ทำไม?? ต้องจัดกิจกรรมการอ่านหนังสือ 10 นาทีในตอนเช้า
การจัดกิจกรรมการอ่านตอนเช้า จะช่วยกระตุ้นและสร้างสมาธิ ทำให้เด็กเรียนดีไปทั้งวัน และเนื่องจากนิสัยรักการอ่านไม่ได้เกิดจากสัญชาติญาณ ต้องทำซ้ำจนเคยชิน ไม่ต่างไปจากการตื่นนอน อาบน้ำแปรงฟัน ฯลฯ ดังนั้นถ้าเด็กได้ทำซ้ำๆ ทุกวัน ย่อมสร้างนิสัยรักการอ่านติดตัวได้สำเร็จ และเพราะโรงเรียนคือศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ของเด็ก คุณครูจึงเป็นบุคคลสำคัญที่สุด โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นฝ่านสนับสนุน
หากโรงเรียนใดจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ผู้บริหารควรพิจารณาจากห้องเรียนที่คุณครูประจำชั้นให้ความร่วมมือก่อน เพราะถ้าบังคับอาจถูกต่อต้านได้ เมื่อห้องใดจัดแล้วได้ผลจริง ห้องอื่นต้องจัดตามแน่นอน คุณครูประจำชั้นจะสอนวิชาอะไรไม่สำคัญ ทุกคนสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านได้หมด อย่าไปคิดว่า การจัดกิจกรรมนี้เป็นการบังคับเด็กๆ ให้คิดว่าคุณครูมีหย้าที่โดยตรงอยู่แล้วที่ต้องชี้นำ ปลูกฝัง และกล่อมเกลา ให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน เพราะเด็กเล็กๆ ยังคิดองไม่เป็น การสร้างเด็กให้รักการอ่านได้สำเร็จ จึงถือเป็นการทำหน้าที่ได้อย่างภาคภูมิใจในวิชาชีพครู
กิจกรรมอ่านหนังสือยามเช้า เปลี่ยนแปลงเด็กๆ และคุณครูได้อย่างไรบ้าง?
จากงานวิจัยของ ดร.นัมมียอง หลังจากกลุ่มตัวอย่างทำกิจกรรมอ่านหนังสือ 10 นาทียามเช้าแล้ว ก็เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น
- เด็กๆ จะช่างซักถามมากขึ้น เพราะการอ่านทำให้เข้าใจบทเรียนส่วนใหญ่ เมื่อเหลือที่ไม่เข้าใจเพียงเล็กน้อยจึงกล้าถามครูมากขึ้น
- เด็กชอบเขียนมากขึ้น เพราะมีข้อมูลจากการอ่าน จึงเขียนออกมาได้
- เด็กๆ สนุกกับการเรียน และวิเคราะห์เก่งขึ้น เพราะการอ่านช่วยสร้างสมาธิและดึงศักยภาพต่างๆ ออกมา เช่นความเข้าใจ การใช้จินตนาการ การอนุมานตามหลักเหตุผลการแก้ไขปัญหา
- เด็กมีเพื่อนใหม่จากการอ่าน เพราะเมื่อการอ่านกลายเป็นแฟชั่น ทุกคนก็ทำตามกัน
- ช่องว่างระหว่างคุณครูกับเด็กๆลดลง เพราะช่วงเวลา 10 นาทแห่งการอ่าน คุณครูจะลดวัยลงมาเป็นนักอ่านที่มีความสุขไปกับเด็กๆ
- คุณครูจะมีความสุขกับความเงียบสงบในชั้นเรียน เพราะเมื่อทุกคนอ่านหนังสือ ก็จะเลิกส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว
- คุณครูต้องอ่านตามเด็กและอ่านมากกว่าเด็ก เพราะเมื่อเด็กถามอะไรแล้วต้องตอบได้ สุดท้ายแล้วคุณครูก็จะได้แระโยชน์จากการอ่านไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเด็ก
กิจกรรมส่งเสริมการอ่านทำได้ไม่ยากเลย เราสามารถปรับวิธีต่างๆ ให้เมาะสมกับโรงเรียน และวัฒนธรรมชุมชน เชื่อแน่ว่าหากโรงเรียนและผู้ปกครอง ได้ตั้งเป้าหมายร่วมกัน แล้วมุ่งมั่นทำจนสำเร็จ ประเทศไทยจะก้าวสู่ทศวรรษแห่งการอ่านหนังสือ (พ.ศ.2552-2561) ได้อย่างน่าภูมิใจ ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้แน่นอน
ขอบคุณที่มา : 10 นาทีมหัศจรรย์ยามเช้า สร้างเด็กเก่งจากการอ่าน “