Ramit Sethi ผู้เขียนและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์สอนคนให้รวยชื่อ "I Will Teach You To Be Rich"  โดยเขาจะมีแนวคิดการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจะต้องแก้ปัญหาที่ผู้คนมีได้

      นั่นหมายความว่า มีโอกาสสำหรับคนที่กำลังมองหาไอเดียทางธุรกิจ แทนที่จะเอาแต่คิดว่า เราจะเป็น Mark Zuckerberg แห่งเฟซบุ๊กคนต่อไป ให้หันกลับมามองที่ "ทักษะอะไรที่เรามี แต่คนอื่นไม่มี" และ "คนอื่นจะจ่ายเงินให้เราสอนอะไรหรือทำอะไรเพื่อเขา"

      เขาบอกว่าให้ทุกคนลองมองไปรอบ ๆ แรงบันดาลใจมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง อย่าละเลยทักษะและใจรักอะไรบางอย่างที่เรามี บางที มันอาจจะมีค่ามากกว่าที่เราคิด

      หลายคนคงอยากรู้ว่า ชายคนนี้จะชอบอ่านหนังสือประเภทไหน ที่หล่อหลอมให้เขาประสบความสำเร็จแบบในทุกวันนี้

The Checklist Manifesto: How To Get Things Right เขียนโดย Atul Gawande

       Jack Dorsey แนะนำหนังสือเล่มนี้เพราะเขารู้ว่าอุปสรรคทางการดำเนินการคือสิ่งจำเป็นในการทำธุรกิจ การมีไอเดียที่ดีเป็นแค่ส่วนหนึ่งการเท่าเทียม การพัฒนาศักยภาพคือจุดสำคัญของผู้นำและเหล่าซีอีโอ ถ้าคุณกลัวกับความผิดพลาดหรือความล้มเหลว ลองลิสต์วิธีแก้ไว้ก่อนเลย อย่างที่ Atul Gawande อธิบาย ศัลยแพทย์ หมอ และนักบินพาณิชย์ ใช้ลิสต์ลำดับในการช่วยชีวิตหลายๆคน เพื่อให้เช็คลิสต์มีประโยชน์ จะต้องมีขั้นตอนแค่เล็กน้อยที่พูดถึงปัญหาใหญ่

Iacocca: An Autobiograph เขียนโดย Lee Iacocca, William Novak

      “เมื่อมองย้อนกลับไป ผมเติบโตมาจากครอบครัวผู้ลี้ภัย และในที่สุดผมก็สามารถประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย” Lee Iacocca เขียนไว้ในหนังสือ Autobiography ของเขาที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1984

     Lee เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จด้านการตลาด ของรถยนต์ Ford Mustang และเป็นเบอร์ 2 รองจาก Henry Ford II ในช่วงปี 1970 แต่ภายหลังเขาทั้งสองมีปัญหากัน จึงได้ปลด Lee ออกจากบริษัท ทำให้ Lee ได้ไปบริหารงานที่ Chrysler และใช้เวลา 6 ปีชุบชีวิตให้บริษัทนี้ก่อนที่จะล้มละลาย Lee ใช้เวลาที่ Chrysler นาน 14 ปี ก่อนประกาศเกษียณตัวเองในปี 1992 และหันมาทำงานทางด้านการช่วยเหลือสังคมแทน

      สื่อต่างประเทศยกให้ Lee เป็นผู้บริหารที่มีชื่อเสียง และคือบุคคลอันทรงคุณค่าที่สุดคนหนึ่งแห่งวงการรถยนต์สหรัฐอเมริกา….

Age of Propaganda: The Everyday Use and Abuse of Persuasion เขียนโดย Anthony Pratkanis และ Elliot Aronson

      กว่า Anthony Pratkanis และ Elliot Aronson เขาทั้งสองได้ศึกษามุมมอง และแนวคิดของอาชีพที่ต้องอาศัยทักษะการจูงใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักโฆษณา, นักการเมือง, นักขาย, นักการตลาด รวมถึงทนายความที่ไม่เคยแพ้ใคร เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลผล และสร้างข้อมูลพิสูจน์เรื่องการโน้มน้าวที่แท้จริงต้องทำอย่างไรบ้าง

The Robert Collier Letter Book เขียนโดย Robert Collier

      มีสิ่งสำคัญที่สุด 6 อย่างที่เป็นแรงจูงใจมนุษย์ให้ลงมือทำ: ความรัก ได้รับประโยชน์ บทบาทหน้าที่ ความภาคภูมิใจ การทำตามใจตนเอง และการปกป้องตนเอง โดยที่บ่อยครั้งสิ่งเหล่านี้ผสมผสานกันอยู่ จึงแยกออกได้ลำบาก ว่าอันไหนทรงพลังมากกว่ากัน

      แน่นอนว่าคุณยิ่งสามารถใช้แรงจูงใจมากเท่าไร คุณยิ่งจะได้ผลความสำเร็จมากเท่านั้น แต่มันก็สำคัญที่ว่าคุณแบ่งแยกระหว่าง สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เขาต้องการสินค้า กับการผลักดันเขาให้ลงมือสั่งซื้อสินค้า ได้หรือไม่ (วัตถุประสงค์ของบทความโฆษณาของคุณ ก็คือ การทำให้ผู้อ่านทำอย่างที่คุณอยากให้ทำ) เช่น เขาอาจไม่อยากจ่ายเงิน เขาอาจต้องการใช้เงินนั้นเพื่อตัวเอง และรู้สึกอยากเก็บเงินไว้ในกระเป๋าของเขา แต่ถ้าคุณสามารถ “ขาย” ไอเดียที่ว่า เงินของเขาจะมีค่ามากกว่าการที่เขาเก็บไว้กับตัวเอง หรือ มากกว่าสิ่งอื่นใดที่เข้าสามารถซื้อได้ นั่นล่ะ คุณสามารถเข้าถึงแรงจูงใจที่ถูกต้องได้แล้ว