วิกฤตแห่งการอ่านในประเทศอังกฤษ : .

วิกฤตแห่งการอ่านในประเทศอังกฤษ

 

     ในวัน World Book Day ของประเทศอังกฤษ ช่วงต้นเดือนมีนา ที่ผ่านมา Tom Watson เลขานุการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกมาเปิดเผยว่า จำนวนการยืมหนังสือในห้องสมุดสาธารณะของอังกฤษ ลดลงเกือบ 100 ล้านเล่ม นับตั้งแต่ปี 2011


     จากวิจัยพบว่าจำนวนการยืมหนังสือที่ห้องสมุด ลดลงจาก 255,128,957 เหลือเพียง 157,387,109 จากปี 2011 – ปี 2018 ลดลงถึง 38% และห้องสมุดในอังกฤษ ปิดตัวลงถึง 127 แห่ง อัตราการขอสินเชื่อกู้ยืมเพื่อธุรกิจหนังสือลดลงถึง 49%

 

     ทำให้อัตราการจ้างงานของห้องสมุดลดลง และรับสมัครเป็นอาสาสมัครแทน ทำให้รัฐลดงบประมาณเงินสนับสนุนห้องสมุดสาธารณะ

 

     Tom Watson กล่าวว่า รัฐของเห็นความสำคัญในส่วนนี้ให้มากขึ้น เพราะ การอ่านเป็นสิ่งที่มีค่า ช่วยสร้างความสุข ผ่อนคลายความตึงเครียด สร้างความบันเทิง และเป็นปัจจัยสำคัญในการศึกษาของเด็ก

 

      เขายังกล่าวอีกว่า ทุกคนในประเทศควรมีสิทธิเข้าถึงหนังสือและมีความสุขกับการอ่าน การรัฐตัดงบตรงส่วนนี้ทำให้ห้องสมุดมีคุณภาพที่ลดลง บวกกับประชาชนกลุ่มที่ไม่มีกำลังซื้อหนังสือ ไม่สามารถเข้าถึงหนังสือที่ดี และมีปริมาณเพียงพอได้ ถือว่าเป็นความเสี่ยงของประเทศมากๆ

 

      มีเด็กที่ด้อยโอกาส จำนวน 1 ใน 8 ของทั้งประเทศ ซึ่งการอ่าน สามารถเป็นตัวบ่งชี้ ถึงความสำเร็จในอนาคตของเด็กมากที่สุด มากกว่าสิ่งแวดล้อมในครอบครัว คนรอบข้าง ภูมิหลัง การศึกษา หรือรายได้ของผู้ปกครอง


      ตัวช่วยที่ดีที่สุด คือผู้ปกครองที่มีส่วนช่วยในการปลูกฝัง ให้เด็กๆรักการอ่าน ตั้งแต่ยังเยาว์วัย เช่น การอ่านหนังสือให้ลูกหลานฟัง ในวัยที่กำลังเรียนรู้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เขาใส่ใจกับการอ่านมากยิ่งขึ้น  ซึ่งทุกคนสามารถร่วมมือช่วยกันได้ เพื่ออนาคตของชาติ พัฒนารากฐานของประเทศให้มั่นคง

 

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ