แอกเนส ชาน : ในบทบาทนักเขียน

แอกเนส ชาน

 

         Agnes Chan หรือชื่อเต็ม Agnes Chan Miling Kaneko Chan เป็นนักร้องเพลงพ๊อพ และมีชื่อเรียกอยู่ในกลุ่มดาราศิลปินชาวต่างชาติที่มีทั้งพรสวรรค์และชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นว่า tarento gaijin

        Agnes Chan เริ่มร้องเพลงและเล่นกีต้าร์ในขณะที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นในฮ่องกง อันเป็นงานอาสาสมัครสำหรับกิจกรรมระดมทุน เธอมีโอกาสได้บันทึกเพลงชื่อว่า'"Circle Game" ของ Joni Mitchell ร่วมกับ Irene Chan ซึ่งเป็นพี่สาวของเธอ และเป็นนักแสดง ต่อมาได้กลายเป็นเพลงยอดนิยมในฮ่องกง เธอเริ่มมีชื่อเสียงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านภาพยนตร์ของ Chang Cheh หลายต่อหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง Young People and The Generation Gap

 

 

        ภายหลังถูกชักนำโดยนักร้องนักแต่งเพลงชาวญี่ปุ่นนามว่า Masaaki Hirao ให้ไปยังประเทศญี่ปุ่น ในปีพ.ศ. 2515 เพื่อบันทึกเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกชื่อเพลงว่า "Poppy Flower" ด้วยเสียงร้องที่ใสชัดเจน ประกอบกับใบหน้าที่ดูน่ารักในแบบญี่ปุ่น อีกทั้งภาษาญี่ปุ่นที่ร้องนั้นยังแปร่งหูอยู่บ้าง ทำให้เธอได้รับความนิยมในฐานะเป็น 'teen idol ่

        ตามมาด้วยเพลงซิงเกิ้ล "Splendor in the Grass" ซึ่งได้รับรางวัล "Rookie of the Year" และเป็นรางวัลกรังด์ปรีซ์จากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้เธอยังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอเมริกันในประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2516

       เธอจบการศึกษาคุรุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น 

       นับตั้งแต่ปี 2531 แอกเนสได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การยูนิเซฟ และยังทำงานร่วมกับคณะกรรมการชาวญี่ปุ่นเพื่อยูนิเซฟ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนแต่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์การยูนิเซฟสากล

 

agnes chan

 

        แอกเนส ชาน ได้เขียนหนังสือทั้งหมดกว่า 90 เล่ม ส่วนใหญ่ตีพิมพ์เป็นภาษาญี่ปุ่นและจีน ซึ่งหลายเล่มได้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี เวียดนาม และไทย หนึ่งในงานเขียนที่สร้างชื่อให้แอกเนส ชาน ได้แก่เรื่อง “Thirty-Eight Revelations in Life” และ “50 Education Methods from a Mother Who Put 3 Sons into Stanford” ซึ่งครองตำแหน่งหนังสือที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นกว่าสองปีเลยทีเดียว รวมทั้งได้กลายเป็นคู่มือเลี้ยงลูกของคุณแม่ในญี่ปุ่นและฮ่องกงไปแล้ว

       หนังสือของ แอกเนส ชาน มีหลากหลายประเภท ส่วนใหญ่แล้วจะเกี่ยวกับด้านพัฒนาสังคมและเด็ก เธอเป็นไอดอลที่สามารถผลักดันให้สังคมญี่ปุ่นยอมรับบทบาทของแม่ที่ต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปพร้อมกัน จากการที่เธอได้ยืนกรานที่จะพาลูกชายคนแรกที่เพิ่งคลอดมาทำงานด้วย เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงครั้งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องสิทธิสตรีในสังคมญี่ปุ่น ซึ่งต่อมาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายในเรื่องการเท่าเทียม และสิทธิสตรี ในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว

       หนังสืออีกหลายเล่มของ แอกเนส ชาน ได้เขียนไว้เกี่ยวกับประสบการณ์ที่เธอได้พบเจอด้วยตัวเอง ในขณะที่ได้ไปเยี่ยมเยียนเด็กๆ ในหลายประเทศ ในช่วงที่เธอทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การยูนิเซฟ หนังสือหลายเล่มและกิจกรรมหลายอย่างของ แอกเนส ชาน จะเกี่ยวกับสันติภาพและสันติสุข เพราะเธอคิดว่าสันติสุขจะสามารถนำพาโลกของเราไปในทางที่ดีได้

 

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ