ทำงานในภาคการเงินกว่า 8 ปี ในฐานะวาณิชธนกรที่ธนาคารดอยช์ สาขาฮ่องกง พนักงานสินเชื่อที่ธนาคารไทยพาณิชย์ วาณิชธนกรและรองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กรที่บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ ตำแหน่งสุดท้ายเป็นกรรมการบริหารของบริษัท ฮันเตอร์ส แอ็ดไวซอรี่ จำกัด ก่อนที่จะตัดสินใจออกมาทุ่มเทเวลาให้กับงานเขียนและงานวิจัยอย่างเต็มตัว
นักท่องเว็บชาวไทยส่วนใหญ่รู้จักสฤณีในชื่อ “คนชายขอบ” หรือ “Fringer” จากบล็อก http://www.fringer.co/ ซึ่งการเขียนบล็อกได้นำไปสู่การเป็นคอลัมนิสต์ประจำโอเพ่นออนไลน์ งานเขียนและแปลของเธอส่วนใหญ่สะท้อนความสนใจอย่างต่อเนื่องในกิจการเพื่อสังคมและการเงินเพื่อสังคม
ปัจจุบันมีความสุขกับการติดตามและถ่ายทอดพัฒนาการใหม่ๆ ณ พรมแดนความรู้ทางเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ ผ่านการเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการด้านการพัฒนาความรู้ บริษัท ป่าสาละ จำกัด, อาจารย์พิเศษ วิชา “ธุรกิจกับสังคม” ในหลักสูตรควบบริหารธุรกิจบัณฑิต (การจัดการแบบบูรณาการ) และวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (โครงการ 5 ปี) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคอลัมน์ต่างๆ ในสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ “ประชาชน 2.0” ในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ และ "Game Theory" บนเว็บไซต์ The Matter
โดยแต่ละปี คุณสฤณี จะแนะนำหนังสือไว้ในเว็บไซต์ www.goodreads.com ประพันธ์สาส์นขอยกมาแนะนำ 9 เล่ม คือ
มันทำร้ายเราได้แค่นี้แหละ
คุณเคยคิดไหมว่า.. วันหนึ่งอาจโดนจับแล้วยัดเข้าคุก ประกันตัวไม่ได้ หลักทรัพย์ไม่พอ หรือตำรวจคัดค้านการประกัน กระทั่งศาลหมดเวลาทำการ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ สมมติว่าคุณไม่ได้ประกันตัวก็แล้วกันนะ เราจะบอกว่าตอนนั้นเราร้องไห้ขี้มูกโป่งเลย แน่ล่ะ ก็โดนจับน่ะ โดนจับเหมือนอย่างที่พ่อแม่ขู่สมัยเด็กๆ ว่า "ถ้าดื้อจะให้ตำรวจมาจับ" แต่คราวนี้มันโดนจริงๆ ไง..
แม้คุณอาจคาดหวังว่า.. มันจะเป็นหนังสือเล่าเรื่องความทุกข์โศกแสนสาหัส แต่อย่าได้ปฏิเสธเรื่องราวอันไม่ทุกข์โศกนี้เลย เพราะแท้จริงมันเป็นดินแดนแสนสนุก ที่จะทำให้พวกคุณรู้ว่า.. "มนุษย์นั้นมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่และงดงามแม้จะต้องอยู่ในความมืด"
พระจอมเกล้าพยากรณ์
ด้วยพลังของการตั้งคำถาม ทำให้เรื่องราวการคำนวณสุริยุปราคาเต็มดวงที่หว้ากอของรัชกาลที่ 4 ยังมีชีวิตโลดแล่นยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน ความสนใจใคร่รู้ว่าพระองค์ทรงทำได้อย่างไร และทำไมเราจึงได้รับรู้ความทรงจำแบบนี้ กลายเป็นประเด็นถกเถียงสนทนากันในหมู่ผู้รักการแสวงหาความจริงตลอดมา
บทความทั้งหมดที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้มีคุณูปการอย่างสำคัญ นั่นคือ การสืบค้น หาข้อมูลหลักฐานในมติต่างๆ อย่างกว้างขวาง ลุ่มลึก และรอบด้านที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายใต้กระบวนทัศน์ที่แตกต่างกันดังการทบทวนถึงข้อย้อนแย้งทางความรู้ในเรื่องนี้การพิจารณาถึงความเป็นนักวิทยาศาสตร์พร้อมๆ กับความเป็นนักโหราศาสตร์ ทั้งมีเรื่องราวจากหลายศาสตร์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงการใคร่ครวญข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพด้านดาราศาสตร์ หรือพระอัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์อย่างไหนจริงกว่ากัน ที่สำคัญคือบทวิเคราะห์ว่า เหตุใดวงการวิทยาศาสตร์ไทยจึงยกย่องให้พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย และเรื่องนี้สัมพันธ์กับเรื่องการเมืองของวงการวิทยาศาสตร์ไทยอย่างไร นับเป็นเรื่องที่น่าศึกษายิ่ง
Exit Strategy เขียนโดย Martha Wells
เป็นภาค 4 และเป็นตอนจบ ของซีรี่ส์ Murderbot ผลงานของ Martha Wells เป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับความหมายของการเป็นมนุษย์
เกาะบ่าครูเบ็น ส่องเลนส์ดูโลก เขียนโดย เกษียร เตชะพีระ
ครูเบ็นเป็นครูที่สอนคุณอย่างห่างๆ และวางมือ แกชอบตั้งคำถามแปลกๆ ให้คุณชะงักคิดเพราะมันสวนทวนวิธีคิดปกติของคุณตอนนั้น วิธีการเรียนรู้ของผมจากครูเบ็นจึงผ่านงานเขียนของแกเป็นหลัก ด้วยการอ่านทบทวน สังเกตและลอกเลียนแบบมากกว่าอย่างอื่น เทียบกับอาจารย์คนอื่นแล้ว แกคอมเมนต์งานวิทยานิพนธ์ของผมไม่มากนัก เหมือนกับเมื่อไว้ใจแล้วว่าพอทำเองได้ ก็ปล่อยผมว่าไปตามถนัด จะทักท้วงติติงก็ในประเด็นย่อยเป็นจุดๆ เรื่องข้อเท็จจริงหรือการตีความ มากกว่าเค้าโครงใหญ่ภาพรวมซึ่งแกปล่อยให้เป็นไปอย่างที่เราวาดวางเอง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตอนที่ผมเขียนวิทยานิพนธ์ แกไปวิจัยภาคสนามแรมปีอยู่ที่ฟิลิปปินส์ ติดต่อกันได้ทางไปรษณีย์เป็นหลักซึ่งไม่บ่อยนัก เวลาพบปะพูดคุยกันซึ่งหน้า ก็มักเป็นเรื่องสารทุกข์สุกดิบส่วนตัว ประเด็นการเมืองไทยปัจจุบัน ตลกโปกฮานินทาคนนั้นคนนี้ไปตามเพลง มากกว่าเรื่องวิชาการ ผมได้พยายามนำข้อคิดงานเขียนของครูเบ็นบางชิ้นบางประเด็นมาประยุกต์อธิบายขยายความหรือแปลเรียบเรียงเพื่อเผยแพร่เป็นประโยชน์แก่วงวิชาการและสาธารณไทยเท่าที่มีกำลังและโอกาสจะทำ ดังที่ได้รวบรวมไว้บางส่วนในหนังสือเล่มนี้
พยนต์ เขียนโดย ปราปต์
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ มีการวิเคราะห์สาเหตุที่เจ้าฟ้านารายณ์ทรงโค่นล้มราชบัลลังก์ของสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาเอาไว้หลายข้อ เช่นเดียวกับสาเหตุที่พระเพราชาทรงโค่นราชบัลลังก์ของสมเด็จพระนารายณ์อีกต่อหนึ่ง
บ้างว่าพระเพททรงทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจทางการเมือง บ้างก็ว่า ทรงเป็นกบฏ แลคือต้นเหตุแห่งความย่อยยับของอโยธยา แต่ไม่เคยมีใครรู้ความจริงสักคน
ใจสิงห์ตื่นขึ้นมากลางป่าแถบเมืองพระบาง ไม่รู้กระทั่งว่าตัวเองคือใคร แต่เขากลับรู้ ในสิ่งที่คนอื่นยากจะรู้
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ เขียนโย Keigo Higashino
ในความเงียบสงัดยามวิกาล หัวขโมยสามคนก่อเหตุและเข้าไปซ่อนตัวในร้านชำร้าง ทันใดนั้นก็มีจดหมายลึกลับสอดเข้ามาทางประตู ใครบางคนเขียนเล่าปัญหาชีวิตและขอคำแนะนำจากเจ้าของร้านชำ หัวขโมยทั้งสามจึงนึกสนุกและสวมรอยเขียนตอบเอง
แต่จู่ๆ จดหมายก็หายวับไป...แทนที่ด้วยจดหมายฉบับใหม่ ปรากฏว่าจดหมายที่ว่านั้นถูกส่งมาจากอดีตเมื่อ 4 ปีก่อน!
พวกเขาสงสัยว่าร้านชำแห่งนี้น่าจะมีกลไกบางอย่าง ทำให้ติดต่อกับคนในอีกยุคสมัยได้ และคนที่น่าจะรู้ความลับนี้ก็คือ คุณนามิยะ เจ้าของร้าน แต่ปัญหาคือเขาจากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้ว! เมื่อมิติแห่งกาลเวลามาบรรจบ...ร้านชำที่เคยช่วยเหลือผู้คนมากมายผ่านจดหมาย จะทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่
Firefly: Legacy Edition Book One เขียนโดย Joss Whedon
Firefly คือ Sci-Fi Series ของผู้กำกับ Joss Whedon ที่โด่งดังจากการเขียนบท, กำกับภาพยนต์เรื่อง The Avengers เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้คือกัปตันที่เคยเป็นทหารผ่านศึกได้ออกเดินทางไปกับลูกเรือด้วยยานอวกาศของเขา
The Hidden Life of Trees เขียนโดยนักวนศาสตร์เยอรมัน Peter Wohlleben
หนังสือของเขาอธิบายว่าต้นไม้ต่างๆ ในผืนป่าคือสัตว์สังคม ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่นักชีววิทยาล่วงรู้มานานแล้ว บรรดาต้นไม้ต่างรู้จักนับเลข เรียนรู้ และจดจำ รู้จักดูแลเพื่อนยามเจ็บไข้ได้ป่วย รู้จักตักเตือนเพื่อนๆ ถึงภยันตรายต่างๆ ที่จะเข้ามาด้วยการส่งสัญญาณไฟฟ้าผ่านเครือข่าย ซึ่งรู้จักกันในนามของ “เครือข่ายโยงใยของต้นไม้” และด้วยเหตุผลที่ไม่อาจรับรู้ได้ ต้นไม้เหล่านี้สามารถหล่อเลี้ยงตอไม้ของเพื่อนๆ ให้อยู่รอดนับเป็นร้อยๆ ปี ด้วยการลำเลียงน้ำตาลผ่านทางรากไม้
The Wall of Storms เขียนโดย Ken Liu
หนังสือเล่มที่สองของชุด silkpunk ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาใช้เรียกแนวการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ของตัวเองสำหรับแฟนตาซีมหากาพย์อย่าง The Dandelion Dynasty
The Wall of Storms เป็นหนังสือที่ลึกและเข้มกว่าเล่มก่อนหน้า The Grace of Kings และสอบปากคำข้อสันนิษฐานมากมายเกี่ยวกับโลกของดาร่าที่วางไว้ในหนังสือเล่มแรก นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Silkpunk มากขึ้น